ความสัมพันธ์ในอุดมคติ : ความคาดหวัง กับ ความเป็นจริง
เขียนโดยเวนดี้ วอง
ออกแบบและดีไซน์โดย เอเดรียน วาลูโจ และ เมเรียอาน่า ซารี ดีวี
ต้นฉบับจาก YMI
ภาพของคู่รักกำลังจับมือกัน กอดกัน และจูบกัน พวกเขามองตาของกันและกันด้วยความสุขล้น
บทความหลายๆ ฉบับได้อธิบายว่า เนื้อคู่คือใครคนหนึ่งที่ “รู้ดีว่าจะต้องรับมือกับความบกพร่อง อารมณ์ที่แปรปรวนและความเป็นคุณอย่างไร” และเป็นคนที่ “อยู่เคียงข้างเสมอในยามที่คุณล้มลง”
รู้สึกคุ้นๆ กับสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า?
ถ้าใช่ นั่นก็เป็นเพราะสิ่งเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาผ่านโพสต์เกือบ 18 ล้านโพสต์บนโลกอินสตราแกรม ที่ติดแฮชแท็ก #relationshipgoals
ความสัมพันธ์ในอุดมคติคือสิ่งที่เราปรารถนาสำหรับชีวิตรักของเรา และเป้าหมายต่างๆ เหล่านี้มักจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของเรา หรือคนในอุดมคติของเรานั้นจะทำให้เรารู้สึกอย่างไร
#ความสัมพันธ์ในอุดมคติ ก่อนหน้านี้ของฉัน
สำหรับตัวฉันเองตอนอายุ 5 ขวบ มันคือการได้เต้นรำกับผู้ชายที่ฉันชอบในห้องบอลรูม ฉันเดินเข้าไปเหมือนฉากในหนังเรื่อง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” (Beauty and the Beast) ที่เบลอยู่ในอ้อมแขนของคนรักของเธอ ขณะที่พวกเขาเดินและเต้นรำไปรอบๆ ห้องแกรนด์บอลรูม บางครั้งฉันจินตนาการตัวเองอยู่ในชุดราตรีสีเหลือง มองตาผู้ชายที่ฉันแอบปลื้มด้วยความเอ็นดูในตอนที่ฉันยังอยู่ชั้นอนุบาล
นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นความเข้าใจของฉันว่าความสัมพันธ์ควรเป็นอย่างไรนั้นคือ ผ้าที่ปะติดปะต่อกันด้วยคุณภาพ ความคาดหวัง และความคิดต่างๆ ที่ฉันเคยได้อ่าน ได้ดู หรือ ได้ยินจากที่ไหนสักที่ในช่วงที่ฉันเติบโตขึ้น
ในช่วงวัยรุ่น ฉันจินตนาการถึงแฟนในอุดมคติของฉันว่าต้องตัวสูง หล่อเข้ม และหุ่นดี เป็นคนอ่อนไหวและพูดจาอ่อนหวาน มีความเป็นศิลปินชื่นชอบการอ่านหนังสือ สามารถแต่งเพลงรักให้กับฉัน และเขียนจดหมายรักที่ทำให้ใจฉันละลายได้
เราจะใช้ทุกช่วงเวลาที่ตื่นด้วยกัน อ่านใจของกันและกันก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยปากพูด และเป็นเสียงหัวเราะและความสุขให้แก่กันและกัน ซึ่งไม่มีใครหรือสิ่งใดที่จะมาทดแทนได้
เขาคงจะเข้าใจฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบและรักฉันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เป็นเหมือนกระจกสะท้อนจิตวิญญาณและเป็นแสงสว่างในชีวิตของฉัน
ฉันไม่เคยพูดมันออกมา แต่ในส่วนลึกของจิตใจนี่คือสิ่งที่ฉันคาดหวังว่าความสัมพันธ์ในอนาคตของฉันจะเป็นแบบนี้
แน่นอน ความสัมพันธ์แรกของฉันตอนอายุ 15 ปี ไม่ได้ออกมาเป็นแบบนั้นเลย มันเริ่มต้นด้วยฉันไม่ได้สนใจในตัวเขาเลยด้วยซ้ำ เราคบกันเพราะเราเป็นวัยรุ่นขี้เบื่อที่อยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร การคุยและส่งข้อความหากันตลอดทั้งวันทั้งคืน ไปออกเดทกันและจับมือกันในที่สาธารณะ และเพื่อเป็นที่รู้จักในฐานะแฟนและมีแฟน
เขาสัญญาว่าจะรักและปกป้องฉัน และสักวันจะแต่งงานกับฉัน ในขณะที่ฉันเริ่มปฏิเสธการประกาศความรักครั้งนี้ออกไป ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกเขินและเชื่อจริงๆ ในเรื่องอนาคตของเรา ในตัวเขา ในฐานะคนคนหนึ่ง และในฐานะแฟนของฉัน
เมื่อมองย้อนกลับไปเราทั้งคู่ก็แค่อยากจะรู้สึกถูกรัก แน่นอน เราได้มีประสบการณ์สัมผัสถึงความหลงใหลของรักแรก แต่ก็รวมถึงการอกหักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เกิดจากความเป็นเด็กและไม่สามารถรักกันได้จริงๆ ความไม่สมบูรณ์แบบและทุกๆ อย่าง
