
WRITER: มิเชล ชวน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: รักษพร พรกีรติกุล
EDITOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์
จริงหรอพระเจ้า? ฉันนอนลงที่บ้านและมองพัดลมติดเพดานหมุนไปมา ในเดือนมกราคม ปี 2014 เป็นช่วงที่ฉันก้าวเข้าสู่วัยที่ต้องหางานทำ เป็นวัยรุ่นที่ไม่มีประสบการณ์และกำลังต่อสู้กับการเชื่อฟังพระเจ้า ฉันเพิ่งจบหลักสูตร 3 เดือนของโรงเรียนพระคัมภีร์ที่นิวซีแลนด์และการกลับไปยังมาเลเซีย ทำให้ฉันรู้ซึ้งว่าการไม่มีงานทำนั้นเป็นยังไง ถึงแม้จะเป็นแค่ไม่กี่อาทิตย์แต่มันก็ทำให้ฉันเป็นบ้าได้
ฉันเป็นพวกชอบวางแผนฉันชอบที่จะกำหนดชีวิตและอนาคตของตัวเอง ฉันชอบการทำงานหนัก มีเป้าหมายและทำมันให้สำเร็จ ถ้าคุณล้มเหลวในการวางแผนมันแสดงว่าคุณก็วางแผนที่จะล้มเหลวจริงไหม? ฉันก็เลยเฝ้ารอนักวางแผนที่ดีที่สุดและมั่นใจว่าเขาจะมอบแผนการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับฉัน แต่ฉันก็รู้สึกว่าพระเจ้าบอกฉันว่า “ใช้เวลานี้เพื่อพักผ่อน ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องวางแผนอะไร ไม่แม้กระทั่งหางาน”
หลังจากนั้น? ความเงียบงัน…
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ญาติพี่น้องของฉันก็เริ่มนินทาและมันจะกลายเป็นช่องว่างในเรซูเม่ว่าฉันไม่ได้หางานทำ เมื่อถึงจุดนี้แผนการณ์ของพระองค์ที่บอกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
พระเจ้ากับฉันมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างตลก พระองค์มักจะทำให้แผนของฉันวุ่นวาย บางทีก็รื้อแผนการณ์ของฉันเอาดื้อๆ ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไรเมื่อรู้สึกเหมือนพระเจ้าบ้าไปแล้ว
หลังจากการบ่นและสูญเสียน้ำตามามากมาย ฉันสงบใจลงและใคร่ครวญพระวจนะคำของพระองค์ ใน มัทธิว 7:7-12 พระเยซูบอกให้เราขอ แสวงหา และเคาะประตู ฉันพบคำแนะนำดีๆ ในข้อพระคำนี้ เป็นกำลังใจที่ช่วยนำทางฉันในช่วงเวลานั้น
จงขอแล้วท่านจะได้รับ
เรามักถูกสอนไม่ให้ตั้งคำถามกับพระเจ้าหรือสงสัยความเชื่อของเรา แต่ฉันขอคิดต่างด้วยความถ่อมใจ พระเจ้าทรงสร้างให้เราเป็นนักคิดที่มีเหตุผล
การขอให้พระเจ้าช่วยสำแดงให้เราเข้าใจในสิ่งที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์โลกอย่างเราเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับพระคัมภีร์(สดุดี 44:23-24, สดุดี 74:9-11)
ถ้าการตั้งคำถามเพียงเพื่อต้องการให้แผนการณ์ของพระเจ้าเป็นไปตามแผนการของเรา ตามวิถีชีวิตหรือทางเลือกของเรานั้น มันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ มันจะเป็นเพียงแค่ความสงสัยของคนที่เห็นแก่ตัว แต่ถ้าเรามีจิตใจที่อยากแสวงหาด้วยความจริงใจ พระองค์จะตอบเราแม้อาจจะไม่ได้ตอบในทันทีทันใด แต่สันติสุขของพระองค์จะช่วยทำให้ความโกลาหลในใจสงบลง ฉันยิ่งได้พบสันติสุขในการนมัสการ และในถ้อยคำของพระองค์ มันช่วยให้ฉันพบความสงบท่ามกลางหัวใจที่เต็มไปด้วยปัญหา
จงหาแล้วจะพบ
