
Artwork by : Mustard Seed Team
Written by : Mustard Seed Team
ธรรมชาติของมนุษย์มักจะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง คิดวนอยู่กับเรื่องราวที่เจอ สิ่งที่เราเป็นและยิ่งถ้าเจอปัญหาหรือเรื่องยากในชีวิต ก้มมองแต่ตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งจมอยู่กับตัวเอง แต่ถ้าเราลองเงยหน้าขึ้น มองออกไปรอบด้าน เราจะมีมุมมองที่กว้างขึ้น เห็นเรื่องราวต่างๆ ทั้งที่มีความสุขและความทุกข์แตกต่างกันไป อาจเห็นคนที่ดูเหมือนไม่มีเงินทองอะไรแต่ยังคงยิ้มได้ อาจจะเห็นคนที่ยอมทำเพื่อคนอื่นแล้วตัวเองกลับมีความสุข
บางครั้งความสุขมาจากการแบ่งปันและทำให้ผู้อื่นมีความสุข ไม่ใช่เพียงแค่การรับสิ่งดีๆ มาเพื่อตัวเองเท่านั้น การให้ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ หรือเงินทองเสมอไป อาจจะเป็นการให้เวลา ความสนใจ หรือคำแนะนำที่ดี การให้การช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ซึ่งสามารถทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับรู้สึกถึงความรักและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
การให้แล้วมีความสุขกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนต่อมใต้สมอง เช่น ออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งมักถูกเรียกว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก” หรือ “ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน” การให้ทำให้เรารู้สึกมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ได้รับความรู้สึกของการมีคุณค่าและการทำสิ่งที่ดี การที่เรารู้สึกว่าเรามีผลกระทบในทางบวกต่อคนอื่นทำให้เรามีความภาคภูมิใจในตัวเอง ซึ่งสามารถส่งผลให้เราเกิดความสุขและความพึงพอใจได้ แม้ว่าการให้ไม่คาดหวังการตอบแทน แต่บางครั้งการให้ก็อาจทำให้เราได้รับการตอบแทนในทางอื่น เช่น ได้รับคำขอบคุณหรือเห็นรอยยิ้มจากผู้รับ ซึ่งสามารถกระตุ้นความสุขในใจของเราได้
ในกิจการ 20:35 ข้าพเจ้าวางแบบอย่างให้ท่านแล้วในทุกเรื่อง เพื่อให้เห็นว่าโดยการตรากตรำงานแบบเดียวกันนี้ เราต้องช่วยพวกที่มีกำลังน้อย และระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ตามที่พระองค์ตรัสว่า ‘การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ’
การให้ไม่เพียงแค่เป็นการกระทำที่ช่วยเหลือผู้คน แต่มันยังสะท้อนถึงพระลักษณะของพระเจ้าและคำสอนของพระเยซูด้วย พระเยซูเป็นตัวอย่างของการให้และการเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด โดยการให้ชีวิตของพระองค์เองเพื่อช่วยมนุษย์จากบาป ซึ่งเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
จริงๆ แล้วการให้เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีความสุขได้ โดยเฉพาะการให้จากใจที่บริสุทธิ์ มักทำให้เราได้รับความสุขจากการเห็นผู้รับได้รับประโยชน์หรือความสุขจากสิ่งที่เราให้ การให้จากใจจริง ไม่หวังผลตอบแทนและทำด้วยความรักจริงๆ ช่วยให้เราพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นและกับพระเจ้า การให้ ไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่ การให้ความช่วยเหลือ ความห่วงใยคนอื่น เป็นการสำแดงความรักของพระเจ้าผ่านสิ่งที่เรารับใช้ผู้อื่น ซึ่งก็ถือว่าเป็นการรับใช้พระเจ้าด้วย
ชวนให้เพื่อนๆ มาเป็นท่อส่งต่อพระพรกัน ให้เราลองเริ่มใส่ใจคนอื่นให้มากกว่าตัวเอง มองข้ามความต้องการของตัวเองไปบ้าง แล้วดูว่าคนอื่นต้องการอะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเราหรือไม่ ลองก้าวออกไปช่วยเหลือและแบ่งปันให้กับคนอื่นบ้าง ทำให้คนอื่นมีความสุข ก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจและมีความสุขตามไปด้วย เราจะได้เห็นว่า รอบๆ ตัวเรานั้นมีเรื่องดีและมุมสวยงามอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...