04/09/2022
พระเจ้าทำให้ฉันรักความเป็นตัวเองมากขึ้น
ARTIST: Arisa
ARTWORK TYPE/MEDIUM: Illustration
โดยปกติแล้ว ฉันเชื่อว่ามนุษย์เรามักจะไม่คิดว่าตัวเองมีข้อบกพร่องหรือผิดปกติอะไร จนกว่าจะถูกเปรียบเทียบ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมหรือใครสักคน ที่ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราเป็นซึ่งแตกต่างจากพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่แปลก และทำให้เกิดความรู้สึกในด้านลบมากกว่าบวกซึ่งนำไปสู่การอยากเปลี่ยนแปลง จนอาจสูญเสียความเป็นตัวตนที่พระเจ้าตั้งใจสร้างให้เราเป็นจริงๆ ไปในที่สุด
ก่อนที่ฉันจะรู้จักกับพระเจ้า ฉันเคยรู้สึกว่าการที่ฉันเป็นคนเงียบๆ นั้นเป็นข้อด้อย ฉันเคยถูกโหวตให้เป็นคนที่เงียบที่สุดในห้อง ฉันถูกถามมากมายถึงเหตุผลที่ฉันเป็นคนเงียบ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันแค่คิดว่าฉันเป็นนักเรียนใหม่ที่พึ่งมาได้ไม่นาน และถ้าไม่คุ้นเคยหรือสนิทกับใครก็จะไม่ค่อยพูด หรือแม้แต่การที่ถูกคนทักว่าเรียบร้อยจัง ซึ่งมันควรเป็นข้อดีและฉันควรภูมิใจกับคำพูดเหล่านั้น แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันควรทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ดูเรียบร้อยขนาดนั้น ฉันพยายามโกหกตัวเองว่าจริงๆ แล้วฉันไม่ได้เป็นคนเงียบหรือเรียบร้อย พยายามบอกตัวเองว่าจริงๆ แล้วฉันชอบเข้าสังคม ชอบพูดคุยมากกว่าที่จะฟังหรือใช้ความคิด และชอบไปเจอเพื่อนมากกว่าอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่จริงๆ แล้วมันแทบจะตรงกันข้าม และฝืนธรรมชาติที่แท้จริง ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ฉันไม่มีอิสระในการค้นหาตัวเองและรู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉันได้
แต่พอฉันได้รู้จักและได้รับการเติมเต็มด้วยความรักของพระเจ้า พระองค์สำแดงให้ฉันเห็นคุณค่าในความเป็นตัวตนที่แท้จริงของฉันที่พระเจ้าตั้งใจสร้างขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อการดีที่มีเพียงคนบุคลิกแบบฉันที่จะทำได้ นั่นทำให้ฉันเห็นคุณค่าของการที่ฉันเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยเข้าสังคมขึ้นมาทันที พระเจ้าได้สำแดงความจริงกับฉันผ่านพระคัมภีร์ว่าฉันถูกสร้างและถูกกำหนดเอาไว้เพื่อการดี ไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์ที่เป็นลบ หรือการถูกด้อยค่าแต่อย่างใด
“พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ยาก เพื่อจะให้อนาคตตามที่คาดหมายไว้แก่เจ้า” เยเรมีย์ 29:11
“เราได้รู้จักเจ้าก่อนที่เราได้ก่อร่างตัวเจ้าขึ้นในครรภ์ และก่อนที่เจ้าคลอดจากครรภ์ เราก็ได้กำหนดตัวเจ้าไว้ เราได้แต่งตั้งเจ้าเป็นผู้เผยพระวจนะแก่บรรดาประชาชาติ” เยเรมีย์ 1:5
พระเจ้าสำแดงกับฉันผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ว่าการที่ฉันเป็นคนไม่ชอบพูดนั้นเป็นเพราะจริงๆ แล้วฉันชอบฟังผู้อื่น โดยเฉพาะเวลาที่พระเจ้านำใครสักคนที่มีปัญหาชีวิตมาระบายกับฉัน ฉันยินดีที่จะรับฟังและเข้าใจพวกเขา ซึ่งทำให้ฉันเรียนรู้ว่าแค่นั้นก็คือพระพรอันมหาศาลสำหรับเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การที่ฉันเป็นคนเงียบ นั่นคือฉันชอบใช้ความคิด และกลั่นกรองก่อนที่จะพูดบางสิ่งออกมา นั่นเป็นข้อดีเพราะทำให้ฉันดูเป็นคนที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิภาวะ จริงใจ และพึ่งพาได้ นอกจากนี้ ฉันชอบการเขียน และพระเจ้าได้สำแดงให้ฉันเห็นว่าฉันมีจุดแข็งในเรื่องนี้ ซึ่งมันมีประโยชน์ในการทำงานอย่างมาก
พระเจ้าจึงทำให้ฉันรู้จักตัวเองและรักในความเป็นตัวฉันมากขึ้น ทำให้รู้ว่าพระเจ้าตั้งใจสร้างแต่ละคนให้มีลักษณะนิสัย ของประทาน และความสามารถแตกต่างกันไป เพื่อจะได้ช่วยเหลือพึ่งพากันและกัน แม้ในความสามารถที่ดูอ่อนค่าที่สุดก็จะได้รับการตกแต่งและมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในครอบครัวพระคริสต์ที่เราต้องพึ่งพากัน และขาดของประทานหรือคุณสมบัติใดไปไม่ได้ เพราะเราอยู่ในพระกายเดียวกัน
