fbpx
WRITER: ร็อกแซน เซวีลล่า ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Mustard Seed Team
EDITOR: Mustard Seed Team

ลูกที่รักจงกล้าหาญเถิด คือสิ่งที่พระเจ้ากระซิบบอกฉันเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2015 ซึ่งตอนนั้นฉันไม่เข้าใจ แต่ฉันยึดมั่นในพระสัญญาของพระองค์ในพระธรรมโยชูวา 1:9 ว่า อย่ากลัวเลยเพราะว่าพระเจ้าอยู่กับฉัน ฉันไม่รู้เลยสักนิดว่าความกลัวที่น่ากลัวที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น

เมื่อตอนต้นปี คุณพ่อของฉันเข้าออกโรงพยาบาลเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หมอบอกว่าหัวใจของคุณพ่อทำงานแค่ 12% แม้จะมีโอกาสรอดชีวิตเพียงเล็กน้อย พระเจ้าอนุญาตให้คุณพ่อมีชีวิตอยู่ได้อีกสองสามเดือน

แต่ก่อนจะถึงวันเกิดอายุครบ 23 ปี ของฉัน คุณพ่อถูกนำตัวไปที่แผนกฉุกเฉิน หลังจากนั้นคุณหมอบอกว่าพ่ออาจจะไม่รอด ฉันจำได้ว่าฉันวิงวอนต่อพระเจ้าขอให้คุณพ่อได้มีชีวิตอยู่ต่อ

และตอนนั้นเองที่พระเจ้าแตะใจของฉันด้วยข้อพระคำจากพระธรรมโรม 8:28 “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า…”

พระเจ้ารับคุณพ่อของฉันไว้ในอ้อมกอดอันเปี่ยมด้วยความรักหลังจากวันเกิดของฉันสองสัปดาห์ มีเวลาเพียงพอให้เราได้แลกเปลี่ยนคำว่า “ขอโทษ” กับ “หนูรักพ่อ” และได้บอกลาครั้งสุดท้าย ในช่วงสองสามวันสุดท้าย คุณพ่อได้รับประสบการณ์ความรักจากพระเจ้าผ่านคนที่แวะกันมาเยี่ยมและอธิษฐานเผื่อคุณพ่อ

หลังการจากไปของคุณพ่อ พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆ สำหรับพวกเราอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลไปจนถึงพิธีไว้อาลัย ผู้คนรอบตัวฉัน ครอบครัว และเพื่อนสนิทต่างช่วยเหลือพวกเราด้วยความเอื้อเฟื้อ ทั้งที่เราไม่เคยถามหรือขอเลย

ด้วยพระคุณพระเจ้า เราสามารถจัดพิธีไว้อาลัยแบบคริสเตียนให้คุณพ่อได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะสามารถนำญาติพี่น้องของเรามารู้จักกับพระเจ้าด้วย ญาติพี่น้องบางคนเห็นว่าพระเจ้าทรงทำงานผ่านครอบครัวของเราอย่างไรและอยากรู้จักพระเจ้ามากขึ้น และด้วยพระคุณพระเจ้า ต่อมาพวกเขายอมรับพระเยซูเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอด ช่วงเวลานี้เองที่แม่ของฉันเริ่มรู้จักพระเยซูมากขึ้น

ถึงแม้เราจะมีความยากลำบากในการก้าวไปข้างหน้า แต่พระเจ้าทรงค้ำจุนให้เรามุ่งมั่นและรักษาความเชื่อของเรา

อุปสรรคต่อมา…

ในปี 2019 ฉันพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล เป็นปีที่ฉันพึ่งรู้ความจริงว่าฉันเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งทำให้ภาวะซึมเศร้าของฉันแย่ลง ความคิดและอารมณ์ด้านมืดพุ่งเข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้ และถึงจุดหนึ่ง มันทำให้ฉันกินยาต้านเศร้า (antidepressant pills) เกินขนาดเพราะอาการวิตกกังวล

แต่พระเจ้าสำแดงให้ฉันเห็นว่าชีวิตของฉันนั้นอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้น ฉันสะลึมสะลือแต่ไม่ถึงกับไม่ได้สติ ดังนั้นฉันรีบโทรหาเพื่อนสนิทของฉันและพี่เลี้ยงที่โบสถ์ พวกเขารีบมาหาและพาฉันไปโรงพยาบาล พวกเขายังช่วยบอกครอบครัวของฉันและคอยดูอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นกำลังใจ

การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการวิ่งเข้าออกแผนกฉุกเฉิน ฉันรู้สึกขอบคุณที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยกลุ่มคริสเตียนที่คอยช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งที่ทำงานและที่คริสตจักร ผู้ที่อธิษฐานและเดินไปด้วยกันกับฉัน ฉันไปพบนักจิตวิทยาคนใหม่และได้รับยารักษาตัวใหม่เพื่อช่วยอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลของฉัน

ยังคงมีบางวันที่ฉันรู้สึกกลัวและวิตกกังวล ต่อสู้ดิ้นรนที่จะยึดมั่นในความเชื่ออันน้อยนิดที่ฉันมี

แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ คุณแม่ของฉันใช้ความเชื่อของเธอและอธิษฐานอย่างร้อนรนเผื่อฉันทุกวัน ในคืนที่ฉันมีอาการตื่นตระหนก คุณแม่จะมานอนข้างฉัน อธิษฐานเผื่อฉัน และกอดฉันจนกว่าฉันจะหลับ คำอธิษฐานของคุณแม่ทำให้ฉันสบายใจและได้รับสันติสุข ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความหนักใจที่ลดลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่คุณแม่อธิษฐาน

ขณะที่คุณแม่ของฉันเติบโตในความเชื่อ คุณแม่ยอมละทิ้งรูปเคารพทั้งหมดและยอมจำนนต่อพระเจ้า

คุณแม่ของฉันเคยมีรูปเคารพเต็มแท่นบูชา เมื่อตอนที่คุณแม่ต้อนรับพระเยซู ศิษยาภิบาลและผู้ให้คำปรึกษาอธิบายถึงความสำคัญของการละทิ้งรูปเคารพอย่างสิ้นเชิง แต่มันยากมากสำหรับคุณแม่ที่จะทำ นี่คือกระบวนที่ค่อยเป็นค่อยไป และในที่สุดก็เกิดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของศิษยาภิบาลที่มาเยี่ยมบ้านเราเพื่ออธิบายและอธิษฐานเผื่อ หลังจากนั้นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงและเมื่อคุณแม่เริ่มอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ ความรักที่มีต่อพระเจ้าก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม พระเจ้าย้ำเตือนฉันให้เข้มแข็ง

เมื่อปี 2020 มาถึง “อย่ากลัว จงลุกขึ้น” คือหัวข้อหลักในการอธิษฐานและการอดอาหารของคริสตจักร ฉันเริ่มต้นปีนี้ด้วยพระสัญญาที่ชัดเจนและการย้ำเตือนจากพระธรรมโยชูวา จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เป็นพระสัญญาเดียวกันกับที่พระเจ้าเคยให้ฉันเมื่อปี 2015

พระเจ้ากำลังเตือนให้ฉันกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เพราะอีกไม่นานฉันจะเผชิญกับความกลัวที่สุดอีกครั้ง

ในเดือนตุลาคม 2020 คุณแม่จากไป ห้าปีหลังจากที่คุณพ่อเสีย ในช่วงสองเดือนที่คุณแม่ต้องถูกกักตัวถึงสองครั้ง ฉันถูกกลืนกินด้วยความกลัวและความกังวล แต่พระเจ้าพูดกับฉันผ่านพระธรรมอิสยาห์ 43:1-3 “อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา” คุณแม่อ่อนล้าลงทุกวันและท้ายที่สุดคุณหมอก็พบก้อนเนื้อ คุณแม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่สี่

คืนก่อนที่คุณแม่จะจากไป ฉันรู้สึกขยับตัวไม่ได้ เนื่องจากความกลัวและความเจ็บปวด ถึงอย่างนั้น การที่ได้เห็นความเชื่อในพระเจ้าของคุณแม่มีส่วนทำให้ฉันยืนหยัดในความเชื่ออย่างสัตย์ซื่อต่อพระองค์ คำสุดท้ายของคุณแม่คือ “ขอบคุณพระเจ้า” คุณแม่อธิษฐานเผื่อฉันอย่างร้อนรนก่อนที่จะจากไปอย่างสงบ อีกครั้งที่พระเจ้าจัดเตรียมทุกสิ่งให้กับฉันอย่างสัตย์ซื่อและนำสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือ ปลอบประโลม และอธิษฐานเผื่อฉัน

เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว และแน่นอนว่าฉันยังคงคิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากเกินกว่าจะพูดออกมาได้

ฉันเป็นโสด และเป็นลูกคนเดียว และพวกเขาคือทั้งชีวิตของฉัน เมื่อพวกเขาจากไป ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนไม่มีจุดหมายอีกต่อไป

แต่วันนี้ ฉันค่อยๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับว่าชีวิตไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ฉันพยายามทบทวนจุดประสงค์และการทรงเรียกในชีวิตของฉัน พยายามหาสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆ ขัดเกลาจุดแข็งและรื้อฟื้นภาระใจของฉัน

ตอนนี้ ฉันกำลังหาที่พักใหม่เพื่อจะได้ย้ายออกจากบ้านเกิดของฉัน ความทรงจำเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ยังคงอยู่ในใจเสมอ แต่ฉันก็รู้ว่าท่านทั้งสองอยากให้ฉันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด

พระเจ้าอาจไม่ได้ตอบคำอธิษฐานของฉันสำหรับการเยียวยารักษา แต่พระองค์ประคับประคองใจและมอบสันติสุขให้กับฉัน

การที่รู้ว่าทั้งพ่อและแม่ของฉันอยู่ในที่ที่ดีที่สุด เพื่อนของฉันหลายๆ คนสูญเสียคนที่รักไปในช่วงโรคระบาดนี้ และเพราะสิ่งที่ฉันได้เผชิญก่อนหน้า ฉันจึงสามารถเข้าใจความเจ็บปวดและเดินไปด้วยกันกับพวกเขาบนเส้นทางชีวิต

พระเจ้าทรงใช้ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของฉัน เพื่อสำแดงให้ฉันเห็นความเชื่อที่ลึกที่สุดที่เป็นไปได้ในพระองค์และผ่านพระองค์เท่านั้น ฉันกำลังเรียนรู้ว่ามันหมายถึงอะไรที่จะพูดว่า “พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์” (โยบ 1:21)

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This