WRITER: โจแอนนา แทน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร
สมัยที่ฉันเป็นเด็กฉันมักจะถูกเรียกว่าเป็นเจ้าหญิงของครอบครัวเพราะฉันเป็นลูกคนเล็กสุดของบ้าน แต่เมื่อฉันโตขึ้น มันกลับเป็นเรื่องยากที่ฉันจะได้รับการสนใจจากแม่ ฉันรู้สึกว่าแม่โปรดปรานพี่ๆ ของฉันเพราะเขาทั้งสองโดดเด่นทั้งที่โรงเรียนและที่โบสถ์ ในขณะที่ฉันไม่ได้โดดเด่นเหมือนพวกเขาและพ่อแม่มักมองว่าฉันเป็นเด็กที่ชอบสร้างปัญหา
ฉันเหมือนเด็กคนอื่นๆ ที่อยากได้รับความรัก การถูกละเลยจากพ่อแม่สร้างความเจ็บปวดให้กับฉัน ฉันพยายามที่จะได้รับความรักจากแม่ของฉันโดยการแข่งขันกับพี่ๆ ที่โรงเรียนและทำทุกอย่างที่ฉันสามารถทำได้เพื่อเป็นลูกที่ดี ฉันทำการ์ดและของขวัญให้แม่ในช่วงเทศกาลต่างๆ และพยายามตั้งใจเรียนเพื่อจะได้คะแนนดี แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน แม่ของฉันก็ยังเปรียบเทียบฉันกับพี่ๆ เสมอและคอยบอกฉันว่าฉันยังไม่ดีเท่าพวกเขา ถึงแม้ว่าฉันจะเรียนได้ดี แม่ของฉันก็ยังพยายามห้ามไม่ให้ฉันเข้าเรียนมหาลัยเพียงเพราะฉันไม่เหมือนพี่ๆ ของฉัน ไม่ว่าฉันจะพยายามมากแค่ไหนมันดูเหมือนจะไม่เพียงพอ
ฉันรู้สึกแย่ที่ความพยายามของฉันไม่มีความหมายช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ฉันพยายามและล้มเหลวที่จะได้รับความรักจากพ่อแม่ของฉันช่วยให้ฉันเรียนรู้ที่จะแสวงหาการลี้ภัยในพระเจ้า ในช่วงเวลาที่ฉันถูกปฏิเสธฉันมักจะนำความเศร้าและความโดดเดี่ยวเข้ามาหาพระเจ้าและพระองค์ทรงอยู่ที่นั่นเพื่อปลอบโยนฉัน พระบิดาผู้ทรงสถิตย์ในสวรรค์ทรงสำแดงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์แก่ฉันในทุกครั้งที่ฉันเข้ามาหาพระองค์
ถูกปฏิเสธโดยมนุษย์ แต่ได้รับความรักจากพระเจ้า
หลายปีที่แล้ว ฉันได้ฟังเรื่องราวของเลอาห์ เลอาห์ไม่ใช่ภรรยาที่สามีของเขาต้องการ และเธอคาดหวังที่จะได้รับความรักจากสามีด้วยการมีบุตรชายให้แก่เขา และทุกครั้งเธอก็จะผิดหวังจากการกระทำที่ไม่มีความหมาย
“พระยาห์เวห์ทรงเห็นว่ายาโคบไม่รักเลอาห์ จึงทรงให้เลอาห์ตั้งครรภ์ แต่ราเชลนั้นเป็นหมัน นางเลอาห์ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชาย และตั้งชื่อว่า รูเบน ด้วยนางว่า “เพราะพระยาห์เวห์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของฉัน เพราะเดี๋ยวนี้สามีจะรักฉัน” นางเลอาห์ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชายคนหนึ่งและว่า “เพราะพระยาห์เวห์ทรงได้ยินว่าฉันไม่เป็นที่รัก พระองค์จึงประทานบุตรชายคนนี้ให้แก่ฉันด้วย” นางตั้งชื่อว่า สิเมโอน นางตั้งครรภ์และมีบุตรชายอีกคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “ครั้งนี้สามีจะสนิทสนมกับฉัน เพราะฉันมีบุตรชายกับเขาสามคนแล้ว” เหตุนี้จึงตั้งชื่อเขาว่า เลวี นางตั้งครรภ์และมีบุตรชายอีกคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” เหตุนี้นางจึงตั้งชื่อเขาว่า ยูดาห์ แล้วนางก็หยุดมีบุตร” (ปฐมกาล 29:31-35)
ชื่อของบุตรชาย 3 คนแรกที่เลอาห์ตั้งให้แสดงให้เห็นที่ความต้องการจะเป็นที่รักจากสามีของเธอ แต่เมื่อเธอได้คลอดบุตรชายคนที่ 4 เธอกล่าวว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” แทนที่จะตั้งความหวังที่จะได้รับความรักจากยาโคบสามีของเธอ เธอเลือกที่จะยอมจำนนต่อพระเจ้า เธอพักพิงในของขวัญที่พระเจ้าให้เธอนั่นคือบุตรชาย สรรเสริญพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้แก่เธอ
