fbpx
WRITER: เฮเซล แคสสิเมียร์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: เฮจี คิม
EDITOR: Mustard Seed Team

ในระหว่างที่ฉันคุยโทรศัพท์กับแม่ คุณยายของฉันอยู่ๆ ก็เอาเรื่องเก่าที่ผ่านไปแล้วมาพูดให้เป็นประเด็น

ฉันคิดว่าเราน่าจะผ่านช่วงเวลาของการกล่าวหาไปแล้ว นานพอที่จะทำให้คุณยายนั้นปล่อยวางในสิ่งที่ไม่พอใจกับฉัน ฉันแค่คิดว่าบางที สักวันหนึ่ง หรือจะดีมากถ้าในเร็วๆ นี้เราสองคนจะผ่านช่วงเวลาแห่งการใช้คำพูดทำร้ายจิตใจซึ่งกันและกันไปได้

และเรื่องราวที่ผ่านไปแล้วก็วนซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง คุณยายพูดถึงเรื่องในอดีตที่ฉันเคยทำผิดพลาดว่า “ฉันขโมยเสื้อแขนยาวของคุณยาย” จนถึงตอนนี้คุณยายก็ยังคงพูดถึงมันอยู่เรื่อยๆ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยวางเงิน 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,000 บาท) ไว้บนพระคัมภีร์ของคุณยาย แต่สุดท้ายฉันก็มาอยู่จุดนี้อีกแล้ว จุดที่ได้ยินคำกล่าวหาเดิมๆ คำพูดที่แทงทะลุไปถึงหัวใจ

คำกล่าวหาล่าสุดนี้มันทำให้แผลเปิดอีกครั้ง แต่ฉันก็หัวเราะออกมาดังๆ ไม่ใช่เพราะมันเป็นเรื่องตลก แต่เพราะฉันไม่อยากเชื่อในสิ่งที่กำลังได้ยิน

ฉันหัวเราะเพราะฉันรู้ว่าเรื่องที่กำลังพูดถึงนั้นมันห่างไกลจากความเป็นจริงอย่างที่สุด ฉันหัวเราะต่อหน้าคนที่รับรู้และเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง แต่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นการหัวเราะที่ปิดบังความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึก

ฉันหัวเราะ แต่ในใจฉันก็อธิษฐานด้วยสุดกำลังและปรารถนาว่าสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ฉันหัวเราะ แต่ฉันก็รู้ว่าถ้อยคำที่ออกมาจากปากของคุณยายนั้นเกิดขึ้นจากความเจ็บปวดบางอย่างที่เธอเคยสัมผัสมานานแล้ว ความเจ็บปวดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย ฉันแค่ดันโชคดีกลายเป็นคนรองรับอารมณ์และความเจ็บปวดของคุณยาย

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้และฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน แต่ละครั้งมันส่งผลกระทบจนทำให้ฉันต้องถามตัวเองเสมอว่า “ฉันไปทำอะไรให้คุณยายรู้สึกแบบนี้กันแน่ หรือฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าจนทำให้เธอไม่อยากสานสัมพันธ์กับฉัน” “ทำไมฉันถึงต้องอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะเลวร้ายลง”

ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหลายปี และในอดีตนั้นฉันยอมให้สิ่งเหล่านี้เข้ามามีส่วนในใจและความคิดของฉัน และปล่อยให้มันมีผลต่ออารมณ์ของฉันอย่างรุนแรง หลายครั้งที่ฉันรู้สึกไม่อยากทานอาหาร มีอาการนอนไม่หลับและร้องไห้ มันยากสำหรับฉันที่จะเข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ของเราจึงเป็นเช่นนี้

ครั้งสุดท้ายที่ฉันเจอคุณยายที่งานแต่งงานของพี่ชาย ฉันพยายามที่จะคุยกับคุณยายแต่เธอก็ไม่ได้สบตาฉันเลย ปล่อยให้ฉันพูดอยู่ฝ่ายเดียว เดี๋ยวนี้เธอก็ไม่กล่าวคำอวยพรในวันเกิดของฉัน ราวกับว่าฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตของเธออีกต่อไปแล้ว ที่น่าเศร้าก็คือเราไม่ได้อยู่ห่างไกลหลายร้อยไมล์แต่คุณยายอาศัยอยู่ใกล้ๆ แค่ข้างหน้าสนามบ้านของฉันเอง

ฉันคิดแล้วคิดอีกว่าจะไปเยี่ยมคุณยาย และก็เกือบจะทำเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว ฉันเคยคิดจะเขียนจดหมายถึงเธอ ฉันอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ อธิษฐานระหว่างเผชิญเรื่องนี้ และก็ยังอธิษฐานอยู่ตอนนี้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อความสัมพันธ์ของเราจะกลับมาดีอีกครั้ง

ทุกครั้งที่ฉันเกือบจะไปเยี่ยมคุณยายนั้น ฉันรู้ว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก ดังนั้นสำหรับตอนนี้ สิ่งที่ฉันทำได้ในแต่ละวันคืออธิษฐานและไว้วางใจว่าในเวลาที่เหมาะสมนั้น พระเมตตาของพระเจ้าและการฟื้นฟูจิตใจจะมาหาความสัมพันธ์ของเราสองคน

