fbpx
WRITER: คาเลบ ดาเนียล ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร

การเติบโตในคริสตจักรทำให้ผมมักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่าพระเยซูคือ “เพื่อนของเราตลอดไป” อยู่บ่อยๆ ในชั้นเรียนพระคัมภีร์ พระเยซูจะถูกนำเสนอว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะหาได้ ผมได้ยินซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าพระองค์ทรงรักผมมากเพียงใด พระองค์ทรงสละพระชนม์เพื่อผม และนั้นทำให้ผมควรจะแบ่งปันความรักนี้ไปให้คนอื่นๆ “พระบิดาทรงรักเราอย่างไร เราก็รักพวกท่านอย่างนั้น จงติดสนิทอยู่กับความรักของเรา” (ยอห์น 15:9) ผมมั่นใจว่าพวกคุณหลายๆ คนก็คงเคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกันกับผม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปเราหลายคนมักจะหลงลืมหัวใจของพระเจ้าในด้านนี้

ผมลืมสิ่งนี้ไปจนกระทั่งผมเรียนอยู่ปีที่สามในมหาวิทยาลัย ผมลืมความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ผมเคยมีกับพระเยซู

ผมกลายเป็นคนใจแข็งกระด้างกับความสัมพันธ์อันอ่อนโยนที่พระองค์มีให้ผม หลายครั้งที่ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นลูกน้องของพระองค์มากกว่าคนที่พระองค์ทรงโปรดปราน

ผมเพิ่งได้รับตำแหน่งประธานในพันธกิจคริสเตียนของมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จ ในภาคเรียนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าวันเวลาของผมถูกยึดไปด้วยความเร่งรีบในการพยายามที่จะทำงานทุกอย่างให้สำเร็จ การอ่านพระคัมภีร์ของผมกลายเป็นเหมือนการบ้านที่ต้องทำ การอธิษฐานกลับตื้นเขิน หรือแม้กระทั่งในเวลานมัสการ ผมรู้สึกขาดจากความยิ่งใหญ่ที่เคยแสวงหาในการทรงสถิตของพระเจ้า ผมได้รับมอบหมายให้แบ่งปันข่าวประเสริฐกับผู้อื่น ซึ่งมันควรจะเป็นงานที่น่าชื่นชมยินดีแต่มันกลับเริ่มทำให้ผมรู้สึกเหมือนภาระมากกว่าการที่จะทำให้คนได้รับความรอด นั่นทำให้ช่วงเวลาที่พระเยซูมีร่วมกับสาวกของพระองค์ในบทสุดท้ายของพระธรรมยอห์นคือตอนโปรดของผม

พระเยซูได้เป็นขึ้นจากความตายและปรากฏแก่สาวกของพระองค์เพียงไม่กี่ครั้ง พวกสาวกได้ออกไปจับปลาและกำลังประสบปัญหาจับปลาไม่ได้ พระองค์ทรงเรียกพวกเขาจากฝั่งละสั่งให้เขาลองเหวี่ยงแห่ไปอีกด้านหนึ่งของเรือ เมื่อพวกเขารู้ว่าพระเยซูคือคนที่แนะนำนั้น เปโตรได้กระโดดลงจากเรือเพื่อมาพบพระองค์ (ยอห์น 21:7) และสาวกคนอื่นๆ ก็ตามมา พวกเขาพบว่าอาหารเช้าได้ถูกเตรียมไว้รอพวกเขาอยู่บนฝั่ง

ผมเดาว่าพระองค์น่าจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายบนโลกใบนี้กับการประกาศข่าวประเสริฐ รักษาคนป่วย หรือทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา แต่เรากลับเห็นด้านที่ผ่อนคลายของพระองค์ บางทีเวลาช่วงนี้ที่พระองค์ทรงใช้ร่วมกับสหายของพระองค์อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พระองค์กำลังสำแดงและพยายามบอกกับเราตลอดเวลา “อยู่ในความรักของพระองค์”

 

บางทีเวลาช่วงนี้ที่พระองค์ทรงใช้ร่วมกับสหายของพระองค์อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พระองค์กำลังสำแดงและพยายามบอกกับเราตลอดเวลา “อยู่ในความรักของพระองค์”

มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าพวกเขาทำอะไรให้พระเยซูได้บ้าง แต่ข้อความนี้หมายถึงความรักที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา และมากกว่านั้นคือเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อจินตนาการถึงสิ่งนี้ อากาศเย็นๆ ในตอนเช้า กลิ่นของขนมปังที่สดใหม่ ความชื่นชมยินดีในการอยู่ร่วมกับเพื่อนที่คุณสนิท มันจะเป็นช่วงเวลาที่หอมหวานเพียงใดที่พวกเขาได้มีความสุขกับพระเยซูโดยปราศจากกลุ่มคนจำนวนมากที่พยายามเข้ามาหาพระเมสสิยาห์ พระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดของโลกนี้ กำลังใช้เวลาช่วงสุดท้ายของพระองค์ก่อนเสด็จกลับสู่สวรรค์เสิร์ฟอาหารเช้าให้เพื่อนๆ ของพระองค์บนชายหาด

เราเองก็มักชอบหลงลืมความสวยงามของการใช้เวลากับพระเยซู พระองค์ทรงสั่งให้เราติดสนิทกับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่าเป็นการง่ายเพียงใดที่เราจะถูกล่อลวงไปในทางที่ผิด แทนที่จะมีความสัมพันธ์กับพระองค์ (ยอห์น 15:1-17) เมื่อเราตอบรับคำเชิญของพระองค์ที่เราจะอยู่ในพระองค์ในฐานะเพื่อน เราจะเป็นอิสระ อิสระจากความคาดหวังต่างๆ อิสระจากภาระที่เราแบกอยู่บนบ่าตลอดเวลา อิสระจากความละอายที่เราดีไม่พอสำหรับแผ่นดินของพระเจ้า

การได้เรียนรู้สิ่งนี้ทำให้ชีวิตของผมคลายจากความตึงเครียดที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าผมได้แบกอยู่ ผมรู้สึกเหมือนอิฐจำนวนสิบถุง ได้ถูกยกออกจากบ่าฝ่ายจิตวิญญาณของผม ผมได้เห็นถึงพระวจนะของพระเจ้ามากกว่าที่เคยเห็น เมื่ออธิษฐานผมก็ไม่ได้ใส่ใจในเวลา ช่วงเวลาของการนมัสการกลายเป็นการตอบสนองด้วยการสรรเสริญของผมจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ สิ่งที่ผมเคยทำเพียงเพราะหน้าที่กลายเป็นความสัมพันธ์และการได้ใช้เวลากับพระองค์ ผมหยุดที่จะพยายามอย่างหนักเพื่อทำตามทุกกฎที่ผมได้ตั้งขึ้นให้ตัวเองและผมก็ได้พบกับสันติสุข ผมสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตของพระองค์ในทุกๆ ที่ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใคร 

ชีวิตของผมเมื่ออยู่กับพระองค์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายวิญญาณ การทรงสถิตของพระองค์อยู่ในช่วงเวลาที่ผมกำลังทำอาหาร เดินทางไปเรียน หรือแม้กระทั่งกำลังดู Netflix

ผมรู้สึกได้ว่าพระองค์ทรงสนใจไม่เพียงแต่เมื่อผมมีวินัยฝ่ายจิตวิญญาณแต่ทรงสนใจแม้เรื่องทั่วไปในชีวิตของผม ผมได้กลับมามีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่ห่างหายไปนาน และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ

สำหรับใครที่กำลังอ่อนแรง เหนื่อยล้าหรือรู้สึกหมดกำลัง วันนี้ให้เราพักสงบในพระองค์ หายใจเข้าลึกๆ และจดจำความจริงนี้ที่ผมยึดถืออยู่เมื่อใดก็ตามที่ผมกลับไปสู่วงโคจรของภาระหน้าที่

พระองค์ทรงสนุกกับคุณ พระองค์ทรงรักที่จะใช้เวลาร่วมกับคุณ และพระองค์ไม่ได้คาดหวังความสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือเวลา 100 เปอร์เซ็นต์จากคุณ คุณมีสิทธิที่จะพักพิงในพระคุณของพระองค์เพื่อที่จะได้รับอิสระจากภาระต่างๆ ในชีวิตคุณ

YOU MAY ALSO LIKE

กังวลจนไม่หลับไม่นอน

กังวลจนไม่หลับไม่นอน

WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี  การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...

ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ

ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ

WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...

พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)

พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)

WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...

Share This