29/06/2021

มันโอเคที่จะรู้สึกผิดหวัง

บ่อยครั้งที่คำถามจริงๆ นั้นซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า “ทำไม” ของเรา: เรารู้สึกเจ็บปวดจากสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเรารู้ว่าพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์ แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าต้องอนุญาตให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ทำไมพระเจ้าไม่ทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น ทำไมมันต้องเกิดขึ้น? พระเจ้าไม่สนใจหรือ?

มันโอเคที่จะรู้สึกผิดหวังหรือเปล่า? แน่นอน แล้วเราสามารถที่จะใช้ชีวิตกับความผิดหวังและยังคงเชื่อวางใจในพระเจ้าได้หรือเปล่า? คำตอบคือใช่

พวกเราไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียว นี่คือห้าบุคคลในพระคัมภีร์ที่ได้แสดงความรู้สึกผิดหวังของพวกเขาต่อพระเจ้า และยังคงใช้ชีวิตด้วยความเชื่อ

สำหรับอับราฮัม มันคือพระสัญญาที่เฉพาะเจาะจง: ทั้งเรื่องลูกหลานและดินแดน ซึ่งรวมกันจะกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่

แม้ว่าอับราฮัมจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวจนได้เห็นดินแดนหรือลูกหลานของเขาทวีขึ้นอย่างดวงดาว อับราฮัม “เชื่อพระยาห์เวห์ ความเชื่อนั้นพระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน” (ปฐมกาล 15:6)

เมื่อคุณมีความสงสัยหรือรู้สึกท้อใจ? อย่าหยุดอยู่แค่นั้น จงกลับมาหาพระเจ้าและฟังสิ่งที่พระองค์อยากจะพูดกับคุณ

คุณกำลังเผชิญความเจ็บปวดมาเป็นเวลานานใช่ไหม?

ถึงแม้ว่าโยบจะถูกนับว่าเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า (โยบ 1:8) แต่เขาก็ไม่ได้ถูกสงวนไว้จากความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง แม้ว่าโยบจะโศกเศร้าและได้แสดงความเสียใจออกมา แต่โยบพูดแค่ความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าเท่านั้น (42:7) และเรียนรู้ที่จะรับสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีจากพระเจ้า (2:10)

เมื่อพระเจ้าเปิดเผยพระองค์เอง โยบตอบสนองด้วยความเชื่อและความถ่อมใจ รับรู้ถึงความดีงามของพระองค์ และการกลับใจของตนเอง (42:1-6)

เมื่อเผชิญกับการทดลองและความเจ็บปวด ร้องทูลต่อพระเจ้า รู้ว่าพระองค์ทรงควบคุมและกำลังทำการของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อที่จะทำให้เราทุกคนสมบูรณ์พร้อมในพระคริสต์

คุณกำลังอยู่ในช่วงทนทุกข์จากการรอคอย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมแผนการของพระองค์สำหรับชีวิตคุณ?

ดาวิดรู้ว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมเขาในฐานะกษัตริย์องค์ต่อไป แต่มันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อเขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาตัวรอด แม้กระทั่งต้องหนีจากค่ายของศัตรู (1 ซามูเอล 27)

ในพระธรรมสดุดีบทที่ 13 ดาวิดถามพระเจ้าซ้ำๆ ว่า “อีกนานเท่าใด?” และเขาได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดทั้งหมดในหัวใจของเขา ถึงอย่างนั้นพระธรรมสดุดีสรุปว่าดาวิดได้กลับเข้าไปสู่ความรักมั่นคง การทรงไถ่ และความดีงามของพระเจ้า

เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกถูกขนาบด้วยการคุกคามและถูกกลืนด้วยความกลัว จงระลึกถึงความรักของพระเจ้าและการช่วยให้รอดของพระองค์

คุณเคยผ่านพ้นประสบการณ์ที่คุณคิดว่าเป็นชัยชนะ เพียงเพื่อปิดบังผลลัพธ์ที่แย่ๆ หรือไม่?

หลังจากมีชีวิตรอดในช่วงสามปีของการกันดารอาหาร หลังจากได้เป็นพยานของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่ภูเขาคารเมล เอลียาห์อาจจะคิดว่าในที่สุดเขาก็ได้แก้ตัว แต่เขากลับต้องหนีและหลบซ่อนตัว (อีกครั้ง!) เพื่อที่จะมีชีวิตรอด เขาต้องรู้สึกสิ้นหวังขนาดไหนถึงขั้นที่ขอให้พระเจ้าเอาชีวิตเขาไป (1 พงกษัตริย์ 19:4)

แต่พระเจ้าทรงดูแลความต้องการด้านร่างกายของเอลียาห์ ทรงรับฟังความโศกเศร้าของเขา และสำแดงการทรงสถิตของพระองค์ (19:5-14) หลังจากที่เอลียาห์ได้รับการฟื้นฟู เขาก็ได้กลับไปทำสิ่งที่พระเจ้าได้สอนเขา

เมื่อคุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและหมดแรง จงรู้ไว้ว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับคุณ พระองค์พร้อมที่จะรับฟังและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้คุณ

คุณเคยอธิษฐานบางสิ่ง เพียงเพื่อจะได้รับคำตอบในทางที่ตรงกันข้ามกับที่คุณขอไหม?

เมื่อพระเยซูมาถึงหลังจากที่ลาซารัสน้องชายของเธอเสียชีวิต มาร์ธาไปหาพระเยซูและแสดงออกถึงความผิดหวังของเธอ “ถ้าพระองค์อยู่ที่นี่ น้องชายของข้าพระองค์ก็คงไม่ตาย” (ยอห์น 11:21) ทว่าในขณะนั้น เธอยังคงรักษาความเชื่อของเธอไว้ได้ “แต่ข้าพระองค์ก็ทราบว่าไม่ว่าสิ่งใดที่พระองค์ทูลขอจากพระเจ้าในเวลานี้ พระเจ้าก็จะประทานแก่พระองค์” (11:22)

แม้มาร์ธาจะเสียใจกับการตายของน้องชาย ไม่รู้ว่าพระเยซูจัดเตรียมอะไรไว้สำหรับเธอ แต่เธอรู้ว่าพระเยซูนั้นทรงรักพวกเธอ (11:3) รู้ว่าว่าพระองค์นั้นทรงมีพละกำลังในการทำทุกอย่างตามพระประสงค์พระเจ้า และน้องชายของเธอจะฟื้นขึ้นจากความตายในวันสุดท้าย (11:24)

เมื่อคำอธิษฐานของคุณได้ผลว่าไม่ จงเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าและแผนการของพระองค์และจงพักผ่อนเสีย และรู้ว่าพระองค์ทรงช่วยเราให้รอด

จากชีวิตของบุคคลเหล่านี้และอีกมากมาย พวกเราได้เห็นวิธีการตอบสนองต่อความผิดหวังด้วยความเชื่อและการเชื่อฟัง เราเรียนรู้ว่าเราสามารถนำความเจ็บปวดมาฝากไว้กับพระเจ้า และพระองค์ทรงได้ยินเสียงร้องทูลและทรงเมตตา (ยากอบ 5:11) และท่ามกลางความเจ็บปวดของเรา เราสามารถตอบสนองด้วยความเชื่อโดยการยึดมั่นในพระลักษณะของพระเจ้า จดจำในความรักและพระสัญญาที่ทรงมีต่อผู้เชื่อทุกคน (โรม 8:37-39)

YOU MAY ALSO LIKE