fbpx
WRITER: แมวส้มใส่แว่น
EDITOR: MUSTARD SEED TEAM

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแข่งขันมากมาย ทำให้เราต้องดิ้นรนและทำงานอย่างหนัก ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานสามารถนำไปสู่อาการ “เบิร์นเอาท์” ได้ ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้กระทั่งผู้รับใช้หรืออาสาสมัครก็สามารถ ประสบกับสภาวะนี้ ได้เช่นกัน

ฉันเองเคยเกือบจะเลิกทำงานรับใช้พระเจ้าไปตลอดชีวิต เนื่องจากความรู้สึกหมดไฟ ที่ค่อยๆ แอบกัดกินหัวใจและจิตวิญญาณของฉัน ผ่านการทำงานรับใช้ งานประจำ และช่วงเวลาที่ต้องเรียนควบคู่กันไปด้วย การแบกรับหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกัน เกินขีดจำกัด ทำให้รู้สึก เหนื่อยหน่ายอย่างรุนแรง

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันหลงลืมไปคือ ในปฐมกาล 1-2 ตอนที่พระเจ้าทรงสร้างโลก พระองค์ยังทรงหยุดพักในวันที่ 7 แล้วทำไมมนุษย์อย่างเราจึงละเลยการหยุดพักได้ลงคอ? เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะทรุดโทรมทั้งใจและกาย อยากชวนทุกคนมาสังเกต “อาการของหัวใจ” กัน และเริ่มต้นหา “เวลาหยุดพักในพระเจ้า” ไปด้วยกันเถอะ

แล้วเราจะรับมือและฟื้นฟูหัวใจอย่างไร? ขอแนะนำ 3 วิธีที่จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลากับพระเจ้า เยียวยาหัวใจ และกลับมา “หายใจได้เต็มปอด” อีกครั้ง

1. หาเวลาและกิจกรรมที่ช่วยให้เราคลายความตึงเครียดได้จริงๆ

ลองเลือกกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายอย่างแท้จริง เช่น ไปเดินเล่นในสวน ออกกำลังกายเบาๆ พูดคุยลึกซึ้งกับเพื่อนในกลุ่มคริสเตียน ไปคริสตจักรในวันที่ไม่ได้มีหน้าที่รับใช้ และตั้งใจนมัสการผ่านบทเพลง หรืออาจลองวาดภาพ ทำงานฝีมือ งดเล่นโซเชียลมีเดีย ฯลฯ
แต่ละคนอาจมีวิธี ฟื้นฟูตัวเอง แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ “การใช้เวลากับพระเจ้า” อย่าลืมเชื่อมต่อกับพระองค์แม้ในกิจกรรมที่ดูเรียบง่ายที่สุด

2. ใช้เวลาเงียบๆ กับพระเจ้า

สำหรับฉัน การใช้เวลากับพระเจ้า อาจเกิดขึ้นในช่วงเช้า ระหว่างเดินทาง หรือก่อนนอน เป็นเวลาที่ได้เทใจเล่าทุกเรื่องกับพระองค์ผ่านการอธิษฐาน 1 เธสะโลนิกา 5:17 กล่าวว่า “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ” ไม่ว่าเราจะรู้สึกดีหรือแย่ อยากให้คุณลองเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับพระองค์เสมอ แม้เพียงสั้นๆ พระเจ้าก็ฟังเราอยู่เสมอ

3. อยู่รวมกับชุมชนของพระเจ้า

พระเจ้าไม่ได้สร้างให้เราดำเนินชีวิตเพียงลำพัง ปัญญาจารย์ 4:9-10 กล่าวว่า “สองคนดีกว่าคนเดียว… เพราะถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนจะได้พยุงเพื่อนให้ลุกขึ้น”

หาใครสักคนที่คุณไว้ใจ พูดคุย เปิดใจ และอธิษฐานร่วมกัน สำหรับฉัน นี่เป็นหนึ่งในทางที่ช่วยฉันได้มาก เพราะหลายครั้งฉันเองก็ หมดแรงจนไม่รู้จะพูดกับพระเจ้าอย่างไร การที่มีคนร่วมแบกภาระและอธิษฐานแทนเราได้ เป็นพระพรอย่างยิ่ง

และถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวจริงๆ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น นักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเรียบเรียงความคิด หรือรับมือกับอาการที่กำลังเผชิญได้

สิ่งสำคัญคือ…พระเจ้าไม่ได้เรียกเราให้ ทำงานหนักจนละเลยตัวเอง แต่พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เราหยุดพักในพระองค์เสมอ หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณค่อยๆ ผ่านช่วงเวลาของ “เบิร์นเอาท์” และกลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมได้อีกครั้ง

YOU MAY ALSO LIKE

3 สัญญาณที่บอกว่าคุณหมดไฟในการรับใช้

3 สัญญาณที่บอกว่าคุณหมดไฟในการรับใช้

WRITER: ซาราห์ โซ๊ะ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: นารดา ไทรงาม EDITOR: สวิตตา เจริญศรีศิลป์ 29 กันยายน 2010 เป็นวันที่ฉันตระหนักว่าตัวเองหมดไฟ ในฐานะคริสเตียนวัยรุ่น เป็นนักศึกษาปริญญาตรี ฉันคิดว่าตัวเองจะมีภูมิคุ้มกันจากการหมดไฟ ที่ผ่านมาฉันไม่ได้ทำทุกอย่าง...

ทำไมการรอคอยพระเจ้าถึงเป็นเรื่องยาก

ทำไมการรอคอยพระเจ้าถึงเป็นเรื่องยาก

WRITER: ลินห์ วิงน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR:  นุชจรี ปันคำ EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร “ฉันต้องรอนานแค่ไหน?” ฉันถามคำถามนี้กับตัวเองทุกวัน เมื่อไม่นานนี้ฉันจำเป็นต้องหยุดการทำงานที่อเมริกา เนื่องจากความล่าช้าของเอกสารตรวจคนเข้าเมือง...

หันหลังให้กับการเป็นไบเซ็กชวล

หันหลังให้กับการเป็นไบเซ็กชวล

WRITER: เอช วาย ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ณัฐนันท์ จันทรศิริ EDITOR: Mustard Seed Team ครั้งแรกที่ฉันรู้สึกชอบใครบางคนตอนนั้นฉันอายุแค่ 14 ปี ฉันจำได้ว่าเธออายุมากกว่าฉันไม่กี่ปี เธอไม่ได้น่ารักเป็นพิเศษแต่เธอผิวแทน และมีลักยิ้มที่น่ารักมากเวลาที่เธอยิ้ม...

Share This