fbpx
Written by : จาเนล ไบร์ทเท็นสไตน์ YMI
TRANSLATOR: กัญญาภัค ยะปะภา
EDITOR: ณัฐรวี ยุ้งทอง

คุณคงเคยเป็นเหมือนที่ฉันเคยเป็น คุณมั่นคงอยู่กับพระเจ้าสักระยะหนึ่ง แต่สมองของคุณกลับรู้สึกเหมือนเป็นเครื่องพินบอลมากกว่า

แย่แล้ว ฉันต้องโทรหาคนนั้น…โอ้ย เรื่องที่ทำงานเมื่อวานนี้ยุ่งยากจริงๆ…กาแฟแก้วนี้อร่อยจัง ฉันต้องใส่เอาไว้ในรายการซื้อของซะแล้ว

ความฟุ้งซ่านทางความคิดส่งผลให้ไม่สามารถคิดถึงเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณได้ การได้อยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้า และให้พื้นที่สำหรับพระองค์ แล้วเราสามารถทำอะไรได้บ้าง

1. รับรู้และสำรวจความคิด

ทำไมฉันถึงฟุ้งซ่านไม่มีสมาธิ? ฉันได้รับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานหรือไม่ เช่น การนอนหลับ อาหาร การออกกำลังกาย และมีเวลาว่างระหว่างวันเพื่อคิดสิ่งต่างๆ? ฉันสามารถประมวลผลเหตุการณ์ล่าสุดที่สำคัญต่อฉัน หรือดูเหมือนว่าสำคัญต่อสมองของฉันได้หรือไม่?

เป็นไปได้ไหมว่าร่างกายที่พระเจ้าสร้างขึ้นเพื่อคุณ กำลังพยายามบอกอะไรบางอย่างกับคุณ

 หากคุณต้องการเวลาสองสามนาทีเพื่อสงบจิตใจ ให้ตั้งเวลาบนโทรศัพท์และปล่อยให้ความคิดของคุณล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย บ่อยครั้งที่สมองของเรามีเวลาหายใจน้อย โดยมีข้อมูลมากมายไม่รู้จบที่เราได้รับ เมื่อเรานั่งลงโดยที่ไม่ได้กำหนดขอบเขตเวลาไว้ สมองก็จะพยายามประมวลผลให้ทัน

สังเกตไหมว่าความคิดที่ไม่หยุดนิ่งของคุณดึงดูดสมองของคุณอย่างไร เป็นเรื่องแฟนตาซีไหม? ความคิดกำลังวนเวียนอยู่กับความต้องการที่คุณอยากได้รับในตอนนี้ เช่น ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย การยอมรับ หรืออำนาจหรือไม่ มีอะไรในสถานการณ์ของคุณที่ทำให้คุณอยากได้บางสิ่งบางอย่างหรือไม่ หรือการคิดไม่หยุดหย่อนได้กลายมาเป็นความมั่นคงในชีวิตของคุณของคุณหรือไม่?

ฝากมอบ “ช่องว่าง” ที่คุณรู้สึกไว้กับพระเจ้า และใคร่ครวญข้อพระคัมภีร์ที่นำคุณไปสู่การปลอบโยน ความปลอดภัย การยอมรับ และฤทธิ์เดชของพระองค์ “โอ้ ทุกคนที่กระหาย จงมายังน้ำ และผู้ไม่มีเงินจงมาหาซื้อและรับประทาน จงมาซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม โดยไม่ต้องเสียเงินและค่าใช้จ่าย (อิสยาห์ 55:1)

2. ถ้าหากใจของคุณมีปัญหา ลองสำรวจอารมณ์ของตัวเองก่อนจะเฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้า

อันที่จริง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณพักการเฝ้าเดี่ยวตามแผนที่กำหนดไว้ในวันที่ถูกรบกวน ไม่มีสมาธิหรือรู้สึกฟุ้งซ่าน และประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระเจ้าแทน บางครั้งฉันชอบอธิษฐานตามคำอธิษฐานสำรวจจิตใจแบบโบราณในตอนท้ายของวัน เพื่อสังเกตการทรงสถิตของพระเจ้า และวิธีที่พระองค์ทรงโต้ตอบกับประสบการณ์ที่พระองค์ทรงเตรียมไว้สำหรับฉัน

ดังนั้น ให้นำคำถามที่ลึกที่สุดและเสียงร้องจากใจของคุณไปที่แท่นบูชา เพื่อเป็นโอกาสในการรู้จักพระเจ้า เพื่อสำรวจสิ่งที่พระองค์กำลังทำในวันที่คุณล่องลอย หดหู่ และเจ็บปวด