การเลิกลาของเราและการหายไปของเขาจากชีวิตของฉันเกิดขึ้นเร็วมาก สัญญาต่างๆ ที่เขาได้ให้กับฉันตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน สัญญาที่ฉันยึดติดและหลังจากนั้นก็ร้องไห้กับมันไปอีกนาน
ค้นหาความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
กดข้ามไปอีกหลายปีต่อมา ฉันตกลงปลงใจแต่งงานกับสามีของฉัน ตลอดระยะเวลาสองปีของการจีบกัน ฉันตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกวัน ความสัมพันธ์ของเราช่างมีความสุข โรแมนติก และฝันกลางวันถึงแต่เรื่องรักๆ ฉันมักจะตื่นนอนตอนเช้านึกถึงแต่เขาพร้อมด้วยรอยยิ้มติงต๊องบนใบหน้าของฉัน ทุกข้อความและบทสนทนาที่เรามีนั้นทำให้ฉันรู้สึกดีจากข้างใน เราแทบจะไม่ทะเลาะกันเลย และเป็นคู่สุดหวานที่คุณน่าจะไม่ชอบเอาซะเลย (กระแอม)
เราใช้ชีวิตดั่งนิยายรักที่บอกเล่าและเล่นทุกบทในนิยาย เพลง หนังสือ และภาพยนตร์ ที่ขายให้เรา ด้วยทุกประโยคที่เขียน และเนื้อเพลงที่ร้อง และฉากที่ถูกสร้างขึ้น
ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเราอาจดูเหมือนคู่ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติทั่วๆ ไปที่คุณเห็นบนโลกโซเชียล (#relationshipgoals) การอยู่ในสภาวะแห่ง “ความสุขในความรัก” ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
ถึงแม้ว่าสามีของฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะรักฉัน เขาล้มเหลว และฉันก็เช่นกัน เมื่อเขาทำให้ฉันเจ็บปวดโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันพบว่าตัวเองเอาความหวังไปฝากไว้ที่เขาที่จะเติมเต็ม #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ เหล่านั้น และมันคือสิ่งที่ทำให้เรายังไปต่อ ฉันเริ่มจะเห็นข้อบกพร่องของเขา และฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า เหมือนถูกหลอก
ฉันไม่ควรแปลกใจกับความจริงข้อนี้เลย เราทั้งคู่เป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น และท้ายที่สุด เขาไม่สามารถทำตามความคาดหวัง ความต้องการและความอยากของฉันได้ เขาไม่สามารถรักและเข้าใจฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข และฉันก็เช่นกัน ฉันไม่สามารถเป็นแบบนั้นสำหรับเขาได้
ปัญหาเกี่ยวกับ #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ คือ ความต้องการให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความพยายามเท่ากัน เพื่อบรรลุความปรารถนาของความรู้สึกถูกรักในทุกเวลา
แต่ความเป็นจริงที่เรารู้ๆ กันอยู่ มันห่างไกลมาก เราทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวในเรื่องแก่นของชีวิตและมีขีดจำกัดในความสามารถที่จะรัก และสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในความสัมพันธ์ที่โรแมนติกของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวและในอาชีพการงานด้วย ที่เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ความขัดแย้งและความแตกแยกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งนี้ทำให้ฉันสงสัยว่า: ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบมีอยู่จริงหรือ? เราสามารถไปถึง #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ ที่เราเคยใช้เป็นมาตรวัดความสัมพันธ์ของเราได้หรือไม่?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันบอกคุณว่าคำตอบไม่ได้อยู่ที่การพยายามทำให้สำเร็จตามแบบความสัมพันธ์ในอุดมคติ แต่เป็นการพักสงบในความสัมพันธ์กับคู่ครองที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ?
