3 วิธีในการปกป้องความคิดของคุณ

WRITER: เด็บบรา ไอย์อิส ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ศุภิสรา เจริญศรีศิลป์
EDITOR: พักตร์วดี คะนึงไกวัล

ทุกวันนี้ เพียงแค่เราใช้ปลายนิ้วสัมผัส  ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็พร้อมจะพุ่งเข้ามาหาเรา ไม่ว่าจะมาจากสื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และสื่ออื่นๆ ดังนั้นการที่เราจะปกป้องความคิดของเราจากเสียงต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่แย่กว่านั้นก็คือมันยิ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าเราพยายามจะคัดกรองข้อมูลก่อนที่เราจะปล่อยให้เข้ามาในชีวิต แม้ว่าเราจะคิดและตัดสินใจอย่างละเอียดรอบคอบแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี ฉันเรียนรู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องกลั่นกรองข่าวต่างๆ ก่อนจะยอมให้เข้ามาในความคิดของฉัน เพราะว่าข้อมูลข่าวสารที่ฉันได้รับเข้ามาจะเป็นตัวกำหนดความคิดและทัศนคติมุมมองต่อชีวิตของฉัน

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อฉันทำงานเกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์ ฉันพัฒนาเครือข่ายเพื่อนซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่เป็นมืออาชีพและคนอื่นๆ ทั่วไปที่เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความสนใจห่วงใยในปัญหานี้  ฉันอ่านข่าว บทความ เข้าร่วมสัมมนา และเขียนงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ฉันยังได้ร่วมงานกับองค์กรที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เช่น A21 ด้วย และร่วมในกิจกรรม “การเดินเพื่ออิสรภาพ” ฉันยังเคยแต่งกลอนเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อีกด้วย สรุปแล้วก็คือ ฉันทุ่มเทกับงานนี้มาก ความชอบในเรื่องนี้ทำให้ฉันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในองค์กร  แต่ฉันจะมาถึงจุดนี้ไม่ได้เลยถ้าฉันไม่ได้ตั้งใจพัฒนาความรู้ทางด้านนี้ในทุกๆ มุมของชีวิตฉัน

ในฐานะคริสเตียน ทุกคนต่างก็รอคอยที่จะมีภาระใจในเรื่องของพระเจ้า  ความปรารถนาของเราก็คือ ไม่ต้องการลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ และเปลี่ยนอุปนิสัยของเราใหม่ (โรม 12:2) เราอยากจะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมถึงสิ่งใดก็ตามที่ยอดเยี่ยมและน่ายกย่อง (ฟิลิปปี 4:8) 

ถ้าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราปรารถนาจริงๆ เราก็ควรพร้อมที่จะถวายชีวิตให้พระเจ้าสร้างเราให้เติบโตอย่างไม่จำกัดได้ มิใช่หรือ?

แล้วเราควรจะทำอย่างไร? โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ว่าฉันจะพยายามเลือกหัวข้อข่าวที่รับมาผ่าน Google News หรือ Apple News มากเท่าไหร่ บทสรุปของข่าวก็จะทำให้ฉันผิดหวังเสมอ และหลายครั้งฉันก็พบว่าตัวเองรู้สึกโกรธและรู้สึกไม่ดีเมื่ออ่านข่าวเหล่านั้น  นี่ยังไม่รวมถึงสิ่งที่สื่อเหล่านี้ดึงเราไปรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่จำเป็นผ่านโปรแกรมเสนอข่าวอัตโนมัติอย่างไม่รู้จักจบสิ้นด้วย

แล้วเราจะรักษาใจให้บริสุทธิ์และเป็นอิสระเพื่อจะจดจ่อที่พระเจ้าได้อย่างไร? เราจะทำอย่างไรให้พระธรรมฟิลิปปี 4:8 เป็นจริงในชีวิตของเรา?

ฉันอยากจะพูดว่าฉันมีทางออก แต่จริงๆ แล้วฉันก็ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอน หรือกระบวนการของการทำให้เกิดขึ้นจริง แต่อย่างไรก็ตาม ฉันค้นพบ 3 วิธีที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยปกป้องความคิดของฉันในทุกๆ วันนั่นก็คือ

1. สวมเสื้อเกราะที่ถูกต้อง

ฉันเป็นคริสเตียน นั่นหมายความว่าร่างกายของฉันเป็นพระวิหารของพระเจ้า (1 โครินธ์ 6:19) เพราะฉะนั้น เมื่อเรากินและดื่มสิ่งที่มีประโยชน์เข้าไปในร่างกายเพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรง เราก็ควรจะรับข้อมูลที่ถูกต้องเข้าไปในความคิด เพื่อทำให้ความคิดของเราบริสุทธิ์เช่นกัน พระคัมภีร์เตือนเราว่า มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว แต่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยาเวห์ (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3)

