อย่าต่อสู้กับบาปทางเพศด้วยตัวคนเดียว

WRITER: เอมมี่ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Jinn T.
EDITOR: Mustard Seed Team

ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 20 ปี และฉันเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง

ทั้งหมดนี้เริ่มต้นตอนที่ฉันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง ฉันได้คบกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง เขารับใช้พระเจ้าโดยการเป็นนักดนตรีในทีมนมัสการ เพราะว่าเขารับใช้พระเจ้าในตำแหน่งที่ค่อนข้างสำคัญ ฉันจึงคิดไปเองว่าเขาคงเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งที่จะให้เกียรติฉันในฐานะที่ฉันเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขานั้นพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลย

วันหนึ่ง เขามาที่บ้านของฉันในขณะที่พ่อและแม่ของฉันไม่อยู่บ้าน ตอนแรกเราทั้งคู่ก็คุยเรื่องปกติทั่วไป แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มต้นทำในสิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับคนที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่

ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้มีความกล้าหรือแข็งแรงพอที่จะขัดขืนหรือตอบโต้ หลังจากวันนั้น ฉันก็รู้สึกขยะแขยงกับร่างกายของตัวเองมาก และไม่นานหลังจากนั้นฉันก็ตัดสินใจเลิกกับเขาด้วยความกลัวว่าเราทั้งคู่จะทำสิ่งที่แย่ไปมากกว่านี้ เราไม่ได้จบลงด้วยการมีความสัมพันธ์ทางเพศ แต่สิ่งที่เขาทำกับฉันในวันนั้นนำฉันไปสู่การทำบาปทางเพศอื่นๆ

สองสัปดาห์หลังจากที่ฉันเลิกกับเขา ฉันบังเอิญไปเห็นหนังโป๊บนโทรศัพท์มือถือของพ่อ ลึกๆ แล้วความรู้สึกของฉันสับสนไปหมด ใจหนึ่งก็รู้สึกขยะแขยงกับตัวเองที่ได้ดูวีดีโอพวกนั้น แต่อีกใจหนึ่งนั้นฉันกลับอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก

เพื่อเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของฉันนั้น ฉันจึงหาเรื่องราวทางเพศต่างๆ เพื่อที่ว่าฉันจะได้หายสงสัยและได้รับคำตอบ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ฉันตกลงไปลึกยิ่งกว่าเดิมในหลุมพรางของความบาปทางเพศ ฉันเริ่มต้นการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง จนถึงช่วงที่ฉันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่

ตอนช่วงแรกๆ ฉันจะรู้สึกผิดอย่างมากในแต่ละครั้งที่ฉันทำมัน และฉันจะบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีทางกลับไปทำอีก แต่ฉันก็ไม่สามารถต้านทานการทดลองที่เต็มไปด้วยความบาปได้และสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า

เมื่อฉันตัดสินใจอย่างแน่วแน่ด้วยความเชื่อของฉันเอง ช่วงปีแรกในมหาวิทยาลัยฉันตัดสินใจว่าฉันไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไว้ได้อีกต่อไป ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันจะไม่อนุญาตให้บาปนี้ล่อลวงฉันได้ ฉันเริ่มต้นเฝ้าเดี่ยวเป็นประจำ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันหยุดคิดเรื่องเพศได้ ฉันเข้าร่วมงานเสวนาในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาของสื่อลามกและอ่านบทความเกี่ยวกับวิธีการหลุดพ้นจากบาปทางเพศ ฉันอธิษฐานขอพระเจ้าให้ทรงช่วยฉัน และบังคับตัวเองให้ใช้เวลากับการเฝ้าเดี่ยวและอธิษฐานทุกวัน

แต่ความพยายามทั้งหมดนั้นก็ไม่เกิดผลเลย ฉันไม่สามารถห้ามใจได้ที่จะตกอยู่ในการทดลองในโลกแห่งจินตนาการทางเพศของฉัน ฉันรู้สึกด้วยซ้ำว่าฉันได้สูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับพระเจ้า รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นพวกชอบเสแสร้ง เพราะฉันไปโบสถ์ทุกอาทิตย์และร่วมรับใช้ในชมรมคริสเตียนของมหาวิทยาลัย แต่ฉันกลับติดอยู่กับความบาปทางเพศ

มันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ฉันพยายามทำทุกอย่างแล้ว ทำไมพระเจ้าถึงไม่ปลดปล่อยฉันออกจากความบาปนี้ ฉันพยามยามสุดความสามารถ แต่ฉันก็นึกไม่ออกแล้วว่าต้องทำอะไรอีกจึงจะหลุดพ้นจากการเป็นทาสของความบาปทางเพศนี้ ความมุ่งมั่นของฉันทำให้ฉันคุกเข่าลงอธิษฐานอย่างร้อนรนกับพระเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่ค่อยได้ทำ ในขณะที่กำลังอธิษฐานฉันร้องไห้ออกมาเพราะฉันรู้สึกอ่อนล้าที่ต้องต่อสู้กับความบาปนี้เพียงคนเดียว