เช่นเดียวกับฉัน เลอาห์พยายามอย่างมากและล้มเหลวที่จะได้รับความรักจากคนอื่น แต่เธอกลับค้นพบความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากพระเจ้า ความรักที่เธอไม่ต้องทำสิ่งใดเลยเพื่อที่จะได้มา สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกดี เพราะมันเตือนฉันว่าไม่ว่าครอบครัวจะทำเช่นไรกับฉัน พระเจ้ารักฉันเสมอ และไม่มีสิ่งไหนที่ฉันต้องทำเพื่อที่จะได้รับความรักนี้ ฉันได้มันมาแล้ว
หลายปีที่ฉันต้องเผชิญความผิดหวังและเจ็บปวดด้วยการเป็นลูกที่ถูกลืม มันทำให้ฉันเข้าใกล้ความรักของพระบิดา ความรักที่มีให้ตั้งแต่ก่อนที่โลกหรือฉัน เกิดมา ความรักของพระเจ้าไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนความรักของมนุษย์ พระองค์ทรงรักฉันทั้งๆที่ฉันมีข้อบกพร่องและล้มเหลว
ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถแม้กระทั่งจะรักตัวเองได้ พระเจ้าทรงรักเรา พระเจ้าทรงสำแดงให้เราเห็นถึงความรักของพระองค์: คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา (โรม 5:8) ถึงแม้ว่าพระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเราทั้งหลาย พระเจ้ายังประทานสิทธิให้เราเป็นบุตรของพระองค์และเราสามารถเรียกพระองค์ว่า “อับบา พ่อ” (กาลาเทีย 3:23-4:7) การที่ฉันค้นพบตัวตนของฉันในพระคริสต์ทำให้ฉันได้รับการปลดปล่อย เพราฉันรู้ว่าพระองค์ทรงรักเราไม่ว่าเราจะเป็นใครและเคยทำอะไรมา
ให้สถานการณ์ของคุณนำคุณไปสู่พระคริสต์
แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่ฉันอยากให้สถานการณ์ของฉันเปลี่ยนแปลงไป ฉันอยากที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์และพ่อแม่ที่ดี แต่เมื่อฉันมองย้อนกลับไป ฉันได้รู้ว่าสถานการณ์เหล่านี้ช่วยให้ฉันมีประสบการณ์กับความรักของพระเจ้าที่มีต่อฉัน เพราะฉันไม่ได้รับความรักและความผูกพันธ์ที่ฉันต้องการฉันจึงหันไปหาความรักของพระเจ้า เพราะการดิ้นรนที่เจ็บปวดต่อความรักและการมีตัวตนทำให้ฉันค้นพบสมบัติล้ำค่านั้นคือความรักของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์
และเมื่อฉันโตขึ้น ฉันเริ่มเข้าใจแม่ของฉันและพยายามที่จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเธอ
ตอนนี้ฉันรักพ่อแม่ของฉันไม่ใช่เพราะว่าฉันพยายามที่จะเป็นที่โปรดปรานแต่เพราะพระเจ้าทรงรักฉันและฉันปลอดภัยเมื่ออยู่ในพระองค์
ประสบการณ์ของฉันทำให้ฉันสามารถหนุนใจพี่ของฉันให้ผ่านการทดลองและยืนยันกับเธอถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าที่มีต่อพวกเรา
พระเจ้าอาจจะไม่ได้ให้ครอบครัว งาน สุขภาพและความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แก่เราเหมือนที่เราสามารถเห็นได้จากประสบการณ์ของคนมากมายในพระคัมภีร์ แต่คนเหล่านั้นรวมถึงคริสเตียนหลายๆในทุกวันนี้ยังรักและสัตย์ซื่อต่อพระเยซูถึงแม้ว่าเขาจะเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากและยังยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อจะติดตามพระองค์ หลายครั้งที่สถานการณ์ที่ยากลำบากและความเจ็บปวดทำให้เรารู้สึกชื่นชมกับสิ่งที่พระเยซูได้ทรงทำให้เราและเรียกร้องให้เรามอบทั้งหมดที่เรามีแก่พระองค์
นอกจากพระองค์แล้วข้าพระองค์ไม่มีผู้ใดในฟ้าสวรรค์
นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งใดในโลก
ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป
แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจ
และเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์
(สดุดี 73:25-26)
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...