WRITER: nnattha.s
EDITOR: Mustard Seed Team
เมื่อยามที่ฉันต้องเผชิญปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต หลายครั้งฉันก็รู้สึกมั่นใจได้ทันทีว่าฉันจะผ่านเรื่องราวนั้นไปได้แน่นอน เพราะฉันรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างฉันเสมอ “ฉันจะเผชิญทุกสิ่งได้ด้วยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลัง” (ฟีลิปปี 4:13) แต่บางครั้งแม้ฉันจะพยายามป่าวประกาศความจริงนั้นออกมาซ้ำๆ ไม่รู้อีกกี่สิบครั้ง หัวใจของฉันกลับไม่ได้รู้สึกเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียว
สถานการณ์โรคโควิด-19 ช่วงที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในบ้านเรา ส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้คนในแทบทุกแวดวงอาชีพ ฉันเองเป็นหนึ่งในนั้น ช่วงที่โรคระบาดกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ฉันเหลือรายได้เฉลี่ยแค่วันละ 150 บาท ขณะที่รายจ่ายยังเท่าเดิม นั่นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกกังวลใจมากขึ้นทีละนิดๆ ฉันจะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรประทังชีวิตในสถานการณ์เช่นนี้ที่ฉันเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่
พระคำของพระเจ้าที่เราผู้เชื่อคุ้นเคยกันอย่างดี เช่นในพระธรรมสดุดี 23:1 “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน” เป็นเสมือนเสียงของพระเจ้าที่คอยย้ำเตือนฉันให้เชื่อพระองค์อยู่ทุกวัน แต่ลึกๆ ฉันกลับรู้สึกขัดแย้งในใจกับข้อพระคำนี้เหลือเกิน
พระองค์จะเลี้ยงดูฉันอย่างลูกแกะได้อย่างไร และฉันจะไม่ขัดสนจริงๆ ใช่ไหม ในเมื่อตอนนี้ฉันยังแทบจะไม่มีรายได้อะไรเข้ามาแล้ว…
สถานการณ์ในเวลานั้นกำลังดำเนินไปแบบตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระเจ้าทรงบอกฉัน ยิ่งทำให้ฉันกระวนกระวายมากขึ้นทุกที และนั่นทำให้สันติสุขเริ่มหายไปจากชีวิตของฉันมากขึ้นทุกทีเช่นกัน ฉันจึงตัดสินใจอธิษฐานกับพระเจ้า และพูดทุกความรู้สึกที่มีในตอนนั้นกับพระองค์อย่างจริงใจ แม้สถานการณ์ตอนนั้นอาจจะทำให้การทำงานทุกอย่างของฉันต้องหยุดชะงักเกือบทั้งหมด ฉันตัดสินใจบอกกับพระเจ้าในตอนนั้นว่า แม้โรคระบาดอาจทำให้ฉันต้องหยุดทำงาน หรือทำให้ฉันไม่เหลือเงินอีกเลย แต่ฉันจะไม่หยุดรับใช้พระเจ้า และฉันจะไม่หยุดนมัสการพระเจ้าอย่างแน่นอน
ฉันจึงตัดสินใจเข้าร่วมทีมปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าในนิเวศอธิษฐานเป็นการเฉพาะกิจช่วงสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งทุกคนในทีมจะต้องกักตัวอยู่ภายในคริสตจักรเท่านั้น เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคที่กำลังแพร่ระบาดในเวลานั้น และอธิษฐานขอพระเจ้าเมตตาประทานสติปัญญาให้ฉันในการบริหารเงินเก็บที่ยังพอมีอยู่ให้ใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสมที่สุด จนเวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน สถานการณ์โรคระบาดยังไม่มีท่าทีที่ดีขึ้นมากนัก ฉันยังไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ และเงินเก็บที่มีของฉันก็ใกล้จะหมดเต็มที
จนเช้าวันหนึ่ง ฉันอธิษฐานกับพระเจ้าด้วยความร้อนใจมาก หลังจากที่เปิดดูกระเป๋าสตางค์ของตัวเองและรู้ว่าฉันเหลือเงินเพียงแค่ 200 บาทสุดท้าย แม้ฉันจะรู้ดีว่าฉันสามารถโทรศัพท์หาพ่อเพื่อขอยืมเงินใช้ก่อนก็ได้ แต่ฉันก็ตัดสินใจบอกกับพระเจ้าอย่างหนักแน่นว่า
ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใครอีกนอกจากพระองค์เท่านั้น พระยาเวห์ผู้ทรงเป็นความช่วยเหลือในทุกๆ สถานการณ์ของชีวิตฉัน
เมื่ออธิษฐานเสร็จ ฉันกลับไปรับใช้ในนิเวศอธิษฐานตามปกติ แต่หลังจากที่ฉันกำลังจะก้าวออกจากห้องนิเวศอธิษฐาน มีผู้รับใช้ท่านหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาฉัน และยื่นซองถวายเงินให้ฉัน ฉันรับมันมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันได้แต่ขอบคุณพระเจ้าซ้ำๆ ไม่รู้กี่ครั้ง ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าในซองนั้นจะมีเงินมากน้อยแค่ไหน และสิ่งนี้ทำให้ฉันเข้าใจพระคำของพระเจ้าที่กล่าวไว้ในสดุดี 23:1 อย่างที่ฉันเองไม่รู้สึกสงสัยอะไรอีกเลย
เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันได้นึกย้อนไปถึงเรื่องราวของอับราฮัมที่ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า ในปฐมกาล 22:1-14 ฉันเชื่อเหลือเกินว่า วินาทีนั้นหัวใจของอับราฮัมคงแทบแตกสลายเมื่อตนเองกำลังจะฆ่าอิสอัค บุตรชายที่พระยาเวห์ทรงสัญญาเองว่าจะประทานให้กับตน สิ่งหนึ่งที่พระเจ้าทรงบอกกับฉันผ่านเหตุการณ์นี้ คือ อับราฮัมเลือกที่จะเชื่อฟังและยำเกรงพระเจ้า และมากกว่าที่อับราฮัมเชื่อในพระสัญญาของพระองค์ คือ การเชื่อและไว้วางใจในหัวใจของพระบิดาอย่างหมดหัวใจ ไม่ว่าตอนนั้นพระองค์ทรงเรียกให้เขาทำสิ่งที่เขาเองอาจจะไม่ได้เห็นด้วยเลยก็ตาม
หลายครั้งที่เราต้องเผชิญปัญหาต่างๆ ในชีวิต และพระสัญญาของพระเจ้าก็ไม่อาจทำให้เราวางใจได้ แต่เหตุการณ์ที่ฉันได้เผชิญในขณะนั้น ทำให้ฉันยิ่งเข้าใจในวิธีการของพระองค์มากขึ้น พระองค์ทรงใช้ความอ่อนแอ และความสงสัยของฉัน ให้กลายเป็นสิ่งที่เรียกฉันให้กลับมาวางใจพระองค์อีกครั้ง เพราะ “เหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (โรม 8:28)
และไม่ว่าเหตุการณ์นี้ หรือเหตุการณ์ต่อๆ ไปจะเป็นอย่างไร ฉันเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า หัวใจของพระบิดาจะไม่มีวันเปลี่ยนไป และฉันสามารถวางความไว้ใจนี้ไว้ที่ตรงนั้นได้ตลอดไป….
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...