fbpx

ถ้อยคำที่บาดลึก

วันที่ 17 | พระธรรมประจำวัน

แมลงวันตาย ย่อมทำให้น้ำมันหอมบูดเหม็นไป ความเขลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำลายปัญญาและเกียรติยศ
จิตใจของคนมีปัญญา ย่อมนำไปทางขวามือของเขา แต่จิตใจของคนเขลา ย่อมนำไปทางซ้ายมือของเขา
แม้เมื่อคนเขลากำลังเดินไปตามทาง เขาก็ขาดสติ และมักแสดงแก่ทุกคนว่า ตนเป็นคนเขลา
ถ้าอารมณ์โกรธของผู้ครอบครองพลุ่งขึ้นต่อท่าน อย่าลุกจากที่ของท่าน เพราะว่าอารมณ์เย็นย่อมระงับความผิดใหญ่หลวงไว้ได้
มีสิ่งสามานย์ที่ข้าพเจ้าเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ ประหนึ่งว่าเป็นความผิดซึ่งมาจากผู้มีอำนาจ 
คือคนเขลาถูกแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งสูงใหญ่ และคนมั่งคั่งรับตำแหน่งต่ำต้อย 
ข้าพเจ้าเห็นทาสขี่ม้า และเจ้านายเดินที่พื้นดินอย่างทาส
ผู้ใดขุดบ่อไว้ ผู้นั้นจะตกลงในบ่อนั้น ผู้ใดพังกำแพงทะลุเข้าไป งูจะขบกัดผู้นั้น
ผู้ใดสกัดหิน ผู้นั้นอาจเจ็บเพราะหินนั้น ผู้ใดผ่าขอนไม้ ผู้นั้นจะประสบอันตรายเพราะขอนไม้นั้นได้
10 ถ้าขวานทื่อแล้ว และเขาไม่ลับให้คม เขาก็ต้องออกแรงมาก แต่ประโยชน์ของปัญญาคือการนำมาซึ่งความสำเร็จ
11 ถ้างูขบเสียก่อนที่ทำให้มันเชื่อง หมองูก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว
12 ถ้อยคำจากปากของผู้มีปัญญาทำให้เขาเป็นที่โปรดปราน แต่ริมฝีปากของคนเขลาจะเผาผลาญตัวเขาเสีย
13 ถ้อยคำจากปากของเขาเป็นความเขลาตั้งแต่เริ่มปริปาก ตอนจบของคำพูดก็เป็นความบ้าบออย่างร้าย
14 คนเขลาพูดมากซ้ำซาก มนุษย์ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใครจะบอกเขาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาจากไป?
15 การตรากตรำของคนเขลาทำให้เขาเหน็ดเหนื่อย เพราะว่าเขาไม่รู้จักทางเข้าเมือง
16 โอ แผ่นดินเอ๋ย วิบัติแก่เจ้าเมื่อกษัตริย์ของเจ้าเป็นเพียงคนรับใช้ และเจ้านายทั้งหลายของเจ้ามีการเลี้ยงกันสนุกสนานแต่เช้า
17 โอ แผ่นดินเอ๋ย เจ้าจะเป็นสุข เมื่อกษัตริย์ของเจ้ามาจากตระกูลของขุนนาง และเจ้านายของเจ้ามีการเลี้ยงตามกาลเทศะ เพื่อจะมีกำลังวังชา มิใช่จะดื่มให้มึนเมา
18 เพราะความขี้เกียจ หลังคาจึงทรุดพังลง และเพราะความเกียจคร้าน เรือนจึงรั่วเฉอะแฉะ
19 อาหารทำให้คนหัวเราะ และเหล้าองุ่นทำให้ชีวิตชื่นบาน และเงินก็จัดให้ได้ทุกอย่าง
20 อย่าแช่งด่าพระราชา เออ แม้แต่ในความคิดก็อย่าเลย และอย่าแช่งคนมั่งมี แม้เจ้าอยู่ในห้องนอนของเจ้าเพราะนกในอากาศจะคาบเสียงของเจ้าไปหรือตัวที่มีปีกจะเล่าเรื่องนั้น

ตั้งแต่เด็ก ผมและพี่น้องอีกสามคนคุ้นเคยกับการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการอยู่ด้วยกันทุกวัน และบางครั้งก็มีการเอาชนะกันระหว่างพี่น้องด้วย

ผมยังจำได้ถึงเหตุการณ์หนึ่งในช่วงวัยรุ่นอายุประมาณ 15-16 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ผมมักตอบสนองอย่างรวดเร็วเกินไปต่อสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นความอยุติธรรม และพูดอะไรออกไปโดยไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด ผมรู้สึกว่าผมทำงานบ้านซึ่งคิดเป็นสัดส่วนแล้วมากกว่าน้องสาว แต่กลับไม่ได้รับการมองเห็นคุณค่าที่สมน้ำสมเนื้อกับปริมาณงานที่ทำ ผมเลยตัดสินใจพูดกับแม่ในสิ่งที่คิด

ขณะที่ผมกำลังบ่นอยู่นั้น คำพูดของผม ซึ่งตอนแรกผมคิดว่ามันฟังดูชอบธรรมมากๆ ตอนอยู่ในหัวของผม แต่จู่ๆ ผมก็ได้ยินมันอย่างที่มันเป็นจริงๆ นั่นก็คือเป็นคำพูดที่โง่เขลา ไม่เป็นความจริง และหยุมหยิม เมื่อคำสุดท้ายหลุดออกจากปาก ผมก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ได้พูดออกไป  