วางใจพระเจ้าในการเยียวยาและการฟื้นฟู

เวลาล่วงเลยผ่านไป ถึงแม้ว่าฉันไม่เห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีสัญญาณเล็กๆ จากพระเจ้า จึงทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าพระองค์ทรงควบคุมอยู่ พระคำจากโรม 8:28 ได้ส่องแสงผ่านความมืดมิด พระเจ้ากำลังทำการทุกอย่างรวมกันเพื่อให้เกิดผลดี แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผล แม้ว่ามันจะทำให้เราเจ็บปวดในตอนนี้

ฉันค่อยๆ เข้าใจพระองค์อย่างช้าๆ ว่าพระองค์ไม่ต้องการให้ฉันเป็นห่วง พระองค์ไม่ต้องการให้ฉันวิตกกังวลหรือเศร้าไปกับเรื่องนี้

ฉันเคยโหยหาความสัมพันธ์แบบทางโลก แต่พระองค์ทรงทำงานในจิตใจของฉันและพาฉันเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพระองค์ 

พระเจ้าไม่ได้อยากให้ฉันคิดหรือตั้งคำถามว่าพระองค์กำลังทำอะไร พระองค์เพียงแค่ต้องการให้ฉันวางใจและมองไปที่พระองค์ แทนที่จะมองไปที่อุปสรรคของตัวเอง

ฉันออกไปวิ่งในเย็นวันจันทร์ และแทนที่จะจมอยู่กับอารมณ์ที่คืบคลานเข้ามาในใจ ฉันหันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงรู้จักฉันดี ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคต่างๆ ของฉัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยที่มีเท้าข้างหนึ่งนำหน้าเท้าอีกข้าง ฉันเพียงแค่พูดชื่อของพระเยซูในทุกย่างก้าว ฉันนึกคำอธิษฐานไม่ออก แต่ฉันถามพระเจ้าว่าพระองค์นั้นอยู่ที่ไหนในสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ฉันเลยหยุดพักเพื่อไปเดินเล่น และระหว่างที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงผ่านช่อดอกในไร่ข้าวโพด พระเจ้าย้ำเตือนฉันว่าพระองค์อยู่ที่แห่งนั้น พระองค์ทรงอยู่ทุกที่ พระองค์ไม่เคยที่จะไม่ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ และพระองค์ก็จะไม่หายไปไหนตอนนี้เช่นกัน

หลังจากเย็นวันนั้น ฉันเปิดอ่านพระคัมภีร์และดันพลิกไปสู่เรื่องของโยบพอดี ฉันอ่านเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกพรากไปจากโยบ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงสรรเสริญพระเจ้าต่อไป พวกเราไม่ได้ถูกท้าทายในเรื่องเดียวกันนี้หรือ? แน่นอนว่าสิ่งต่างๆ อาจแตกต่างจากสิ่งที่ฉันหวังหรืออธิษฐานไว้ แต่พระองค์ก็ยังทรงอยู่ และฉันจะสรรเสริญพระองค์ถึงความดีงามที่พระองค์ทรงสร้างในชีวิตฉันต่อไป

มันเป็นการตัดสินใจในทุกๆ วันที่เราจะเลือกสรรเสริญพระเจ้าและไม่จมอยู่กับความเจ็บปวด 

และจำเป็นที่เราจะต้องพึ่งพากำลังที่มาจากพระองค์ มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องมองหาอย่างขะมักเขม้น อย่างมีสติและกระตือรือร้น

เมื่อวันที่ฉันต้องเผชิญกับความยากลำบากและปรารถนาถึงความสัมพันธ์ที่ฉันตามหาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ฉันต้องเลือกอย่างมีสติที่จะจดจ่อไปยังแผนการของพระเจ้า และบางครั้งก็ต้องเรียกชื่อพระองค์อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสะท้อนถึงพระพรของพระองค์ที่ส่งมาให้ฉัน และเพื่อที่จะวางใจถึงแม้ว่าบางสิ่งจะดูไม่สมเหตุสมผล พระองค์กำลังเติมเต็มช่องว่างในชีวิตของเราและจัดเตรียมให้ในทางที่พระองค์ทรงรู้ดีว่าในใจฉันต้องการอะไร

ไม่ว่าคุณจะผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดอะไรมา หรือกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ หรือจะเผชิญในอนาคต ให้จับมือของพระองค์และวางใจพระองค์ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวด ความกลัว หรือข้อกังขาต่างๆ ทำให้คุณเสียใจในแต่ละวันมากจนเกินไป มันมีสิ่งที่สวยงามในทุกตอนของชีวิตและทุกฤดูกาล และพระองค์จะไม่ทิ้งไว้เป็นฝุ่นผง พระองค์สามารถใช้ขี้เถ้าเหล่านั้นแล้วปั้นเป็นผลงานชิ้นเอกที่สวยงามที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นมา

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This