fbpx

เมื่อสติปัญญาไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

วันที่ 16 | พระธรรมประจำวัน

13 ข้าพเจ้าเห็นเรื่องปัญญาภายใต้ดวงอาทิตย์ และเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โตดังต่อไปนี้ 
14 ยังมีเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง มีคนอยู่ในเมืองนั้นน้อยคน แล้วมีมหาราชามาตีเมืองนั้น และล้อมเมืองนั้นไว้ และสร้างเครื่องล้อมโจมตีไว้รอบเมือง 
15 อย่างไรก็ดีในเมืองนั้นมีชายยากจนแต่มีปัญญาอยู่คนหนึ่ง และชายคนนี้ช่วยเมืองนั้นไว้ให้รอดด้วยปัญญาของตน แต่ไม่มีใครระลึกถึงชายยากจนคนนี้ 
16 แต่ข้าพเจ้าว่า ปัญญาก็ดีกว่ากำลัง ถึงปัญญาของชายคนนั้นถูกดูหมิ่น และถ้อยคำของเขาไม่มีใครฟังก็ตามที 
17 ถ้อยคำอ่อนโยนของคนมีปัญญาก็น่าฟัง กว่าเสียงตะโกนของผู้ครอบครองท่ามกลางคนเขลา 
18 ปัญญาดีกว่าอาวุธสงคราม แต่คนบาปคนเดียวย่อมทำลายความดีเป็นอย่างมากได้

ในฐานะคนชอบดูหนัง หนึ่งในแนวหนังที่ผมชอบก็คือหนังมหากาพย์อิงประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมถึง นักรบผู้กล้าผ่าแผ่นดินทรราช หรือ แกลดิเอเตอร์ (Gladiator) และ เบรฟฮาร์ท วีรบุรุษใจมหากาฬ (Braveheart) หนึ่งในเรื่องที่ผมชอบที่สุดในจำนวนหนังแนวนี้คือ มหาศึกกู้แผ่นดิน หรือ คิงดอมออฟเฮเว่น (Kingdom of Heaven) หนังปี 2005 โดยผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์

หนังเรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากชีวิตของชายที่ชื่อว่า บาเลียน แห่งอิเบลิน ซึ่งแสดงโดยออร์แลนโด บลูม จุดไคลแม็กช์ของหนังและของชีวิตบาเลียนก็คือ การโจมตีเยรูซาเล็มในปี 1187 ในช่วงเวลาที่สงครามครูเสดกำลังเข้มข้น บาเลียนผู้เป็นอัศวินและเป็นชนชั้นสูงชาวคริสต์ ได้รับมอบหมายให้ป้องกันกรุงเยรูซาเล็มจากหนึ่งในสุดยอดทางการทหารแห่งยุคนั้นคือ ซาลาดิน ซึ่งเข้าโจมตีด้วยกองกำลังที่มากกว่าฝ่ายป้องกันเมืองถึงห้าเท่า

ในการเจรจาเพื่อให้ยอมจำนน บาเลียนได้ทำข้อตกลงกับซาลาดินอย่างชาญฉลาด เพื่อชาวเมืองจะได้ปลอดภัย น่าอัศจรรย์ใจที่การส่งมอบเมืองเกิดขึ้นโดยแทบไม่เสียเลือดเนื้อและเกิดความเสียหายน้อยมาก หลังจากการเข้าป้องกันเมืองครั้งนั้น บาเลียนก็ไปใช้ชีวิตอย่างสงบ โดยแทบไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เขาทำในการช่วยชีวิตคนในกรุงเยรูซาเล็มเอาไว้มากมาย

ผมอดนึกถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ครั้งนั้นไม่ได้ เมื่อผมอ่านสิ่งที่ผู้เขียนอธิบายไว้ในพระธรรมตอนที่นำมาศึกษาในวันนี้คือปัญญาจารย์ 9:13-18 ซึ่งพูดถึงชายคนหนึ่งที่ใช้สติปัญญาเพื่อช่วยเมืองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของมหาราชา แต่ว่าชายคนนี้ไม่ได้รับการจดจำในสิ่งที่เขากระทำ แม้ว่าเขาได้สำแดงสติปัญญาให้เห็นก็ตาม (ข้อ 15)

แม้ว่ามันอาจไม่นำไปสู่การเห็นคุณค่าจนเป็นที่จดจำ ผู้เขียนก็กล่าวต่อไปว่า “ปัญญาก็ดีกว่ากำลัง” (ข้อ 16) นี่อาจดูเป็นถ้อยคำง่ายๆ แต่เป็นความจริงที่ผมต้องคอยใช้ตรวจสอบตัวเองเสมอ ผมเป็นคนที่ให้คุณค่ากับการได้รับการยอมรับ แม้ว่าไม่มีอะไรผิดที่ปรารถนาการยอมรับ แต่ผมเห็นแล้วว่า มันอาจทำให้ผมเห็นคุณค่าการได้รับการยอมรับมากกว่าการทำสิ่งต่างๆ ด้วยสติปัญญา

