WRITER: เอมิลี่ เบอร์ริว ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: อธิษฐาน ดวงคำ
EDITOR: Mustard Seed Team
มี “ปาร์ตี้” อยู่งานนึง มันน่าตื่นเต้นและเป็นที่นิยม มีสิ่งเอนเตอร์เทนมากมาย มีเสียงดนตรีที่ดัง และทุกคนก็แต่งตัวสวยงามสีสันฉูดฉาด และงานนี้ก็ช่างน่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรมเพื่ออวดโลกเหลือเกิน
และมันจะมีห้องอยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสำหรับนั่งรอก่อนที่จะเข้างานปาร์ตี้ ห้องนั้นว่างเปล่า กำแพงไม่มีสีสันและดูน่าเบื่อ มันเป็นห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนที่รู้สึกว่างเปล่า และต้องการที่จะถูกเชิญเข้าไปในงานปาร์ตี้
นี่เป็นความจริงที่น่าเศร้าสำหรับคนโสดในช่วงวัยมหาวิทยาลัย ที่ถูกมองว่ามันเป็นชีวิตที่เหงา ดูน่าหดหู่ และดูอ่อนแอ มันคือห้องแห่งการรอคอย ซึ่งสาวๆ นั้นต่างรอคอย รอหนุ่มๆ เจ้าเสน่ห์ ที่มีทรงผมสุดเท่ห์ชวนพวกเธอไปออกเดทเพื่อที่เธอจะได้มีส่วนร่วมใน “งานปาร์ตี้” ของคนมีคู่
ยิ่งพวกเธอรอคอยมากเท่าไหร่ พวกเธอก็ยิ่งกลายเป็นคนสิ้นหวังมากขึ้นเท่านั้น พวกเธอเห็นผู้คนมากมายถูกเชิญไปงานปาร์ตี้ พวกเธอเห็นภาพการแต่งงาน การหมั้นหมายบนเฟซบุ๊ก พวกเธอเห็นภาพวีดีโอของคู่รักต่างๆ บนยูทูป ในขณะที่พวกเธอกำลังรออยู่นั้นพวกเธอก็รู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ
ห้องแห่งการรอคอยนั้นเป็นห้องแห่งการทำลาย…มันทำลายคุณค่า ทำลายความมั่นใจ ทำลายตัวตน ทำลายทัศนคติที่มีต่อตัวเอง และทำลายพวกเธอจากภายในสู่ภายนอก
ในไม่ช้าพวกเธอจะเริ่มคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่าพอที่จะให้ใครมารัก พวกเธอคิดว่าตัวเองนั้นไม่สวยพอ ไม่ฉลาดพอ หรือดูไม่น่าสนใจพอ บ้างก็คิดว่าตัวเองดูอ้วนและขี้เหร่ ไม่เป็นที่ดึงดูดสำหรับผู้ชาย และมันเป็นความผิดของพวกเธอที่ยังเป็นโสดอยู่
อีกไม่นานพวกเธอก็จะรู้สึกสิ้นหวัง สิ่งเดียวที่พวกเธอเหลือนั้นก็คือเปลือกนอกที่ไร้ชีวิตกับความเกลียดชังตัวเอง
สาวๆ! ห้องแห่งการรอคอยมันเป็นเรื่องโกหก
มันเป็นเรื่องที่มารซาตานใส่เข้ามาในความคิดเรา เพื่อให้ข้างในของเรารู้สึกว่างเปล่า มันอยากให้เราสิ้นหวัง หดหู่ กระวนกระวาย แตกสลาย และทำให้เราไม่เหลืออะไรในชีวิต
มารล่อลวงให้เราเข้าไปในห้องแห่งการรอคอย และให้เราหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมายเดียวนั่นก็คือ การหาคู่ หาคนที่จะไปเดทด้วย หมั้นหมายและแต่งงาน ซึ่งความปราถนานั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดและฉันเองก็มีความปรารถนาเดียวกัน แต่เราอาจทำให้มันกลายเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตโดยไม่รู้ตัว
และคำถามคือ: ผู้ชายกลายมาเป็นเป้าหมายในชีวิตเราแทนที่พระเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่?
ในพระธรรมมัทธิว 6:21 กล่าวไว้ว่า “เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย” กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าสิ่งที่เราวางไว้เป็นเป้าหมายนั้น นั่นคือที่ที่เราจะวางหัวใจไว้ เราให้ความสำคัญกับคนที่เราชอบมากกว่าพระเจ้า เราปราถนาที่จะมีความสัมพันธ์ของหญิงชายเหนือกว่าความสัมพันธ์กับพระเจ้าผู้สร้างเรา เรากำหนดเป้าหมายสูงสุดของเราไว้คือการแต่งงานมากกว่าเป้าหมายที่จะมีชีวิต
นิรันดร์กับพระเจ้า
สาวๆ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เป้าหมาย แต่พระเจ้าต่างหากคือเป้าหมาย
เพราะฉะนั้น เพื่อนๆ คนโสดทั้งหลายอย่าได้รอในห้องแห่งการรอคอยเลย มารพยายามสร้างมันขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้ตัวตนของเรานั้นอ่อนแอลง และเบี่ยงเบนความสนใจจากความจริง เราถูกบังตาโดยความคิดที่ว่าการรอคู่นั้นเหมือนกับการรอที่จะไปปาร์ตี้ที่สนุกสนาน ปาร์ตี้ที่เจ๋งเกินไปสำหรับเรา แต่งานปาร์ตี้รื่นเริงนั้นเป็นเรื่องโกหก ลองถามผู้คนที่มีความสัมพันธ์ดูสิว่า ความจริงของการมีคู่นั้น มันไม่ได้ดีเหมือนกับรูปภาพที่ถูกถ่ายลงบนอินสตราแกรมหรอก ใช่…มันเป็นของขวัญ แต่มันไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง
เราจะต้องหยุดมองความสัมพันธ์เป็นเป้าหมาย และเห็นความโสดเป็นเพียงช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่น่าเบื่อหน่าย แต่ให้เรามองว่า เราสามารถมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปาร์ตี้อันเป็นประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ นั่นก็คือ การมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น รักพระองค์ และลงทุนในความสัมพันธ์กับทั้งเพื่อนสาว เพื่อนชาย และครอบครัวของเรา เราไม่ได้ถูกผูกติดกับสิ่งต่างๆ เราสามารถจะไปไหนก็ได้ตามใจเรา สามารถเติบโต และแข็งแกร่งขึ้น
ห้องแห่งการรอคอยนั้นเป็นสถานที่ที่ทำลายเรา ถึงเวลาที่จะก้าวออกมาและใช้ชีวิตแล้ว สาวๆ ทั้งหลาย…เราแข็งแกร่ง เรามีอิทธิพล เรามีพลังที่จะทำในสิ่งที่คู่รักไม่สามารถทำได้ เราไม่ได้ถูกชักจูง เรามีเวลา และเราสามารถเป็นกำลังให้กับผู้อื่นได้
ความโสดคือความแข็งแกร่งและนั่นคือความจริง
เราอยากจะหนุนใจเพื่อนๆ ให้ลุกขึ้นยืน ออกมาจากห้องแห่งการรอคอยและออกมาใช้ชีวิต
ในขณะที่คุณใช้ชีวิต จงจดจำความจริงที่ว่า “ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เป้าหมาย แต่พระเจ้าต่างหากคือเป้าหมาย”
YOU MAY ALSO LIKE
กังวลจนไม่หลับไม่นอน
WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...
ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ
WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...
พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...