การมองหาที่ปรึกษาที่มีสติปัญญามักจะเป็นเรื่องดีที่คริสเตียนมองข้ามไป สุภาษิตเตือนเราว่าสติปัญญานั้นเป็นสิ่งล้ำค่า ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาในการยอมจำนนกับแผนการของพระเจ้าแล้วล่ะก็ ลองมองหาสติปัญญาของพระเจ้าผ่านผู้นำหรือเพื่อนๆ ของคุณ
จงฟังคำแนะนำและรับคำสั่งสอน เพื่อเจ้าจะได้ปัญญาในภายหลัง(สุภาษิต 19:20)
เมื่อแผนการของพระเจ้าดูเหมือนจะไม่มีเหตุผล คำแนะนำจากพระเจ้าจะเป็นเหมือนโคมส่องเท้าในความมืด ชี้ทางให้คุณกลับไปสู่ความเชื่อในความประเสริฐของพระองค์
พ่อ แม่ พี่สาว เพื่อนสนิท และพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณเป็นแหล่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ในฤดูกาลแห่งความสิ้นหวัง สิ่งเหล่านี้เตือนฉันว่าในบางครั้งการติดตามพระประสงค์ของพระเจ้าอาจไม่ใช่ในแบบที่โลกต้องการหรือยอมรับ สติปัญญาของพวกเขาช่วยให้ฉันกล้าหาญที่จะพักสงบในการเชื่อฟังแทนการฟังเสียงของโลก
จงเคาะและประตูนั้นจะเปิดให้แก่ท่าน
สุดท้ายการเคาะประตูที่หัวใจตัวเองขอให้พระเจ้าเปิดเผยว่ามีสิ่งใดที่หยุดเราไม่ให้ไว้วางใจในแผนการของพระองค์ อาจเป็นเพราะเรามั่นใจในเหตุผลของตัวเองมากกว่าพระเจ้าจอมราชัน ฉันละอายจริงๆ ที่เคยมั่นใจแบบนั้น ฉันเคยคิดว่าไม่มีใครรู้ถึงจิตใจส่วนลึกของฉันและความต้องการของฉันมากกว่าตัวฉันเอง ฉันผิดเต็มๆ เลยล่ะ
ท้ายที่สุดเราก็คือมนุษย์ บ่อยครั้งที่แผนการของเรามักจะใจแคบและมองด้วยมุมมองที่ตื้นเขิน เราจะคิดแผนการที่สมบูรณ์ได้อย่างไรในเมื่อเราไม่สามารถรู้อนาคตได้? บางทีเราอาจจะมีอำนาจในการควบคุมชีวิตตัวเองน้อยกว่าที่เราคิด ทางเลือกต่างๆ (ถึงแม้ว่าจะเป็นของเราเอง) มักจะไม่สามารถรับรองผลลัพธ์ที่เราหวังไว้ได้
ในเยเรมีย์ 29:11-14 เราพบพระสัญญาในพระประสงค์ที่พระเจ้ามีต่อเรา แผนการณ์ที่มอบความหวังและอนาคต แผนการของพระองค์ไม่ได้ถูกทำให้มัวหมองไปด้วยความบาปหรือความเห็นแก่ตัว แต่เป็นแผนการที่พ่อมีไว้สำหรับลูกที่รัก พระองค์ให้ในสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคือการได้รู้จักกับพระผู้ทรงสร้างอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจพระประสงค์ในการทรงสร้างของพระองค์ เมื่อเราแสวงหาพระองค์ด้วยสิ้นสุดหัวใจ เราจะพบกับพระองค์นั่นคือพระสัญญาของพระองค์
ในปี 2014 ฉันได้เรียนรู้กับตัวเองว่าแผนการณ์ของพระองค์นั้นดีกว่าของฉันเสมอ ฉันเชื่อฟังพระองค์โดยที่ไม่ได้หางาน ที่จริงแล้วฉันใช้ช่วงเวลานั้นกับพระองค์ ติดตามรายการ Top Chef ยังคงนั่งจ้องไปยังพัดลมบนเพดานและจมอยู่กับการสงสารตัวเอง(ใช่ ฉันยังคงเป็นคนบาป) เพราะยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะวางใจในแผนการอันสุดโต่งของพระองค์ เมื่อมองย้อนกลับไป ช่วงเวลาเหล่านั้นล้วนมีคุณค่าในชีวิตคริสเตียนของฉัน เป็นส่วนลึกในใจที่พระเจ้าเป็นจริงในชีวิตของฉันมากกว่าครั้งไหนๆ ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นหุ่นที่ได้รับความเมตตาจากนักเชิดหุ่น ในทางกลับกันฉันได้รู้จักพระลักษณะของพระองค์มากขึ้น พระองค์เป็นพระบิดาที่ดีและรักฉัน
