น้ำพระทัยพระเจ้าในชีวิตฉัน

WRITER: พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง
EDITOR: Mustard Seed Team

ฉันเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ตอนนั้นมีโควต้าจากมหาวิทยลัยชื่อดังเข้ามาเสนอให้ทุนการศึกษา ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีเอกสารตามที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการและทำข้อสอบให้ผ่านตามมาตรฐานของนักเรียนทุน มันน่าสนใจมากและคุณสมบัติของฉันก็ดูมีลุ้น ฉันรู้สึกว่าที่นี่แหละเหมาะกับฉันมาก ฉันเลยตัดสินใจอธิษฐานและบอกกับพระเจ้าว่าฉันอยากจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้

ต่อมา ฉันได้จัดเตรียมเอกสารในส่วนของฉันสำหรับยื่นขอทุนเรียบร้อย เหลือเพียงแค่เอกสารของคุณแม่ซึ่งจะต้องใช้ประกอบกัน ระหว่างจัดเตรียมเอกสารฉันก็อธิษฐานวิงวอนกับพระเจ้ามาโดยตลอด ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการยื่นขอทุนและเอกสารก็ยังขาดอยู่ ผ่านไปแล้ว 5 วันเอกสารที่ขอไว้ก็ยังไม่ได้รับ เพื่อนๆ ก็ยื่นสมัครทุนไปหมดแล้วเหลือฉันเพียงคนเดียว ฉันเริ่มกระวนกระวาย ต่อว่าคุณแม่ อีกทั้งยังตัดพ้อพระเจ้าอีกด้วย ตอนนั้นฉันอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างสุดใจว่าขอให้ฉันได้เอกสารจากคุณแม่ได้ทันเวลา แต่พอไปถึงที่บริษัทของคุณแม่เพื่อรับเอกสาร พี่พนักงานกลับบอกว่าวันนี้เครื่องถ่ายเอกสารเสียไม่สามารถให้เอกสารได้ ฉันรู้สึกผิดหวังและเสียใจมาก

ในขณะที่ฉันร้องไห้เสียใจที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ต้องการและล่าช้านั้น ฉันเลือกที่จะเปิดพระคัมภีร์และพระเจ้าตรัสกับฉันผ่านข้อพระคำสดุดี 94:19 “เมื่อความกังวลมีมากในใจข้าพระองค์ การปลอบโยนของพระองค์ก็ทำให้จิตใจข้าพระองค์ปีติยินดี”

ฉันอ่านพระคำข้อนี้ทั้งน้ำตา พระเจ้าจะนำการปลอบโยนและรื้อฟื้นภายในใจขึ้นใหม่ ฉันได้รับการหนุนใจและการเสริมกำลังจากพระเจ้าผ่านข้อพระคำนี้ พอเวลาผ่านไปสักพักหนึ่งพี่พนักงานคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่าเอกสารเรียบร้อยแล้ว ช่างเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจเสียเหลือเกินที่อยู่ๆ เครื่องที่เสียก็กลับมาใช้งานได้ปกติ ฉันรู้สึกดีใจและขอบคุณพระเจ้ามากๆ ฉันจึงรีบนำเอกสารไปยื่นให้เสร็จเรียบร้อย

ถึงแม้จะยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว แต่ขั้นตอนการขอทุนการศึกษาก็ไม่ได้ง่ายนัก ฉันยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ และแล้ววันประกาศผลสอบก็มาถึง ปรากฏว่าฉันทำคะแนนได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ฉันก็เข้าใจเพราะฉันอ่านหนังสือมาไม่มากพอ ฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่กลับรู้สึกกระวนกระวายใจและเกิดคำถามในใจว่า ถ้าได้คะแนนน้อยแบบนี้แล้วพระเจ้าจะยังปรารถนาให้ฉันเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ไหม? ฉันเริ่มสงสัยและไม่เชื่อในแผนการของพระเจ้า ฉันเลยตัดสินใจเลือกดูมหาวิทยลัยอื่นๆ เผื่อไว้เป็นตัวเลือก แทนที่ฉันจะถามพระเจ้าว่านี่ใช่น้ำพระทัยของพระองค์สำหรับฉันไหม แต่กลับเลือกที่จะพึ่งพาสติปัญญาของตัวเอง