ใครสักคนที่จะไม่มีวันผิดสัญญาหรือทำให้เราผิดหวังในทุกๆ ด้าน คนที่รู้จักเราเป็นการส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง และรักเรามากจนยอมตายแทนเราได้? คนๆ นั้นคือ พระเยซู
พระองค์ไม่ได้เพียงแต่ยอมรับหรือสัญญาว่าจะตายเพื่อเรา พระองค์ทรงทำอย่างนั้นจริงๆ
“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา” โรม 5:8
พระเยซูทรงทำโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ใครคือพระเยซูและทำไมต้องมาตายแทนเรา?
คือว่า พระคัมภีร์ตรัสสอนว่าพระเยซูคือพระเจ้าผู้ทรงสร้างของเรา ผู้ที่ลงมาในโลกบังเกิดเป็นมนุษย์ (ยอห์น 1:1,14; ยอห์น 10:30) พระองค์ทรงตายแทนเรา เพื่อชดใช้ความบาปและความผิดของโลกนี้ รวมถึงความบาปของคุณและฉัน (1 ยอห์น 2:2) และพระองค์ทรงทำเพื่อที่เราจะได้กลับคืนดีกับพระเจ้า และเพื่อมีประสบการณ์และมีความสุขไปกับการมีความสัมพันธ์กับพระองค์ตลอดชั่วนิจนิรันดร์ (1 เปโตร 3:18)
นี่คือความรักที่เราถูกออกแบบมาเพื่อให้เรียนรู้จักและสัมผัสและมีความสุข ในพระเจ้า ผู้ที่เป็น “เนื้อคู่” ที่แท้จริงของเรา
ท้ายที่สุด พระองค์คือผู้สร้าง ผู้ช่วยให้รอดและพระบิดาในสวรรค์ และความรักคือสิ่งที่เรียกเราให้เข้าใกล้พระองค์ ถึงแม้เราจะละเลย ปฏิเสธ และดูหมิ่นพระองค์
จุดสูงสุดของ #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ
ในฐานะลูกที่พระองค์ทรงรัก เราได้สัมผัสถึงความรักของพระองค์และเป็นตัวอย่างของความรักที่สมบูรณ์แบบ ฉันสามารถบอกคุณได้เลยว่าความสัมพันธ์ในอุดมคติของโลกไม่สามารถเปรียบเทียบกับความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา ความรักที่ “เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” (โรม 8:38-39)
เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน และเพราะพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้กับเราว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราสามารถรักผู้อื่นด้วยความรักอันสมบูรณ์แบบของพระองค์ ทั้งในแบบโรแมนติกและแบบอื่นๆ (1 ยอห์น 4:19)
★
ถ้าคุณกำลังมองหา #ความสัมพันธ์ในอุดมคติ ที่จะสำเร็จได้และคงอยู่ยาวนานกว่าแค่ความหลงใหลชั่วขณะ พระเยซูเชื้อเชิญให้คุณสัมผัสด้วยตัวเองผ่านความสัมพันธ์กับพระองค์ คุณจะพิจารณาตอบรับคำเชิญของพระองค์และทำความรู้จักเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรักที่พระองค์มีต่อคุณหรือไม่?
หากบทความนี้แตะใจคุณ เราหวังว่าคุณจะหยิบพระคัมภีร์และเปิดอ่านดูว่าพระคัมมภีร์ได้สอนอะไรเกี่ยวกับพระเจ้าและข่าวดีที่พระองค์ทรงให้กับเรา คุณยังสามารถติดต่อเพื่อนคริสเตียนหรือคริสตจักรแถวบ้านเพื่อพูดคุยกับใครสักคนที่จะสามารถแบ่งปันกับคุณมากยิ่งขึ้น
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)