WRITER: แมดาไลน์ ทูว์นีย์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ศุภิสรา เจริญศรีศิลป์
EDITOR: Mustard Seed Team
เมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา คนรู้จักของฉันที่คริสตจักร ดึงฉันไปข้างๆ ก่อนเริ่มการนมัสการรอบเช้า เพื่อจะพูดถึงลักษณะนิสัยที่อ่อนแอของฉัน เธอคิดว่าฉันนั้นยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือผู้คนในคริสตจักรมากเกินไปจนลืมความต้องการของตัวเอง ในความคิดเห็นของเธอ ฉันควรจะช่วยเหลือคนอื่นไปพร้อมๆ กับการยืนหยัดเพื่อตัวเองมากขึ้นด้วย
ฉันยิ้มและพึมพำขอบคุณเธอสำหรับความห่วงใยอย่างงงๆ
แต่ในความคิดลึกๆ ของฉัน ฉันกำลังโกรธ โกรธมากๆ ฉันรู้สึกว่าคำพูดของเธอกำลังเหยียดหยามฉัน และมันไม่เหมาะสมเลยที่จะเข้ามาพูดกับฉันแบบนั้น ฉันไม่ได้เป็นคนที่ขี้กลัวหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย ในขณะที่ฉันกำลังล้มลงและมีข้อบกพร่องเหมือนทุกๆ คน ฉันเชื่อว่าพระเจ้าได้มอบของประทานในการช่วยเหลือและการให้ด้วยใจกว้างขวางกับฉัน ฉันจะคอยมองหาคนที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่เสมอ และฉันเห็นของประทานนี้เป็นดั่งสมบัติของฉัน
จนถึงวันนี้ คนรู้จักของฉันคนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร ฉันเลือกที่จะตัดการตอบสนองในเชิงที่ไม่ดีออกไป เพื่อจะหลีกเลี่ยงไม่ให้พายุที่ไม่จำเป็นเข้ามา แต่กระนั้นเองฉันก็ยังสงสัยว่า การที่ฉันหลีกเลี่ยงความขัดแย้งโดยการไม่เผชิญหน้ากับเธอนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำแล้วจริงๆ หรอ?
ในฐานะที่เราเป็นกายของพระคริสต์ เราต่างจำเป็นที่จะสามารถตอบสนองต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งในคริสตจักรและในชีวิตของเราได้ให้เป็นไปในแนวทางที่ดี ดังต่อไปนี้
-แต่ละคนมีสันติสุข
-เสริมสร้างความรัก
-ดึงพวกเราขึ้นในฐานะผู้เชื่อในพระกายเดียวกัน ที่เราจะสามารถรับใช้พระเจ้าทั้งในคริสตจักรและโลกภายนอกได้
แล้วเราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
อัครทูตเปาโลพูดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ผ่านจดหมายถึงผู้เชื่อในเมืองโคโลสี เพราะว่าการสอนเทียมเท็จคริสตจักรเลยต้องเผชิญความทุกข์ยากลำบากจากการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันอย่างหนัก ในพระธรรมโคโลสี 3:13-15 เปาโลได้แสดงให้เราเห็นถึง 3 หลักการที่เราสามารถปรับใช้ได้ในปัจจุบัน เพื่อที่จะช่วยเราในการรับมือกับความขัดแย้ง
1. ให้อภัยผู้อื่นเหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยเรา
จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย (โคโลสี 3:13)
การให้อภัยเป็นการแสดงออกที่สำคัญมากๆ สำหรับเปาโล คำนี้ได้ถูกใช้ 3 ครั้งในพระคัมภีร์เพียงข้อเดียว เราไม่เพียงแต่ถูกเรียกให้ให้อภัยกันเท่านั้น แต่เราจำเป็นต้องให้อภัยกัน เหมือนอย่างองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยเราด้วย
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าสิ่งร้ายใดๆ ที่คนอื่นกระทำต่อเรา เราจะไม่เก็บมาสะสมไว้ในใจ ซึ่งหมายความอีกได้ว่าเราต้องลบความขมขื่น หรือความโกรธใดๆ ที่เราอาจจะรู้สึกต่อพวกเขาไปด้วย การให้อภัยที่พระเจ้าให้อภัยเรานั้น ไม่เพียงปลดปล่อยคนที่ทำผิดกับเราให้เป็นอิสระเท่านั้น แต่ยังปลดปล่อยตัวเราด้วย
คนรู้จักของฉันคนนั้นมีความประทับใจในตัวฉันที่บางทีอาจจะไม่เป็นความจริง แต่นั่นก็ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร และพระเจ้าทรงรู้เช่นกันว่าฉันเป็นใคร แทนที่จะสนใจว่าอะไรเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เธอมาให้ความเห็นกับฉันแบบนั้น ฉันเลือกที่จะฝึกให้อภัยคนอื่นในทุกๆ วัน ซึ่งจะเป็นการปลดปล่อยเราทั้งคู่ด้วย