ในอรรถาธิบายของอาจารย์คอนสเตเบิลเกี่ยวกับเนื้อหาตอนนี้ เขากล่าวว่าบ่อยครั้งสติปัญญาก็ไม่ได้ให้ผลดีที่จับต้องได้ ผมเห็นว่ามันเป็นจริงในยุคสมัยนี้เช่นกัน ผมเคยเห็นเพื่อนๆ ปฎิเสธโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงาน เพราะพวกเขามีสติปัญญาที่เห็นได้ว่า โอกาสนั้นจะส่งผลเสียหายต่อครอบครัว ต่อคนใกล้ชิด หรือต่อสุขภาพฝ่ายวิญญาณ แม้ว่านั่นจะเป็นการตัดสินใจด้วยสติปัญญา โลกนี้อาจมองว่าเป็นความ “อ่อนแอ” ถ้าเราให้คนอื่นๆ หรือชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรามาก่อนความก้าวหน้าทางสังคม

คำพูดจากผู้เขียนนำไปสู่คำถามสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เราจะใช้ชีวิตด้วยปัญญาไปทำไม ในเมื่อไม่มีผลตอบแทนหรือไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลย?

สุดท้ายแล้ว มันอยู่ที่ว่าเราให้คุณค่ากับอะไรมากที่สุด ตอนนั้นผู้เขียนปัญญาจารย์เองก็ยังไม่รู้ว่าผู้ที่มีสติปัญญายิ่งใหญ่ที่สุดจะเสด็จมา บาเลียนอาจใช้สติปัญญาในการช่วยเมืองให้รอดพ้นอันตรายก็จริง แต่บุคคลผู้ที่กำลังมานี้ ซึ่งก็คือพระเยซู ได้ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเปิดหนทางรอดให้แก่โลกนี้ด้วยปัญญาที่มาจากสวรรค์

ในมัทธิว 6:21 พระองค์ตรัสกับบรรดาผู้ติดตามพระองค์ว่า “ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย” และตัวเราก็ต้องตัดสินใจเองว่า ทรัพย์สมบัติของเราอยู่ที่ไหน เราสนใจการยอมรับทางโลกและสิ่งตอบแทนมากกว่า หรือเราจะอนุญาตให้องค์พระผู้ช่วยเปลี่ยนแปลงเราให้เห็นคุณค่าสติปัญญาจากสวรรค์มากกว่า?

ผมอธิษฐานให้เราทุกคนแสวงหาสติปัญญาจากพระเจ้าเสมอ แม้ว่าเราอาจไม่ได้ยินเรื่องสติปัญญาเช่นนี้ตามแบบอย่างของโลก ผมจะเฝ้าคอยวันที่ได้เห็นว่า การตัดสินใจเลือกอย่างมีสติปัญญา (ข้อ 17) ของคริสเตียนรุ่นแล้วรุ่นเล่า  จะส่งผลกระทบที่แท้จริงต่อแผ่นดินสวรรค์อย่างไร

– โดย คาเลบ ยัง ประเทศนิวซีแลนด์

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1.  นึกถึงช่วงเวลาเมื่อการงานของคุณไม่มีใครสังเกตเห็น ความจริงหรือถ้อยคำเตือนใจจากพระคัมภีร์ในข้อไหนบ้าง ที่ช่วยให้คุณต่อสู้กับความรู้สึกแง่ลบที่เกิดจากการถูกมองข้าม?

2. ใครเป็นคนที่คุณไปขอคำปรึกษาบ่อยที่สุด? มีใครไหมที่มี “ความเข้มแข็งอันอ่อนโยน” ที่อาจช่วยคุณได้เมื่อไปขอคำปรึกษา?

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

คาเลบเป็นผู้ชื่นชอบ (fan) ภาพยนตร์ (film) อาหาร (food) ความสนุกสนาน (fun) ครอบครัว (family)และสิ่งอื่นๆ ด้วยที่ถึงแม้ชื่อในภาษาอังกฤษไม่ได้ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเอฟ (f) อย่างเช่น การท่องเที่ยว (travel) และละครเวที (theater) เขาแสวงหาการเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นเสมอ และรู้สึกขอบพระคุณที่องค์พระผู้ช่วยให้รอดทรงรักเขา แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่องต่างๆ

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This