fbpx
WRITER: รอส บูน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: เพียรทิพย์ อัศวโภคา

มันเป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยดี เธอชอบผมและผมก็ชอบเธอ เป็นช่วงเวลาดีๆ กว่าหนึ่งเดือนที่เรากอดและจับมือกันตลอดทุกวันเสาร์ แต่แล้วผมได้พูดบางอย่างที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง

วันหนึ่ง ผมได้พูดขึ้นมาว่าวันนี้เป็นวันที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และผมต้องการการสวมกอดดีๆ เมื่อเราพบกันและผมยังพูดว่า “ขอโทษ ผมรู้สึกเหมือนเด็กมัธยมที่มีความต้องการมากไป”

เธอชะงักกับคำว่า “ต้องการมาก” มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ผมแค่ต้องการล้อเล่นกับเธอแต่เธอเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับผู้ชายที่มีความต้องการในลักษณะนี้มาก่อน และมันทำให้เธอคอยระวังว่าผมจะมีความต้องการหรือไม่ ผมยืนยันกับเธอว่าผมไม่มี ผมไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าอย่างนั้น แต่ในไม่ช้า เราได้รู้ว่ามีบางสิ่งแอบซ่อนอยู่ภายใต้การกระทำของผม

ยิ่งเธอถอยห่างจากผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งอยากพยายามที่จะทำให้เธอกลับมารักผม เมื่อใดที่เธอรู้สึกไม่ดี ผมยอมขับรถกว่าสี่สิบนาทีเพื่อไปหาเธอที่บ้าน ผมให้ของขวัญเธอ ซื้อมิลค์เชคให้เธอ (เพราะผมรู้ว่าเธอชอบ) ผมพยายามทำสิ่งดีๆ ให้กับเธอ ถ้าให้พูดอย่างสัตย์ซื่อ ไม่ใช่เพราะแค่ว่าผมรักเธอมาก แต่เพราะผมอยากให้เธอกลับมากอดและจับมือผมอีกครั้ง ผมอยากรู้สึกเหมือนได้กลับมาถูกรักอีกครั้ง

ความต้องการที่จะรู้สึกถูกรักไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่ผมรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติทุกครั้งที่ผมใช้เวลากับเธอ ผมจะจบลงด้วยความโกรธ เพียงเพราะผมพยายามทำสิ่งดีๆ ให้กับเธอ แต่เธอกลับไม่ยอมให้ความรักกลับมา

และแน่นอนว่าความโกรธของผมยิ่งทำให้ความรักที่เธอมีให้น้อยลง เธอแค่อยากใช้เวลากับผม มีความสุขด้วยกันโดยไม่มีข้อผูกมัด และสิ่งนี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเราแย่ลง จนบทสนทนาสุดท้ายของเราทำให้ผมเข้าใจในทุกสิ่งที่ผมทำมาโดยตลอด ผมพยายามที่จะอยากได้รับความรักจากเธอ และผมไม่พอใจเธอเมื่อเธอไม่ได้ให้ผมในสิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมควรได้รับ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราจบลง

ผมไม่รู้ว่า ความรู้สึกอยากถูกรักของผมมาจากไหน แต่ผมคิดว่าเราทุกคนมีความต้องการนี้ และมีความไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ รวมถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าด้วยเช่นกัน

รักก่อน แล้วจึงเชื่อฟัง

เมื่อเราต้องการจะรู้สึกว่าพระเจ้ารักเรา เราพยายามที่ทำตัวให้ดีเพื่อให้พระเจ้ารักเรามากขึ้น หรือเพื่อให้เราได้รับบางสิ่งบางอย่างจากพระเจ้า เช่น ผมพยายามจะละเว้นจากความต้องการทางเพศเพราะคิดว่าบางทีพระเจ้าจะให้ภรรยาที่ดีกว่าแก่ผม แต่นี่คือเหตุผลที่ถูกต้องจริงๆ หรือเปล่าสำหรับการ “เชื่อฟัง” เราทำบางสิ่งให้พระองค์ เพื่อให้พระองค์ทำบางสิ่งให้กับเรา นี่คือความรักจริงหรือ

เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแฟนล้มเหลว ผมนึกถึงสิ่งที่พระเจ้ากล่าวในพระธรรม 1 ยอห์น 4:19 “เรารัก เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน” 

เราไม่ได้รักพระองค์เพื่อให้พระองค์มารักเรา เรารักพระองค์เพราะพระองค์ทรงรักเราอยู่แล้ว

ผมรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็เหมือนโดนตัดสินว่าความพยายามของผมเพื่อจะเชื่อฟังพระเจ้าคือความพยายามเพื่อจะได้บางสิ่งจากพระเจ้า แทนที่จะแค่รักพระองค์

แล้วเราจะแสดงว่าเรารักพระองค์ได้อย่างไร? ในพระธรรม 2 ยอห์น 1:6 กล่าวไว้ว่า “และความรักนั้นก็คือการที่เราทั้งหลายประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์” การเชื่อฟังไม่ใช่เพื่อให้เราได้รับความรักจากพระเจ้า แต่เพื่อแสดงถึงความรักที่เรามีต่อพระเจ้า เพราะฉะนั้นพระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เราเชื่อฟังพระองค์ แต่พระองค์ต้องการความรักของเรา ผมว่ามันเจ๋งไปเลย