2. สวมทับด้วยความรัก
แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความรักผูกพันทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์ (โคโลสี 3:14)
พระเยซูทรงตรัสสั่งให้เรารักกันและกัน (ยอห์น 13:34-35) อย่างไรก็ตาม เราจะรักคนที่เรามีความขัดแย้งด้วยได้อย่างไร? ถ้าเช่นนั้น เราจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างมีสติที่จะรักเขา เลือกที่จะยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็น รวมทั้งข้อเสียทั้งหมดของเขา และจำไว้ว่าพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการถูกสร้างเหมือนกันกับเรา เราจำเป็นต้องสวมทับด้วยความรัก
การรักใครบางคนที่เรามีความขัดแย้งด้วยจะกลายเป็นเรื่องง่าย ถ้าเราเข้าใจแรงจูงใจของการกระทำของเขา คนรู้จักของฉันมีเจตนาดี ดังนั้น การแสดงความรักให้กับเธอจึงเป็นทางเดียวที่จะสร้างความงุนงงและความเจ็บปวดในใจให้กับเธอ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ฉันไม่ควรจะพูดคุยกับเธออย่างเปิดใจเกี่ยวกับการแสดงออกของเธอและผลกระทบที่เธอทำกับฉันนะ ฉันยังสามารถทำแบบนั้นได้ และฉันอาจจะทำแบบนั้นสักวันหนึ่ง ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ถ้าฉันเผชิญหน้ากับเธอ ฉันจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับเธอเพราะความรัก ไม่ใช่ทำเพราะความเจ็บปวดหรือการกล่าวโทษ
พระเจ้าทรงเป็นความรัก ในขณะที่เรายังเป็นศัตรูกับพระองค์ พระองค์ทรงรักเรา (เอเฟซัส 2:4-5) ถ้าความรักของพระองค์ทรงสามารถทำให้เรามีชีวิตอยู่ร่วมกับพระองค์ได้ แล้วเราไม่ควรจะแบ่งปันความรักนี้ให้กับคนอื่นหรอ?
3. ปล่อยให้สันติสุขเข้ามาสู่หัวใจของเรา
และจงให้สันติสุขของพระคริสต์นำพาจิตใจของท่านทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มาเป็นกายเดียวกันก็เพื่อสันติสุขนี้ และจงมีใจขอบพระคุณ (โคโลสี 3:15)
การอยู่ในความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เครียดและต้องใช้พลังงานจิตใจเยอะมาก แล้วทำไมใครๆ ถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่หละ? ในเมื่อเราสามารถเลือกที่จะรับสันติสุขที่พระคริสต์มอบให้ไว้กับเราได้ (ยอห์น 14:27)
การเลือกที่จะยอมรับสันติสุขของพระคริสต์ในสถานการณ์นั้นเป็นพระพรอย่างมากในชีวิตของฉัน มันไม่ง่ายที่จะปรับใช้เสมอไป แต่มันช่วยให้ฉันได้รู้ว่า ความยุ่งเหยิงข้างในจิตใจและความเครียดที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงในชีวิตของฉัน สามารถหยุดได้ด้วยการเชื่อวางใจให้พระเยซูทำงานในเวลาที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ ด้วยความคิดแบบนี้ การเลือกสันติสุขคือทางเลือกที่ดีกว่า!
คริสตจักรเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อพระเยซู การที่จะให้คริสตจักรทำงานได้อย่างราบรื่น พระองค์เรียกร้องให้เรามีสันติสุขก่อน
ดังนั้น ถ้าคุณกำลังยึดติดกับปัญหาหรือความขัดแย้งในวันนี้ คุณจะปล่อยมันไปเพื่อเห็นแก่พระเยซูได้ไหม?
มันคงดีที่จะพูดว่าความขัดแย้งคือสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่น่าเสียดายที่เราทุกคนต่างก็เป็นคนที่ไม่สมบูรณ์แบบที่มาอยู่ร่วมกันบนโลกที่แตกสลาย ที่ที่เป็นพื้นที่แห่งการนองเลือดสำหรับการไม่ลงรอยและการต่อสู้กัน
จะมีอะไรที่สบายใจไปกว่าการที่ได้รู้ว่า เรามีพระเจ้าที่สมบูรณ์แบบ ผู้ทรงรักเราในความแตกสลายของเรา และนำทางเราในการตอบสนองหรือรับมือกับความขัดแย้งต่างๆ ตามแบบอย่างที่เหมือนกับพระคริสต์ ผ่านความรักและคำสอนของพระองค์!
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...
Recent Comments