WRITER: พรพรรณ ขวัญพันธุ์งาม
EDITOR: Mustard Seed Team
เมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของพิธีไว้อาลัยแบบคริสเตียนที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดงานหนึ่งในประเทศตั้งแต่ฉันเป็นคริสเตียนมา ทุกองค์ประกอบล้วนงดงาม ตระการตา เป็นที่กล่าวถึงในทุกแวดวงของสังคม มีผู้คนมากมายมาเข้าร่วมพิธีตลอดสามวัน ทั้งดารา พิธีกรชื่อดัง บรรดาแฟนคลับ และนักข่าวอีกเป็นกองทัพ เรียกได้ว่าไม่มีครั้งไหนที่พระนามของพระเจ้าจะถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางมากเช่นนี้มาก่อน
เธอคนนั้นผู้เดินทางกลับสู่อ้อมกอดของพระบิดา ได้มอบช่วงเวลาที่แสนมหัศจรรย์ที่สุดช่วงหนึ่งให้กับคนจำนวนมาก รวมทั้งตัวฉันเองด้วย
ลำดับรายการแรกสำหรับพิธีในคืนแรกได้เริ่มต้นขึ้น การถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทางที่เตรียมไว้ผ่านไปด้วยดี ฉันนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่กำลังทำการสตรีมสัญญาณภาพและเสียงออกไป ข้างๆ ฉันคือพี่น้องที่กำลังขะมักเขม้นและจดจ่อในส่วนงานของตน เมื่อวิดีโอเพลงพระคุณพระเจ้าดังขึ้น ตัวฉันผู้ไม่เคยฟังเพลงนี้จนจบมาก่อนได้มีโอกาสฟังทุกถ้อยคำในบทเพลงนี้อย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก
แล้วฉันก็ร้องไห้ออกมาเมื่อเพลงมาถึงท่อนที่ว่า…
เมื่อเราได้ไปอยู่เมืองสวรรค์
ช้านานนับหลายพันปี
ยังมีเวลาร้องเพลงสรรเสริญ
เท่ากันกับเมื่อเริ่มต้น
“ยังมีเวลา” มันเป็นถ้อยคำง่ายๆ แต่ทำให้ฉันรู้สึกถึงความหวัง
ความหวังสำหรับผู้เชื่อทั้งหลายว่าจะได้พบสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาบนสวรรค์ ในห้วงเวลานั้นเอง ฉันนึกถึงคนที่ฉันรักผู้จากไป
“พ่อ” คนที่ฉันรักมากที่สุด ได้จากฉันไปเมื่อสองปีก่อนในสภาพของผู้ป่วยติดเตียง ผ่ายผอมไร้เรี่ยวแรง
“เจด” เพื่อนฝ่ายวิญญาณแรกๆ ที่ฉันมี ได้จากฉันไปด้วยโรคมะเร็งในวัยที่ควรจะเป็นวัยที่ได้สนุกเต็มที่ แม้เจดจะถูกตัดขาออกไปแล้ว แต่โรคมะเร็งก็ยังคงทำลายเขาอยู่จนนาทีสุดท้ายของชีวิต
ทั้งสองคนเป็นคนที่ฉันเคยวาดฝันในใจว่าเราจะได้รับใช้ด้วยกัน พ่อของฉันได้ร้องเพลง ได้หัวเราะอยู่ในกลุ่มสามัคคีธรรม และเจดที่จะพาฉันไปออกทริปรับใช้ในที่ห่างไกลด้วยกัน แต่แล้วพ่อฉันก็ป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อนรักของฉันก็ถูกตัดขา ในท้ายที่สุดฉันก็พบว่า ภาพฝันเหล่านั้นไม่มีวันเกิดขึ้นจริงเพราะทั้งคู่ได้จากไปแล้ว
ความตายเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ มันคือสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องพบเจอแต่ก็ยังรู้สึกดูไกลตัว หลายๆ คนพยายามจะนิยามมัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อความตายมาถึงคนที่เรารัก ความตายที่ดูเป็นสัจธรรมซึ่งน่าจะเข้าใจและทำใจได้ง่ายกลับไม่เป็นเช่นนั้น คนที่ตายไปแม้อยู่ในความทรงจำก็จริง แต่ไปตามหาที่ไหนก็ไม่พบ ร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน ไม่ว่าจะไปให้ไกลแค่ไหนก็ไปไม่ถึง เหมือนพวกเขาถูกกดปุ่มลบออกจากโลกไปเสียอย่างนั้น มีเพียงอดีตให้ระลึกถึง ไม่มีปัจจุบันให้ร่วมเดินและอนาคตให้ร่วมสร้างอีกต่อไป
ฉันใช้ชีวิตด้วยใจที่ระลึกถึงคนที่ฉันรัก ในเวลาอ่อนแอหรือเข้มแข็ง สุขหรือทุกข์ ฉันได้แต่คิดว่าถ้าพวกเขายังอยู่จะเป็นอย่างไร ถ้าพวกเขาได้มาเห็นการรับใช้ของฉันตอนนี้จะเป็นอย่างไร ฉันอยากให้พวกเขายิ้มและภูมิใจกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันก็ทำได้เพียงแค่คิด อย่างไรก็ตาม ฉันเฝ้ารอวันที่ฉันจะได้พบพวกเขาอีกครั้ง ยิ่งในเวลาที่ฉันเจ็บปวดจนถึงที่สุดกับโลกที่เต็มไปด้วยปัญหานี้ การมีความหวังว่าเวลาทุกข์ทรมานบนโลกจะสิ้นสุดลงสักวัน และเวลาบนสวรรค์จะยาวนานกว่าอย่างเทียบไม่ได้ มันช่วยฉันให้ผ่านเวลาอันยากเย็นไปได้เพราะรู้ว่าฉันกำลังเดินทางเพื่อจะได้พักผ่อน ทำให้คำว่า “ยังมีเวลา” สัมผัสหัวใจของฉันอย่างมากเมื่อได้ยิน
ความรู้สึกนี้ไม่ต่างกับการที่พระเจ้ามาตบบ่าฉันและบอกฉันว่า ไม่เป็นไร ยังมีเวลาอีกเยอะแยะที่เราจะใช้ด้วยกัน และเวลาของเรากับเจ้านั้น จะไม่มีความทุกข์ น้ำตา และการจากลามาเกี่ยวข้องอีก (วิวรณ์ 21:4)
ชีวิตนี้อาจมอบบาดแผลมากมายให้กับเรา คนที่รักอาจต้องพลัดพรากจากกัน แต่ยังมีเวลาอีกมากมายบนดินแดนที่ไม่มีหยดน้ำตา ฉันนั่งคิดถึงสิ่งทั้งหมดนี้ขณะที่พิธีไว้อาลัยดำเนินไปจนจบ วิดีโอเพลงพระคุณพระเจ้าเปิดขึ้นอีกครั้งในตอนท้าย ฉันฟังแต่ละถ้อยคำในบทเพลงอีกครั้งด้วยใจที่อธิษฐาน
ยังมีเวลาอีกแสนนาน นานเกินพอที่จะได้อยู่กับคนที่ฉันรัก ฉันไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรเลย ฉันมองดูภาพของผู้ที่สำคัญที่สุดในงานค่ำคืนนั้น รอยยิ้มของเธอสวยงามอบอุ่น ฉันคงได้พบกับเธอบนนั้นด้วยเช่นกันเมื่อเวลามาถึง
พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับคนที่ล่วงลับไปหรือทุกข์โศกเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งไม่มีความหวัง เราเชื่ออยู่ว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์และทรงเป็นขึ้นอีก เราจึงเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงให้ผู้ที่ล่วงลับไปในพระเยซูมากับพระเยซูอีก (1 เธสะโลนิกา 4:13-14)
“จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง”
แด่ ปะป๊า เจด แม่ตุ๊ก พี่แอมป์ และ คุณแตงโม
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...