02/10/2019

FIVE WAYS TO DO
CHRIST-CENTERED
FRIENDSHIP (5 วิธีสร้างมิตรภาพแบบมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง)

เราถูกสร้างมาเพื่อมิตรภาพ เพื่อนแท้จะอยู่กับเราในความยากลำบากของเรา อธิษฐานทูลขอเพื่อเรา ในยามที่เราไม่มีกำลังที่จะอธิษฐานให้ตัวเอง และค่อยๆ ชี้นำเราไปในทางที่ถูก เมื่อเราหลงออกไปไกลจากเส้นทาง การสร้างมิตรภาพอย่างตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรภาพที่จำลองจากพระคริสต์นั้น ต้องเสียสละ ลงทุนเวลา และบางครั้งก็ดูเหมือนจะไม่สะดวกสบายเท่าไร แม้จะต้องเสียอะไรหลายอย่าง แต่ก็คุ้มค่าที่จะหว่านลงในมิตรภาพที่จะคงอยู่ต่อไป มิตรภาพของคุณลึกซึ้งแค่ไหน? มาลองดูสิ่งที่จะสร้างมิตรภาพแบบมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางกัน

ถามไถ่ถึงสุขภาพชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของกันและกัน

ไปให้ไกลมากกว่าคำถามทั่วไปว่า “สบายดีมั้ย?” และใช้เวลาถามเพื่อนของคุณด้วยคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปของชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของพวกเขา

ให้เราลองเริ่มต้นบทสนทาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับเพื่อนเรา เราสามารถไปไกลได้มากกว่าแค่คำถามทั่วไปว่า “สบายดีมั้ย?” แต่ให้ถามแทนด้วยคำถามว่า ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ หรือช่วงเวลาส่วนตัวกับพระเจ้าเป็นยังไงบ้าง คำถามที่จริงใจมักจะสร้างสัมพันธ์ที่ลึกยิ่งขึ้น เมื่อเราให้กำลังใจกันและกันในชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ พระคัมภีร์บอกไว้ว่า อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย(ฟิลิปปี 2:4) และบทสนทนาแบบนี้ก็ช่วยให้ทำเป็นเช่นนั้น

ช่วยเหลือกันและกันในทางปฏิบัติ

การกระทำเสียงดังกว่าคำพูด ไม่มีอะไรบอกว่าเราห่วงใยได้มากกว่าการยื่นมือเข้าไปช่วย และร่วมลำบากไปกับเพื่อนของเรา

เป็นเพื่อนที่เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือในทางปฏิบัติ บ่อยครั้งก็เป็นอะไรที่ง่าย ที่จะส่งข้อความหาเพื่อนๆ ที่ป่วยของเราว่า “หายไวๆ นะ พักผ่อนเยอะๆ” แต่มันจะน่ารักกว่ามั้ย ถ้าเราไปเยี่ยมพวกเขาพร้อมอาหารตลอดทั้งสัปดาห์ จากตารางเวลาที่ยุ่งของเรา มันไม่ง่ายนักที่จะหาเวลาว่างซักชั่วโมง สองชั่วโมงเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วย หรือเสียสละเวลาช่วงสุดสัปดาห์ไปช่วยเพื่อนย้ายบ้าน เพราะการกระทำเสียงดังกว่าคำพูด และไม่มีอะไรบอกว่าเราห่วงใยได้มากกว่าการยื่นมือเข้าไปช่วย และร่วมลำบากไปกับเพื่อนของเรา พระคัมภีร์บอกว่า สองคนดีกว่าคนเดียว ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น(ปัญญาจารย์ 4:9-10)

ให้และรับความจริงด้วยความรัก แม้มันจะอึดอัดมากก็ตาม

ให้เรารับและให้คำแนะนำ แม้มันอาจจะอึดอัด แต่เพื่อนแท้จะคอยใส่ใจกันและกันอยู่เสมอ

เรามักจะได้รับคำหนุนใจอยู่เสมอว่า ไม่ว่าเราเลือกที่จะทำอะไร “ให้ทำตามหัวใจของตัวเอง” แต่มันจะเกิดอะไรขึ้น หากเส้นทางที่เราเลือกนำเราหรือเพื่อนของเราไปในทางที่อันตราย? ในเวลาแบบนี้ เรากล้าพอมั้ยที่จะนำเพื่อนของเราให้กลับมาสู่ทางที่ถูกต้องด้วยคำสอนของพระเยซู? ในทางเดียวกัน ตัวเราเองพร้อมมั้ยที่จะเปิดรับคำแนะนำจากเพื่อนที่เป็นห่วงความสวัสดิภาพของเรา แม้มันอาจจะอึดอัดก็ตาม พระคัมภีร์บอกว่า บาดแผลที่มิตรทำก็สุจริต แต่การจูบของศัตรูนั้นมากเกินความจริง(สุภาษิต 27:6) ให้เรารับและให้คำแนะนำ แม้มันอาจจะอึดอัด แต่เพื่อนแท้จะคอยใส่ใจกันและกันอยู่เสมอ

เปิดเผยความอ่อนแอของชีวิตเรา

ให้เราลงมือลงแรงที่จะปลูกความสัมพันธ์แบบนี้ขึ้น ความสัมพันธ์ที่เราสามารถมาพร้อมกับข้อบกพร่องของเรา

มิตรภาพเรียกร้องความซื่อสัตย์ แต่บ่อยครั้งที่เราพบวิธีจัดการปัญหาที่ทำให้เราหนักใจ และมันก็ง่ายกว่าด้วยที่จะทำเป็นเหมือนว่าทุกอย่างนั้นไปด้วยดี ทั้งที่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย บางทีความกลัวจากการถูกมองว่า “ด้อยกว่า” กดดันให้เรายั้งใจที่จะไม่บอกความจริงทั้งหมดต่อหน้าเพื่อนของเรา หรือบางทีเรากลัวว่าเรื่องราวของเราจะถูกเล่าต่อไปถึงคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม มิตรภาพที่จริง ซื่อสัตย์ และเปิดเผยจะช่วยให้เราแบ่งปันความอ่อนแอของเราได้อย่างไร้กังวล ให้เราลงมือลงแรงที่จะปลูกความสัมพันธ์แบบนี้ขึ้น ความสัมพันธ์ที่เราสามารถมาพร้อมกับข้อบกพร่องของเรา รับผิดชอบซึ่งกันและกัน และนึกถึงกันและกันในคำอธิษฐาน(ยากอบ 5:16)

หมั่นคอยอธิษฐานเผื่อกันและกัน

บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่า ไม่รู้จะตอบสนองต่อสถานการณ์ของเพื่อนอย่างไรดี เราอาจไม่เคยผ่านเหตุการณ์เดียวกับพวกเขา หรือเราไม่อยากจะพูดอะไรผิดๆ ที่จะทำร้ายพวกเขาไปมากกว่านี้ คำพูดอาจจะทำให้เราผิดหวัง แต่เราสามารถอธิษฐานอยู่เคียงข้างเพื่อนของเราที่อาจจะหมดในการอธิษฐานด้วยตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ว เรารู้ว่าไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาของกันและกันได้ แต่ในคำอธิษฐาน เราสามารถขอบพระคุณที่เรามีพระเจ้าผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งได้มากยิ่งกว่าที่เราทูลขอหรือคิด(เอเฟซัส 3:20)

YOU MAY ALSO LIKE