fbpx
WRITER: แอคเนส ลี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Natty Grace
EDITOR: Mustard Seed Team

ฉันตัวเตี้ย ล่ำ และหน้าตาปานกลาง เมื่อตอนที่ฉันอยู่ในวัยกำลังโตนั้น ฉันได้ยินผู้คนคอยติเรื่องจมูกที่แบนของฉัน เพื่อนคนหนึ่งบอกฉันด้วยซ้ำว่า จมูกของฉันดูเหมือนถูกตีด้วยอะไรสักอย่าง

ฉันรู้จักกับตุ๊กตาบาร์บี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พวกมันช่างสวย สูง และผอม เหมือนนักแสดงนำหญิงในละครโทรทัศน์ที่ฉันชื่นชอบก็มีลักษณะแบบนั้น และฉันก็หวังว่าฉันจะเหมือนพวกเขา ถึงแม้ฉันจะรู้ว่ามันสำคัญที่เราจะดูสุขภาพดีมากกว่าดูสวยหรือน่ารัก มันยากที่จะยอมรับว่าพระเจ้าทรงให้ฉันมีรูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาเมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวฉัน

เมื่อฉันอายุได้ประมาณ 18 ปี ฉันตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของฉัน แทนที่จะใส่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ตามปกติ ฉันเริ่มแต่งตัวตามแฟชั่นมากขึ้น สวมเครื่องประดับ หมวก และแจ็คเก็ต ฉันเริ่มแต่งหน้าทุกครั้งที่ฉันออกไปข้างนอก อย่างไรก็ตาม การแต่งหน้าสามารถทำได้แค่ปกปิดข้อบกพร่องของฉัน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมัน ฉันแก้ไขความสูงไม่ได้และถึงแม้ฉันจะออกกำลังกายจนเหงื่อไหลไคลย้อย ฉันก็ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างของฉันได้เช่นกัน ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือส่วนเว้าส่วนโค้งอีกนิด ฉันต้องการที่จะสวยและเป็นที่นิยมเหมือนนางแบบและนักแสดงที่ฉันชื่นชม

ในช่วง 20 ต้นๆ ฉันได้ปรึกษากับแพทย์ด้านความงาม เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนที่เป็นไปได้เพื่อปรับปรุงใบหน้าของฉัน แต่หลังจากย้ำคิดพิจารณาความเสี่ยงและข้อกำหนดในการฉีดโบท็อกซ์ ฉันก็ล้มเลิกความคิดนั้น นอกเหนือจากการเปลี่ยนหน้าตาของฉัน ฉันยังต้องการที่จะเปลี่ยนรูปร่างของฉันด้วย แต่แพทย์ก็ไม่สามารถแนะนำขั้นตอนใดๆ ที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจได้ วิธีการเพิ่มความสูงนั้นมีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจากจะต้องผ่าตัดขา และผลลัพธ์ก็ไม่ได้การันตีว่าจะสำเร็จ หลังจากพิจารณาถึงความเสี่ยงเหล่านั้น ค่าใช้จ่าย และผลลัพธ์ที่ไม่รับประกันแล้ว ฉันล้มเลิกความคิดที่จะทำศัลยกรรมความงามออกไป

ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะดูน่าดึงดูดขึ้นบ้าง ที่จริงฉันแอบหวังว่าฉันจะมีแฟน ผู้หญิงน่ารักๆ หลายคนในโรงเรียนมีแฟน และฉันคิดไปเองว่าฉันไม่มีแฟนเพราะฉันดูไม่ดี นอกจากนั้นฉันยังขี้อาย และคิดว่าผู้หญิงที่สวยเหล่านั้นมีความมั่นใจ เป็นกันเอง และเป็นที่รู้จักเพราะรูปลักษณ์ของพวกเธอ ฉันอิจฉาพวกเธอ ฉันเกลียดพระเจ้าและรู้สึกว่าพระองค์ไม่ยุติธรรม พระองค์ทำให้ผู้หญิงหลายคนสวยแต่ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ชอบเพื่อนที่ดูน่ารักเหล่านั้น ฉันไม่ชอบอยู่ในกลุ่มกับพวกเธอ เพราะการอยู่ใกล้พวกเธอมักยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดและอึดอัด ดังนั้นฉันตั้งใจที่จะไม่สนใจและไม่แคร์ความรู้สึกของพวกเธอ

ฉันไม่สามารถเข้าใจพระคำสดุดี 139:14 ซึ่งบอกกับพวกเราทุกคนว่า “เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างอัศจรรย์น่าครั่นคร้าม” พระคำข้อนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวฉันเลย ฉันหัวเสียและบอกกับพระเจ้าว่า “พระองค์ต้องกำลังล้อฉันเล่นแน่ๆ ถ้าพระองค์ทรงสร้างฉันอย่างมหัศจรรย์และเอาใจใส่จริงๆ ฉันก็คงจะเป็นหญิงสาวที่สวยน่ารัก”

ฉันยังคงรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับตนเองจนกระทั่งวันหนึ่งฉันเปิดไปอ่านสุภาษิต 31:30 ในช่วงเฝ้าเดี่ยวและตระหนักว่าพระเจ้าทรงตรัสกับฉันว่า “เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ” และอีกพระคำที่ตรงใจฉันคือ 1 เปโตร 3:3 กล่าวว่า “อย่าประดับตัวแต่ภายนอก ด้วยการถักผม การสวมใส่เครื่องทอง หรือการนุ่งห่มเสื้อผ้า”