ฉันไม่ติดมหาวิทยาลัยที่หวังเอาไว้ ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้ระบายความในใจ ในขณะที่พี่น้องคริสเตียนคอยปลอบใจและหนุนใจฉันว่าพระเจ้าทำให้ทุกอย่างมันจบด้วยดี พวกเขายังคอยแนะนำให้ฉันอธิษฐานทูลขอพระเจ้าว่ามหาวิทยาลัยอะไรและคณะไหนที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้ฉันเรียน อันไหนเป็นน้ำพระทัยของพระองค์ที่แท้จริง

ฉันกลับใจใหม่ หลับตาลงอธิษฐานทูลขอและแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างจริงจัง พอฉันอธิษฐานเสร็จ พี่สาวของฉันก็โทรมาหาและเราได้คุยกันเรื่องการเรียนต่อของฉัน พี่สาวได้ให้คำแนะนำต่างๆ และหนุนใจให้ฉันลองยื่นสมัครอีกหลายที่ แต่มีที่หนึ่งและคณะหนึ่งที่พี่สาวของฉันเชียร์เป็นพิเศษ ฉันก็ลองยื่นสมัครไปตามคำแนะนำของพี่สาว ลึกๆ แล้วฉันยังไม่พอใจกับมหาวิทยาลัยและคณะที่ยื่นไปตามคำแนะนำของพี่สาว และถึงแม้ว่าพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณของฉันจะคอยหนุนใจฉันด้วยข้อพระคำ แต่ฉันก็ยังคงจมอยู่กับความรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี ฉันใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าที่จะทำใจได้ จนวันหนึ่ง ฉันได้เจอกับคุณลุงท่านหนึ่ง เราได้มีโอกาสพูดคุยกัน คุณลุงเล่าให้ฉันฟังว่าแต่ก่อนเขาไม่เคยพึ่งพาพระเจ้า คิดว่าตัวเองเก่งและดี จนทุกอย่างมันล้มไม่เป็นท่า แต่ในทางกลับกันลูกสาวของเขาไม่ได้เป็นคนเก่งมาก แต่ไม่เคยพึ่งพาตัวเอง เชื่อและวางใจในพระเจ้าตลอดจนพระเจ้านำให้ได้ในสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระองค์ ซึ่งสิ่งที่คุณลุงเล่านั้นเตือนสติฉันในเวลานี้มากๆ

ฉันมอบความกังวลต่างๆ และอนาคตของฉันให้พระเจ้าทรงนำและตั้งแต่นั้นมาความคิดของฉันก็เปลี่ยนไป พอถึงวันประกาศผลฉันได้มหาวิทยาลัยและคณะตามที่พี่สาวของฉันแนะนำ มันเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่แท้จริง เป็นแผนการที่พระเจ้ามีให้ฉันตั้งแต่ต้น เพื่อทำให้ฉันเติบโตในการไว้วางใจพระเจ้า ได้รู้จักพระองค์มากขึ้นผ่านเหตุการณ์ต่างๆ

ตั้งแต่นั้นมาฉันไม่กระวนกระวายใจอีกเลย ฉันเลือกที่จะพึ่งพาสติปัญญาของพระองค์และไว้วางใจให้พระองค์มาเป็นที่หนึ่งในเวลาที่ฉันคิดหรือจะตัดสินใจอะไร สุดท้ายนี้พระธรรมเยเรมีย์ 29:11 “พระยาห์เวห์ตรัสว่าเพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับพวกเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า เพื่อจะให้อนาคตและความหวังแก่เจ้า” ฉันเชื่อว่าพระเจ้าจัดเตรียมแผนการที่ดีไว้ให้เราแล้ว ขอแค่เราเชื่อและวางใจให้พระองค์มาเป็นที่หนึ่งในทุกสถานการณ์ 

ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่เข้าใจในแผนการของพระเจ้าในตอนนี้ แต่วันหนึ่งเราจะเข้าใจและเราจะขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตเรา

อธิษฐานให้พระเจ้าทรงนำในทางที่ฉันควรจะไป ในชีวิตประจำวันนั้นฉันได้พบสันติสุขโดยการตื่นเช้ามาขอบพระคุณ สรรเสริญพระองค์ ทูลขอการทรงนำจากพระเจ้าในทุกๆ อย่างขอให้เราเชื่อแผนการที่ดีที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้ (ฮีบรู 11:1) วางใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราเลือกที่จะวางใจพระองค์ (สุภาษิต 3:5)

YOU MAY ALSO LIKE