เป็นจริงตามพระลักษณะของพระองค์ พระเจ้าไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง หลังจาก 2 เดือนกว่าๆ ฉันพบตำแหน่งงานในองค์กรคริสเตียน หลังจากการสัมภาษณ์ครั้งแรกก็มีข้อเสนอดีๆ มากมาย ฉันรู้สึกเหมือนงานหาฉันพบเพราะแผนการของพระเจ้าไม่เคยครึ่งๆ กลางๆ พระองค์เป็นนักวางแผนระยะยาว เพราะหนึ่งปีหลังจากนั้นในขณะที่ฉันกำลังทำงานเร่งด่วน ฉันได้พบกับผู้ชายแสนดีที่มาทำงานอาสาสมัครและเรากำลังจะฉลองวันครบรอบแต่งงาน 2 ปีด้วยกันในเดือนนี้
จริงอยู่แผนการของพระเจ้าอาจจะดูไม่มีเหตุผลในตอนนั้นอย่างน้อยก็ในความจำกัดของเรา การไว้วางใจในพระเจ้านั้นไม่ง่ายโดยเฉพาะเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เป็นไปอย่างที่คุณชอบ ในตอนนั้นแผนการณ์ของพระเจ้าอาจจะดูไม่สวยงามหรือสิ่งที่คุณเฝ้าอธิษฐานขออาจดูเหมือนไม่มีอะไรก้าวหน้า คุณอาจจะรู้สึกหลงทางและเดียวดายแต่จำไว้ว่าถ้าพระเจ้าพาคุณมายังทางนี้ พระองค์ก็จะพาคุณผ่านไป พระองค์จะไม่ทอดทิ้งเราไว้ลำพังฉันรู้ความจริงอย่างหนึ่งว่า(ฮีบรู 13:5)
จงก้าวต่อไป พระองค์จะทรงทำให้ทางของท่านราบรื่น
ถ้าคุณพยายามจะหาเหตุผลสำหรับแผนการของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตคุณในช่วงเวลานี้ ฉันขอให้กำลังใจคุณที่จะไม่กลัวในการขอความเชื่อและการยืนยันจากพระองค์ มองหาผู้ให้คำปรึกษาที่มีสติปัญญาที่เป็นแบบอย่างจิตวิญญาณในชีวิตคุณ เคาะประตูหัวใจของคุณ ขอพระเจ้าที่จะช่วยให้คุณวางใจในพระองค์ได้อย่างสุดหัวใจ
สุดท้าย ฉันจะอธิษฐานขอให้คุณได้พบกับการพักสงบ ในความมั่นใจว่าอนาคตของคุณนั้นอยู่ในพระหัตถ์ของสุดยอดนักวางแผน
YOU MAY ALSO LIKE
อย่าต่อสู้กับบาปทางเพศด้วยตัวคนเดียว
WRITER: เอมมี่ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: Jinn T.EDITOR: Mustard Seed Team ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 20 ปี และฉันเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ทั้งหมดนี้เริ่มต้นตอนที่ฉันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง ฉันได้คบกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง...
ไว้วางใจพระเจ้า ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง
WRITER: ฮันน่า สปอลดิ้ง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์ EDITOR: Mustard Seed Team สามปีที่แล้ว ฉันได้เริ่มต้นชีวิตนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยคริสเตียนเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ Calvin College ฉันมีความกังวลมากในช่วงแรกๆ...
เมื่อฉันไม่ยอมปล่อยวางจากความเจ็บปวด
WRITER: เฮเซล แคสสิเมียร์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: เฮจี คิม EDITOR: Mustard Seed Team ในระหว่างที่ฉันคุยโทรศัพท์กับแม่ คุณยายของฉันอยู่ๆ ก็เอาเรื่องเก่าที่ผ่านไปแล้วมาพูดให้เป็นประเด็น ฉันคิดว่าเราน่าจะผ่านช่วงเวลาของการกล่าวหาไปแล้ว...