ลองอธิษฐานด้วยคำถามและข้อพระคัมภีร์เหล่านี้: 

  1. พระเจ้า วันนี้กำลังอยู่ที่จุดไหน? อารมณ์อะไรที่ลูกกำลังรู้สึก? (1 พงศ์กษัตริย์ 19:9)
  2. พระองค์อยากพูดอะไรกับลูก? (สดุดี 139:23-24)
  3. ลูกโหยหาอะไรอยู่ พระองค์จะพูดอะไรผ่านความปรารถนา และ/หรือความเจ็บปวดของลูก? (มาระโก10:51)
  4. พระองค์ต้องการทำอะไรในชีวิตของลูก? (สดุดี 86:11)

คุณกังวลไหม? กระวนกระวายหรือเครียด? โกรธ? เสียใจ? ขมขื่นใจ? ไร้จุดหมาย?

เปิดเผยกับพระเจ้า แล้วก็เทศนากับจิตวิญญาณของคุณเอง หาข้อพระคัมภีร์เพื่อต่อสู้กับคำโกหกหรือความเครียดที่คุณกำลังเผชิญอยู่โดยเฉพาะ ดังที่ยูจีน ปีเตอร์สันเขียนว่า “คำอธิษฐาน [ที่แท้จริง] ทั้งหมด หากไล่ตามมากพอ จะกลายเป็นคำสรรเสริญ”

3. ถ้าสิ่งนั้นเป็นรายการสิ่งที่ต้องทำหรือไม่สามารถหยุดไอเดียที่เข้ามาในหัวได้ ลองเขียนเป็นข้อๆ ดู

…ในสมุดบันทึกประจำวันของคุณที่อยู่ข้างๆ คุณ ค่อยกลับมาหามันทีหลัง ตอนนี้มันปลอดภัยแล้วและจะไม่หนีไปไหน สำหรับรายการสิ่งที่ต้องทำ คืออธิษฐานขอสติปัญญาเหนืองานของคุณ ขอให้เสียงของพระเจ้าและการจัดลำดับความสำคัญดำเนินไปในแต่ละวัน 

อย่าเพียงแค่อธิษฐานเพื่อ “รู้สึกถึงสันติสุข” แต่ให้มุ่งมั่นที่จะดำเนินชีวิตจากสถานที่แห่งสันติสุขที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสร้างขึ้น (กาลาเทีย 5:22)

และสำหรับความคิดสร้างสรรค์ที่มีเข้ามาเรื่อยๆ ฉันเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์เป็นวิธีที่ฉันเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และมันหลั่งไหลมาจากการนมัสการและเวลาของฉันกับพระเจ้าอย่างธรรมชาติ ผู้ประทานชีวิตหรือ/ผู้ทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่ = ความคิดที่หลั่งไหลออกมาจากทุกรูขุมขน เราร่วมกันสรรค์สร้าง! ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาสองสามนาทีดื่มด่ำกับความสุขนั้นกับพระองค์ จากนั้นจิตใจก็แยกสิ่งเหล่านั้นออกไป เพื่อไม่ให้การแสวงหาความสุขภายนอกมาแทนที่ความสัมพันธ์ของเรา

4. ลองเป็นศิลปิน สร้างงานศิลปะ

วาดข้อพระคัมภีร์สักข้อ หรือเรื่องราวในพระคัมภีร์ หรือแนวคิดจากพระคัมภีร์ ระบายสีในขณะที่ฟังเพลงนมัสการ หรือสมุดระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ (มีให้เลือกเยอะแยะมากมายสำหรับหนังสือระบายสีใคร่ครวญข้อพระคัมภีร์ และแม้แต่พระคัมภีร์ที่เว้นที่ว่างสำหรับงานศิลปะตรงขอบด้านข้าง!) บางครั้งก็ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับการนมัสการ คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นงานศิลปะจากพระคัมภีร์สำหรับบ้านของคุณ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับความงาม และเตือนให้คุณนึกถึงความจริงที่ไม่เคยเหือดแห้ง

5. ขยับร่างกาย

ฉันชอบออกไปวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน หรือเดินป่าขณะอธิษฐาน หรือฟังพอดแคสต์หรือเพลงนมัสการ หรือแม้แต่อธิษฐานขณะยืดเส้นยืดสายและออกกำลังกายเบาๆ