ฉันอ่านและศึกษาพระคำของพระเจ้าทุกวัน บางครั้งฉันก็ฟังเพลงนมัสการขณะทำงาน บนโลกออนไลน์ฉันก็ติดตามนักเทศน์ ติดตามเพจที่เกี่ยวกับพระคัมภีร์และการเฝ้าเดี่ยว เพื่อสิ่งเหล่านี้จะขึ้นมาเตือนฉันขณะเล่นมือถือ ในระหว่างเดินทางไปที่ต่างๆ ฉันก็อธิษฐานและขอคำปรึกษาจากพระเจ้าในปัญหาที่ฉันเผชิญอยู่ในแต่ละวัน

วิธีนี้ช่วยเสริมกำลังฉันในการจัดการกับข้อมูลข่าวสารที่มากเกินกว่าที่ฉันควรจะได้รับ ฉันพบว่าเมื่อฉันแสวงหาการมีความสัมพันธ์และติดสนิทกับพระเจ้า ฉันจะใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อใคร่ครวญพระคำของพระองค์ ใคร่ครวญถึงสิ่งที่พระเจ้าให้ความสำคัญและวิธีที่จะนำเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้ การทำแบบนี้ช่วยลดช่องว่างของความคิดและข้อมูลที่ไม่จำเป็นให้ออกไปจากสมองของฉันได้อย่างมาก

2. หลีกเลี่ยงสนามรบที่คุณสามารถเลี่ยงได้

ฉันชอบสุภาษิตหนึ่งที่บอกว่า “ปลูกอะไรได้อย่างนั้น” ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราใส่ข้อมูลผิดๆ ที่ไม่ถูกต้องเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะผิดพลาดด้วย ดังนั้นฉันเลยเลือกที่จะอยู่ห่างจากการนินทาและการใส่ร้ายต่างๆ จากสื่อหรือข่าวสาร ฉันเลิกติดตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง หนัง หรือรายการโทรทัศน์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักพระคัมภีร์

ฉันได้ค้นพบอีกทางเลือกหนึ่งในการเสพสื่ออย่างมีประโยชน์ นั่นคือ มีกลุ่มศิลปินคริสเตียนมากมาย หลากหลายแนวที่ผลิตเพลงนมัสการพระเจ้าดีๆ ที่ไม่ได้ทำเพื่อหาเงินเหมือนอย่างเพลงทั่วไป นอกจากนี้เพลงนมัสการเหล่านี้ยังมีคุณภาพ สร้างสรรค์ และทำให้เรา “เต้น” ได้อีกด้วย

3. หาเพื่อนสนิทที่เชื่อใจได้

ถึงแม้ว่าคนในปัจจุบันส่วนใหญ่จะปฏิสัมพันธ์กันบนสื่อออนไลน์ แต่มันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ หน้าต่อหน้าอยู่ดี ตามที่พระธรรมสุภาษิต 27:17 ระบุไว้ว่า “เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนให้เฉียบแหลมได้ฉันนั้น” ดังนั้น ฉันจึงระวังเรื่องการคบเพื่อนมาก ฉันจะคบเพื่อน และให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนวงในก็ต่อเมื่อพวกเขามีความคิดและทัศนคติที่ตรงกับพระคำของพระเจ้า

ไม่นานมานี้ พระวิญาณบริสุทธิ์นำฉันให้อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่องในชีวิตของฉัน แต่ฉันไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่นัก เช้าวันถัดมา เพื่อนของฉันก็ได้ส่งข้อพระคัมภีร์ในเรื่องเดียวกันกับที่ฉันอธิษฐานมาให้! มันช่วยให้ฉันจดจ่อในสิ่งที่ฉันต้องการจะอธิษฐานได้มากขึ้นไปอีก ฉันดีใจและขอบคุณพระเจ้ามากสำหรับเพื่อนที่พร้อมจะยอมเชื่อฟังการทรงนำของพระเจ้าและได้มาแบ่งปันข้อพระคัมภีร์ให้กับฉัน ซึ่งทำให้ฉันสามารถจดจ่อที่จะฟังสิ่งที่พระเจ้าอยากให้ฉันฟังในเวลานั้นได้ (สุภาษิต 18:24)

ในทุกๆ ครั้งที่ฉันปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ฉันจะพยายามทำให้แน่ใจว่า คำพูดของฉันจะเต็มไปด้วยพระคุณที่จะช่วยเสริมสร้างและหนุนใจคนรอบข้างขึ้นได้ (โคโลสี 4:5-6 และ เอเฟซัส 4:29)

วิธีการทั้ง 3 ข้อนี้ ช่วยปกป้องฉันจากข้อมูลที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน และคัดกรองสิ่งที่ควรเข้ามาในความคิดของฉันได้ดีเป็นอย่างมาก ฉันหวังว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยคุณได้เช่นกัน 

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างและนำคุณให้เป็นคนที่คุณจะเป็นได้ดีที่สุดนั้น อยู่ในพระคัมภีร์ ฉันหวังว่าคุณจะลงลึกในพระคำของพระเจ้า เหมือนที่ฉันกำลังพยายามที่ทำอยู่เช่นกัน

YOU MAY ALSO LIKE