ผมยังจำใบหน้าอันเจ็บปวดของแม่ได้ ตอนที่แม่พยายามอธิบายให้ฟังว่า มุมมองของผมไม่ตรงกับความเป็นจริง และแม่ก็ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง

ตอนนั้นผมรู้แล้วว่าผมทำให้แม่เจ็บปวด ผมจึงเต็มไปด้วยความละอายใจอย่างท่วมท้น

ในช่วงอื่นๆ ของชีวิต ประสบการณ์แบบนี้เปิดเผยให้ผมรู้ว่า หัวใจของผมไม่ซื่อตรงและมีแนวโน้มที่จะตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่น และทำให้ผมรู้ว่าตัวเองต้องการสติปัญญา

ในปัญญาจารย์ 10:2 เราเห็นความตรงกันข้ามกันระหว่างคนมีปัญญากับคนเขลา คนมีปัญญาย่อมนำไปทางขวา หรือทางที่ “ถูกต้อง” ในขณะที่จิตใจของคนเขลาพาไปในทางตรงกันข้าม ปัญญาจารย์ได้อธิบายต่อไปอย่างละเอียดยิบถึงทางของคนเขลาตลอดทั้งบทนี้ นั่นก็คือเขาขาดสติ (ข้อ 3) ขาดความรู้ (ข้อ 15) และขี้เกียจ (ข้อ 18)

ยิ่งกว่านั้น คนเขลาแสดงแก่ทุกคนว่า ตนเป็นคนเขลา (ข้อ 3) พวกเขามีคำพูดมากมายแต่ไม่สร้างประโยชน์อะไร (ข้อ 14) และทำลายตัวพวกเขาเอง (ข้อ 12) ในทางกลับกัน ถ้อยคำของผู้มีปัญญานั้น “ทำให้เขาเป็นที่โปรดปราน” (ข้อ 12) 

แล้วการปฎิบัติตัวด้วยสติปัญญานั้นเป็นอย่างไร? โดยเฉพาะในโลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม ซึ่งบ่อยครั้งที่คนเขลาถูกแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งที่มีเกียรติและอำนาจ (ข้อ 6)

ปกติแล้วเราจะโยง “สติปัญญา” เข้ากับความรู้ ความฉลาด และความเข้าใจเชิงลึก แต่สุภาษิต 9:10 บอกเราว่า “ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา” ขณะที่ “คนโง่รำพึงในใจตนว่า ‘ไม่มีพระเจ้า’” (สดุดี 14:1) คนมีปัญญาดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงพระเจ้า ทำให้เกิดการเชื่อฟังต่อน้ำพระทัยซึ่งเปิดเผยอยู่ในพระคัมภีร์ 

นี่หมายถึงการเลือกที่จะดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า เมื่อตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหรือสถานการณ์ที่อยุติธรรม หลายปีต่อมา ผมสามารถมองย้อนกลับไปแล้วเห็นว่าพระวจนะหลายๆ ตอนสอนเราให้มีสติปัญญาในการยับยั้งปากของเรา (สุภาษิต 10:19) และการช้าในการพูด (ยากอบ 1:19) ซึ่งช่วยผมได้มาก 

ในเวลาที่ผมถูกกระตุ้นให้อยากระเบิดถ้อยคำใส่ใครด้วยความโกรธหรือความใจร้อน ผมรู้สึกขอบพระคุณที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ยับยั้งลิ้นของผมเอาไว้ และทรงให้ถ้อยคำเป็นคำตอบที่นุ่มนวลกับผมแทน (สุภาษิต 15:1) ซึ่งนั่นได้ละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไปแทบทุกครั้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นช่วยให้ผมหลีกเลี่ยงความโง่เขลาแล้วใช้ชีวิตอย่างมีปัญญาได้ ดังที่ปัญญาจารย์ได้สะท้อนให้เห็นในข้อ 6-7 ว่า การปฏิบัติตนอย่างมีปัญญาไม่ได้ทำให้คนชื่นชอบเรา หรือทำให้เราหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดได้เสมอไป แต่พระคำของพระเจ้าได้สัญญาว่า เราจะได้รับพระพรยิ่งใหญ่ในการทำเช่นนี้

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำของเรา วิธีที่เราจัดการความสัมพันธ์ หรือทำการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ ในชีวิต ขอให้เราแสวงหาปัญญาในพระคัมภีร์ และนำมาใช้ในชีวิตของเรา

– โดย ชอง โชวเอิน ประเทศสิงคโปร์

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1.  นึกถึงเวลาที่คุณปฏิบัติตัวอย่างโง่เขลาโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง พอได้มาทบทวนดูแล้ว การตอบสนองที่มีปัญญาน่าจะเป็นอย่างไร?

2. มีส่วนไหนในชีวิตบ้างที่คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยปัญญาของพระเจ้า? จดเป็นรายการออกมาแล้วอธิษฐานมอบไว้กับพระเจ้า

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

โครงการสำคัญชิ้นต่อไปของโชวเอินคือ การเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งที่เขาทำเสมอ ซึ่งเขากำลังจะเริ่มโครงการนี้ในไม่ช้า เขายังรักดนตรี กีฬา และการใช้เวลาที่มีคุณภาพกับเพื่อนๆ และครอบครัวอีกด้วย ที่สำคัญที่สุด เขาปรารถนาที่จะปรารถนาพระเจ้ามากขึ้น

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This