ถึงจุดนี้ฉันเริ่มรู้แล้วว่า ถ้ายิ่งพึ่งพาตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะจัดการกับความบาปมากยิ่งขึ้นไปอีก ท้ายที่สุดด้วยการช่วยเหลือจากพระเจ้า ฉันก็รวบรวมความกล้าที่จะเปิดใจในเรื่องนี้กับพี่เลี้ยงของฉัน ส่วนลึกภายในใจของฉันนั้นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องได้รับการช่วยเหลือ

เมื่อพี่เลี้ยงรู้เรื่องที่ฉันกำลังต่อสู้อยู่ เธอก็ไม่ได้ตัดสินหรือต่อว่าฉันเลย ตรงกันข้ามเธอกลับตอบสนองด้วยความรัก เธอให้ฉันได้ระลึกถึงพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าและการยกโทษบาปผิดต่างๆ โดยผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์ที่สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์ไม่สามารถชำระบาปของตัวเองและสมบูรณ์แบบได้ ดังนั้นพระองค์จึงได้ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ลงมาคือองค์พระเยซูคริสต์ มาเป็นเครืองบูชาเพื่อไถ่บาปของเรา ฉันจึงระลึกได้ว่า หากฉันรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดแล้วนั้น ความบาปของฉันก็จะได้รับการอภัย (1 ยอห์น 1:9) อย่างไรก็ตาม ฉันก็ยังต้องมุ่งมั่นที่จะไม่หันกลับไปทำบาปอีก

หลังจากได้พูดคุยกับพี่เลี้ยงของฉัน ฉันได้หวนคิดถึงข้อพระคำที่ครั้งหนึ่งฉันเคยได้ยินมาจากคำเทศนา “ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้าเอง เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะทำ แต่กลับทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเกลียดชังนั้น” (โรม 7:15)

เมื่อฉันใคร่ครวญถึงคำพูดของอาจารย์เปาโลในพระธรรมโรม 7:13-26 ฉันจึงรู้ตัวว่า ฉันยังใช้ชีวิตเหมือนกับคนที่ตกอยู่ในความบาป ฉันยังอนุญาตให้ความบาปยึดตัวฉันไว้ ไม่ว่าฉันจะพยายามต่อสู้กับมันอย่างไรฉันก็จะพ่ายแพ้ต่อมันเสมอ เพราะว่าฉันยังยอมมันอยู่

ฉันต้องต่อสู้กับมันโดยการพึ่งพาพระคุณของพระเจ้า และยอมให้พระองค์เป็นส่วนหนึ่งในทุกขั้นตอนแทนที่จะพึ่งพาความสามารถของตัวเอง ฉันรู้แล้วว่าผู้เดียวที่ชำระฉันให้บริสุทธิ์ได้และปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากความบาปคือองค์พระเยซูคริสต์เท่านั้น

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ฉันจึงเปลี่ยนความคิดของฉันว่าฉันจะไม่พึ่งพากำลังความสามารถของตัวเองเพื่อที่จะหลุดพ้นจากความบาปทางเพศ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปฏิเสธการล่อลวงต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยการเสริมกำลังจากพระเจ้าและคำแนะนำจากพี่เลี้ยง ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นมาได้และหลุดพ้นจากความบาปนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันถูกล่อลวงให้สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ฉันจะนึกถึงพระคำของพระเจ้า

ในพระธรรมสดุดีบทที่ 51 ก็ได้ย้ำเตือนฉันว่า ในขณะที่กษัตริย์ดาวิดตกอยู่ในความบาป พระเจ้าก็ยังคงใช้เขาในฐานะเครื่องมือของพระองค์สำหรับชาวอิสราเอล กษัตริย์ดาวิดเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปจริงๆ และวิงวอนต่อพระองค์ว่า “ขอทรงล้างข้าพระองค์ให้หมดจดจากความชั่วของข้าพระองค์ และขอทรงชำระข้าพระองค์จากบาปของข้าพระองค์” (สดุดี 51:2)

ฉันรู้สึกขอบคุณที่พระเจ้าได้ยินเราเมื่อเราร้องเรียกพระองค์ ทั้งหมดนี้ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์ และพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่ทำให้ฉันได้เป็นไทจากความบาป ถึงแม้ฉันจะตกลงไปในหลุมพรางของความบาปเดิมๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า พระเจ้าก็ย้ำเตือนฉันเสมอว่าพระองค์ทรงรักฉันมากเพียงใดและอยากให้ฉันหันกลับเข้าสู่ทางของพระองค์ อีกทั้งพระเจ้ายังทรงย้ำเตือนฉันผ่านทางพระธรรมโรม 5:6 ถึงการเสียสละที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ได้ทรงกระทำบนไม้กางเขนเพื่อตัวฉัน

จากนั้นเป็นต้นมา ฉันก็ไม่ได้กลับไปสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอีกเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่ฉันรู้สึกอ่อนแอและเผชิญกับการทดลอง ในสถานการณ์นั้นฉันจะอธิษฐานด้วยข้อพระธรรมสดุดี 51:2 ฉันไม่สามารถนำตัวฉันออกมาจากการทดลองได้ด้วยกำลังหรือความสามารถของตัวเอง ฉันทำได้เพียงแค่ยำเกรงถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำในชีวิตของฉันอย่างน่าอัศจรรย์

สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความรักของพระองค์!

YOU MAY ALSO LIKE