เหมือนกับพ่อแม่ของเรา พระเจ้าต้องการให้เรามีการกระทำที่ดีเพราะพระองค์รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีชีวิตที่ดี หลังจากที่พระเจ้าทรงนำและปลดปล่อยอิสราเอลจากการเป็นทาสในอียิปต์ พระองค์บอกโมเสสให้บอกกับชนชาติอิสราเอลว่า “ท่านทั้งหลายจงอุตส่าห์รักษาพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และพระโอวาทของพระองค์และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ พวกท่านจงกระทำการที่ชอบและที่ดีในสายพระเนตรพระเจ้า เพื่อพวกท่านจะไปดีมาดี…” (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:17-18)

พระเจ้าบอกกับเราว่า พระองค์ต้องการให้เราเชื่อฟังเพราะมันจะทำให้เรามีชีวิตที่ดี เราเชื่อฟังพระเจ้าไม่ใช่เพียงเพื่อให้ได้รับความรักจากพระองค์ แต่เพราะเรารู้ว่าพระองค์ทรงรักเรา และเราเชื่อว่าพระองค์ทรงให้บัญญัติแก่เราเพราะพระองค์ทรงมีเหตุผลที่ดี การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เจอปัญหาหรือการข่มเหง แต่จะช่วยเราหลีกเลี่ยงผลที่เกิดจากการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและผลจากการใช้ชีวิตในความบาปที่จะมาสู่เรา

แต่ในความเป็นจริง ในพระธรรมที่เราได้กล่าวมา พระเยซูทรงกล่าวว่าบัญญัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ “รักพระเจ้าของท่าน ด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน” (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:5) คำสั่งง่ายๆ คือให้รักพระองค์ แต่คุณอาจจะมีคำถามว่าแล้วฉันจะทำให้ตัวฉันรักบางสิ่งได้อย่างไร?

ใช้เวลากับพระองค์

พระธรรมต่อจากด้านบน กำลังบอกเราถึงวิธีการซึ่งถูกเขียนต่อและมาแทนที่คำสั่ง เพื่อช่วยเราให้มีความรักในหัวใจ

เราถูกสอนให้นำพระธรรมของพระองค์อยู่ข้างหน้าและรอบๆ ตัวของเรา และพูดถึงพระธรรมของพระองค์อยู่เสมอ (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:6-9)

พระองค์ทรงต้องการให้เราใช้เวลากับพระองค์และมีความสุขร่วมกับพระองค์ สำหรับผม บางเวลาหมายถึงการอ่านพระคัมภีร์เวลาว่าง หรือวางข้อพระคัมภีร์ไว้ในห้อง และเล่าให้เพื่อนๆ ฟังถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้เมื่อเราเฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้า

มันเหมือนกับสิ่งที่แฟนเก่าของผมต้องการ เธอต้องการเพียงคนที่จะอยู่กับเธอ ใช้ชีวิตของเธอ ใช้เวลากับเธอ เธอไม่ได้ต้องการถูกบังคับให้รักเพียงเพราะผมพยายามที่จะได้รับความรักจากเธอ เมื่อเราอ่านพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ เราก็จะพบว่าพระเจ้าต้องการเพียงเช่นนั้น ให้เราได้ใช้เวลากับพระองค์ คิดถึงพระวจนะของพระองค์ พูดคุยเกี่ยวกับพระองค์ให้คนอื่นๆ ฟัง และบางทีนี่คือวิธีที่ถูกต้องในการรักษาความรักที่เรามีต่อพระเจ้า และเมื่อเรามีความรักให้กับพระองค์การเชื่อฟังและทำตามก็จะตามมาเอง

แต่แม้ความสัมพันธ์ในโลกนี้ เรายังไม่ได้ “รู้สึกรัก” ใครสักคนตลอดเวลา แต่เราสามารถที่จะแสดงออกว่าเรารักเขาได้ เราจึงควรทำเช่นเดียวกันกับพระเจ้า ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้รู้สึกรักพระองค์อย่างที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง หรือเมื่อใจของเราไม่ได้พยายามที่จะหยุดทำบาป เรายังต้องลองพยายามทำอยู่ดี เพราะเรารู้ว่าถึงแม้ในช่วงเวลาที่เราไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นในความสัมพันธ์ เราก็ยังรักคนๆ นั้นหรือพระเจ้าอยู่ เราไม่ได้ต้องการจะทำร้ายเขาและพระองค์

เมื่อผมไม่ได้รู้สึกถึงความต้องการนั้น ผมจะพยายามอย่างเต็มที่จนกว่าความรู้สึกจะกลับมา การที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในพระวจนะของพระองค์หรือคนที่รักพระองค์ก็สามารถช่วยเราได้ และในแต่ละวัน ผมเชื่อว่าความรักของพระเจ้ายังรอคอยผมอยู่เสมอ 

ถึงแม้ว่าผมจะเดินออกไปในช่วงเวลาที่อ่อนแอ แต่พระเจ้าทรงรอคอยผมที่จะกลับมาและสนุกกับความรักของพระองค์อีกครั้ง

ความพยายามของผมที่จะได้รับสิ่งที่ผมต้องการจากคนอื่นๆ อาจเป็นสิ่งที่ผมต่อสู้มาทั้งชีวิต แต่การที่ผมยอมรับว่าผมต่อสู้กับมันทำให้ผมรู้สึกตัว และทำให้ผมสามารถจดจ่อที่จะสนุกกับการทรงสถิตของพระเจ้าและเอาใจใส่ความรักของผมที่มีต่อพระองค์อีกครั้ง 

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This