“ด้วยพระวิญญาณทรงโปรดประทานให้คนหนึ่งมีถ้อยคำประกอบด้วยสติปัญญา และให้อีกคนหนึ่งมีถ้อยคำอันประกอบด้วยความรู้ แต่เป็นโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน และให้อีกคนหนึ่งมีความเชื่อ แต่เป็นโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน และให้อีกคนหนึ่งมีความสามารถรักษาคนป่วยได้ แต่เป็นโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน และให้อีกคนหนึ่งทำการอัศจรรย์ต่างๆ และให้อีกคนหนึ่งพยากรณ์ได้ และให้อีกคนหนึ่งรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ และให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาต่างๆ และให้อีกคนหนึ่งแปลภาษานั้นๆ ได้ สิ่งสารพัดเหล่านี้ พระวิญญาณองค์เดียวกันทรงบันดาลและประทานแก่แต่ละคนตามชอบพระทัยพระองค์” 1 โครินธ์ 12:8-11
“แต่บัดนี้พระเจ้าได้ทรงตั้งอวัยวะทุกส่วนไว้ในร่างกายตามชอบพระทัยของพระองค์ แต่ยิ่งกว่านี้อวัยวะของร่างกายที่เราเห็นว่าอ่อนแอ เราก็ขาดเสียไม่ได้ และอวัยวะของร่างกายที่เราถือว่ามีเกียรติน้อย เราก็ยังทำให้มีเกียรติยิ่งขึ้น และอวัยวะที่ไม่น่าดูนั้น เราก็ทำให้น่าดูยิ่งขึ้น เพราะว่าอวัยวะที่น่าดูแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตกแต่งอีก แต่พระเจ้าได้ทรงให้อวัยวะของร่างกายเสมอภาคกัน ทรงให้อวัยวะที่ต่ำต้อยเป็นที่นับถือมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการแก่งแย่งกันในร่างกาย แต่ให้อวัยวะทุกส่วนมีความห่วงใยซึ่งกันและกัน” 1 โครินธ์ 12:18, 22-25
อย่างไรก็ตาม มีบางสถานการณ์ที่ฉันต้องพูดต่อหน้าคนเยอะๆ ซึ่งมันค่อนข้างจะขัดกับธรรมชาติของฉัน แต่ถ้านั่นคือสิ่งที่พระเจ้าให้ฉันทำ พระเจ้าก็จะเสริมกำลังให้ฉันสามารถทำสิ่งนั้นได้ อย่างที่พระองค์เคยทำให้กับผู้รับใช้ของพระองค์ในอดีต
“แล้วข้าพเจ้าก็กราบทูลว่า “อนิจจา ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ดูเถิด ข้าพระองค์พูดไม่เป็น เพราะว่าข้าพระองค์เป็นเด็ก” แต่พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อย่าว่าเจ้าเป็นแต่เด็ก เพราะเจ้าจะต้องไปหาทุกคนที่เราใช้ให้เจ้าไป และเราบัญชาเจ้าอย่างไรบ้าง เจ้าจะต้องพูด อย่ากลัวหน้าเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า จะช่วยเจ้าให้พ้น” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ” เยเรมีย์ 1:6-8
“แต่โมเสสทูลพระยาห์เวห์ว่า “องค์เจ้านาย ข้าพระองค์ไม่ใช่นักพูด ทั้งในอดีต และตั้งแต่เมื่อพระองค์ตรัสกับผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์เป็นคนพูดไม่คล่อง” พระยาห์เวห์จึงตรัสกับโมเสสว่า “ใครเล่าสร้างปากมนุษย์หรือทำให้เป็นใบ้ หูหนวก ตาดี หรือตาบอด? เรา ยาห์เวห์ เป็นผู้ทำไม่ใช่หรือ? บัดนี้ ไปเถิด เราจะช่วยเจ้าให้พูด และจะสอนคำซึ่งควรจะพูด” อพยพ 4:10-12
ทุกวันนี้ฉันจึงขอบคุณพระเจ้า ที่นอกจากจะได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นตัวฉันที่ฉันเคยไม่ชอบจนทำให้ฉันยอมรับและเห็นคุณค่ามันแล้ว พระเจ้ายังเสริมกำลังให้ฉันสามารถทำในสิ่งที่ฉันไม่ถนัดเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยเช่นกัน ทำให้ฉันตระหนักได้ว่า หากมีพระเจ้า ก็ทำได้ทุกสิ่ง เพื่อให้ฉันเป็นคนที่ดีรอบคอบและครบบริบูรณ์ในพระองค์
“พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในเรื่องความชอบธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะดีรอบคอบ พรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” 2 ทิโมธี 3:16-17
“และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน เพื่อท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด เพื่อท่านจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนไม่มีที่ติได้ในวันแห่งพระคริสต์ และเป็นคนที่เต็มบริบูรณ์ด้วยผลของความชอบธรรมซึ่งเกิดขึ้นโดยทางพระเยซูคริสต์ เพื่อถวายพระเกียรติและการยกย่องแด่พระเจ้า” ฟีลิปปี 1:9-11
YOU MAY ALSO LIKE
กังวลจนไม่หลับไม่นอน
WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...
ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ
WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...
พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)