หากคุณรู้สึกฟุ้งซ่านได้ง่าย ให้ใช้มือของคุณทำอะไรที่เงียบสงบและไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ เช่น ถักโครเชต์ แกะถั่วพิสตาชิโอ แปรงขนสุนัข พูดคุยกับพระเจ้าเกี่ยวกับแต่ละสิ่งที่ทำให้คุณเสียสมาธิ ผลักความคิดของคุณผ่านตะแกรงแห่งการอธิษฐาน หมายถึง เข้าสู่มหาสนิทกับพระเจ้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นภายนอกก็ตาม

6. พักสงบ ใคร่ครวญพระคัมภีร์สักข้อ

ให้ข้อพระคัมภีร์เข้าไปในใจของคุณ โดยหลับตาแล้วหายใจเข้าลึกๆ ลองคิดทบทวนแต่ละคำ คำไหนที่เด่นชัดที่สุด ความคิดไหนที่ทำให้คุณหยุด และเพราะเหตุใด ให้คุณจดข้อสังเกตหรือภาพที่เกิดขึ้นในใจ ที่ประยุกต์ใช้กับชีวิตของคุณหรือเปิดความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้า หากคุณต้องการ 

ถามคำถามที่ดี  นักเขียนชารอน บราวน์ ใช้คำถามจากพระคัมภีร์ เช่นเดียวกับที่พระเจ้าถามนางฮาการ์ที่ตั้งครรภ์และถูกทอดทิ้ง (“เจ้ามาจากไหนและกำลังจะไปไหน”) คำถามของพระเยซูสำหรับเหล่าสาวก (“เจ้ากำลังมองหาอะไร” และ “แล้วท่านคิดว่าเราเป็นใคร”)

7. พกหนังสือที่เสริมสร้างฝ่ายจิตวิญญาณติดตัวไว้

เอาหนังสือฝ่ายจิตวิญญาณที่คุณสนใจไว้ใกล้ตัวในวันที่คุณจดจ่อไม่ได้ ฉันชอบหนังสือของพอล อี มิลเลอร์ เรื่อง A Loving Life และหนังสือทำเทศนาของทิโมธี เคลเลอร์บางเล่ม เช่น Communicating Faith in an Age of Scepticism และ The Songs of Jesus: A Year of Daily Devotions in the Psalms

บางครั้งการอ่านความคิดของคนอื่นเกี่ยวกับพระเจ้า เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ หรือเป็น “อาหารเรียกน้ำย่อย” สำหรับการรับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณของฉันกับพระเจ้า

8. ทำในสิ่งที่แตกต่าง

พยายามหลีกเลี่ยงรูปแบบตายตัวที่มากเกินไปในเวลาของคุณกับพระเจ้า คุณไม่ได้ไปออกเดทในสถานที่เดิมๆ กับคู่ของคุณในทุกครั้ง คุณคงไม่พยายามพูดคุยกับเด็กเล็กในสถานที่เดิมๆ ทุกครั้ง

มีหลายวิธีที่แตกต่าง เช่น “ภาษารัก” ที่เราแต่ละคนก็มีวิธีการที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกับพระเจ้า 

ลองนึกดูว่าอะไรเป็นส่วนประกอบสำคัญของ “ช่วงเวลาเฝ้าเดี่ยว” และทำไมคุณถึงเชื่อแบบนั้น ลองอธิษฐานและเปรียบเทียบความคิดนี้กับสิ่งที่เขียนในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการอยู่กับพระเจ้า

คุณเชื่อมต่อกับพระเจ้าผ่านการรับใช้มากที่สุดหรือไม่? กิจกรรม? การพิจารณาใคร่ครวญ? สติปัญญา?

เพื่อให้เวลาของเรากับพระเจ้าได้รับการบำรุงหล่อเลี้ยง และดึงดูดใจตัวเราเอง

เพื่อให้เราได้รับการเลี้ยงดูจากพระเจ้าผ่านการใช้เวลากับพระองค์  แทนที่จะเป็นสิ่งที่ต้องขีดฆ่าในรายการประจำวัน เราจำเป็นต้องมองว่าพระเจ้าเป็นความงามและแรงดึงดูดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และพระองค์ทรงเป็นจุดสูงสุด เราจัดตารางเวลาของเรากับพระองค์เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าพระองค์เติมเต็มชีวิตของเรา ทรงสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมในชีวิตของเราหรือไม่

ขอให้มีความสุขกับการใช้เวลากับพระเจ้าในครั้งถัดไปนะ

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This