พระเจ้าไม่ได้มองหาคนที่มีเสน่ห์หรือสวยงาม แต่มองหาคนที่ยำเกรงพระองค์ พระองค์ไม่ได้มองแค่ความงามภายนอกของเราแต่ทรงมองที่หัวใจ ข้อพระคำเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกตัวว่าตนเองจดจ่อความงามแบบผิวเผินเพียงใด โดยมุ่งเน้นไปที่ความสวยงามชั่วคราวแทนที่จะมุ่งไปที่พระเจ้า พระเจ้าไม่เคยตำหนิฉันเลย ฉันเองที่ตำหนิและไม่พอใจในตัวเอง เพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียด แท้จริงแล้ว พระเจ้าทรงชื่นชมหญิงสาวที่ยำเกรงพระองค์ ดังนั้นหากฉันต้องการได้รับคำชมเชยจากพระองค์ ฉันต้องยำเกรงพระองค์ ให้เกียรติพระองค์ และให้พระองค์นำหน้าชีวิตของฉัน

ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าถึงให้ผู้หญิงบางคนสวยและบางคนไม่สวย ฉันรู้ว่าเรารอดปลอดภัยเมื่อเราวิ่งเข้าหาพระองค์ด้วยความรู้สึกของเรา พระวจนะของพระองค์จะส่งความจริงเพื่อสนองความว่างเปล่าในตัวเรา พระคัมภีร์ตรัสสอนไว้ในอิสยาห์ 55:9 ว่าวิถีของพระเจ้านั้นสูงกว่าทางของฉัน และความคิดของพระองค์ก็สูงกว่าความคิดของฉัน แน่นอนว่าฉันสามารถวางใจในพระเจ้าได้ว่าพระองค์ทรงทำให้ฉันสมบูรณ์แบบในวิถีทางของพระองค์ ตามที่ในสดุดี 139:14 พระองค์ทรงทำให้เราแต่ละคนมีลักษณะตรงตามที่พระองค์ทรงประสงค์ เพื่อที่จะเติมเต็มเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราให้ตรงตามการทรงเรียกและวัตถุประสงค์ให้บรรลุผลสูงสุด

เมื่อฉันเริ่มมีความรู้ในพระวจนะคำของพระเจ้า ฉันก็รู้สึกได้ว่า ฉันถูกเรียกให้รับใช้ในการเขียน ฉันรู้สึกถึงความจริงของพระองค์ในทุกด้านของชีวิตและที่พระองค์ทรงตรัสกับฉัน นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกถึงความสดใหม่ในชีวิต เมื่อได้อ่านงานเขียนของเพื่อนคริสเตียนที่แบ่งปันความคิดเกี่ยวกับวิธีการทำงานของพระเจ้าในชีวิตของพวกเขา ถ้อยคำและประสบการณ์เหล่านั้นหนุนใจฉัน และฉันรู้สึกว่าฉันมีภาระใจแบบนั้นเช่นกัน ที่จะแบ่งปันประสบการณ์และความคิดความรู้สึกของฉันกับคนอื่นๆ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับการหนุนใจในยามที่ต้องการ การเขียนฉันไม่จำเป็นต้องสวยจากภายนอก สิ่งที่ฉันต้องการคือหัวใจที่บริสุทธิ์ที่ปรารถนาพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด และให้พระองค์เป็นความปรารถนาเดียวของฉัน

มองย้อนกลับไป ถ้าหากฉันสวย ฉันอาจจะเติมเต็มความฝันวัยเด็กในการเป็นนางแบบได้ ซึ่งธรรมชาติของงานนั้นคงไม่อนุญาตให้ฉันแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย และฉันคงภาคภูมิใจในร่างกายของฉันมากจนเกินความพอดี ฉันคงไม่ให้เกียรติร่างกายของตัวเองหรือจดจำได้ว่านี่คือพระวิหารที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ (1 โครินธ์ 6:19) พระเจ้าทรงสร้างฉันในแบบที่ฉันเป็น เพื่อโฟกัสไปที่พระองค์ และถ่อมใจยอมจำนนต่อการทรงเรียกของฉันในพระองค์

ตอนนี้ ฉันยังคงอยู่ในการทดลองเรื่องความงามภายนอกทุกครั้งที่เห็นคนที่สวยน่ารัก ฉันมักเตือนตัวเองว่า คำจำกัดความของความงามของโลกไม่ใช่คำจำกัดความของความงามในแบบฉบับพระผู้เป็นเจ้า ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าฉันไม่จำเป็นต้องสวยเพื่อจะมีความมั่นใจ เพราะความมั่นใจของฉันอยู่ที่พระเจ้า ผู้ที่จะชื่นชมยินดีในผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และพระองค์ทรงตรัสกับพวกเราในการทรงเรียกนั้น ตอนนี้ฉันมั่นใจได้ในสดุดี 139:14 ว่าฉันถูกสร้างอย่างสมบูรณ์แบบ พระองค์ทรงประทานความมั่นใจให้กับฉันว่า ฉันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ และตัวตนของฉันอยู่ในพระองค์

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This