fbpx
WRITER: nnattha.s
EDITOR: Mustard Seed Team

ถ้าหากเปรียบเทียบชีวิตเป็นเสมือนการเดินทางในเส้นทางหนึ่ง มีช่วงเวลาตั้งแต่เกิดเสมือนการเริ่มต้นเดินทาง มีช่วงเวลาระหว่างทางเป็นเสมือนการเติบโตของชีวิต และมีจุดหมายปลายทางเป็นเสมือนเป้าหมายสุดท้ายของชีวิต การเดินทางบนเส้นทางนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานเป็นพิเศษ และคุณอาจหลงทางได้เสมอ ถ้าไม่รู้ว่าเส้นทางที่คุณกำลังไปนั้นใช่เส้นทางที่ถูกต้องแล้วสำหรับการไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่…

ฉันเชื่อว่าในทุกๆ การเดินทาง คงไม่มีใครอยากเสียเวลาไปกับการหลงทางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หลายครั้งเรากลับหลงทางอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่รู้จะกลับไปเส้นทางเดิมได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นคริสเตียนที่แม้เราจะมั่นใจว่าพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยกับเราเสมอ

แต่หลายครั้งเรากลับเลือกที่จะเดินออกนอกเส้นทางที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ นั่นจึงทำให้เราหลงทางอยู่เป็นประจำในเส้นทางนี้ที่เรามีโอกาสเดินทางได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เมื่อการมีชีวิตบนโลกนี้ซึ่งเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และคำโกหกของมารซาตานที่พยายามหลอกล่อเราให้หลงไปจากความจริงของพระเจ้า เราคงไม่อาจหลีกเลี่ยงคำโกหกเหล่านี้ได้หากเราไม่รู้ความจริงของพระเจ้า ซึ่งจะช่วยให้เราติดตามพระองค์ได้โดยไม่หลงเสียก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่พระองค์ทรงเรียกให้เราเดินไป ซึ่งก็คือที่ที่พระเยซูทรงเสด็จไปล่วงหน้าเราเพื่อ ไปจัดเตรียมที่บนนั้นสำหรับเราทุกคน(ยอห์น 14:3)

ถ้าชีวิตเราเป็นเสมือนการเดินทางที่เราสามารถเดินทางได้เพียงครั้งเดียวจริงๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องมีสำหรับการเดินทางครั้งนี้คือ “แผนที่” เพราะแผนที่จะช่วยนำเราไปถึงจุดหมายปลายทาง และเมื่อเราศึกษาแผนที่อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว แผนที่จะพาเราไปในเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางครั้งนี้ด้วยเช่นกัน 

หากเราย้อนกลับมามองในสภาพชีวิตที่แท้จริงของการเป็นคริสเตียน แผนที่นั่นคงเปรียบเสมือนพระวจนะของพระเจ้าที่จะนำเราไปสู่ความจริงของพระองค์ นำเราไปสู่การเดินติดตามพระองค์ได้อย่างมั่นคงที่สุดและปลอดภัยที่สุด ดังที่สดุดี 119 : 105 กล่าวว่า พระวจนะของพระองค์เป็นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์ พระวจนะตอนนี้กำลังบอกกับเราอย่างชัดเจนว่า นี่คือความสว่างที่ส่องทางให้เรามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนแม้มันอาจจะยังดูมืดมนเมื่อมองออกไปในระยะไกล หากเราได้ใช้เวลาใคร่ครวญและลงลึกในพระวจนะของพระองค์อย่างจริงจัง จนความจริงนี้ตกผลึกในความคิดและจิตใจของเราอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าชีวิตของเราจะต้องพบเจอกับปัญหาหรือสถานการณ์ใดๆ ที่อาจทำให้เรารู้สึกว่าผ่านมันไปไม่ได้อีกแล้ว ความจริงของพระเจ้าที่เปรียบเสมือนตะเกียงแก่เท้าของเราและจะเป็นเสมือน “แผนที่” ที่จะบอกเส้นทางที่ดีที่สุดให้เราก้าวผ่านสิ่งนั้นไปได้อย่างแน่นอน

น่าแปลกที่วันนี้แม้เราต่างก็รู้ว่าพระวจนะของพระองค์นั้นดีมากเพียงใดต่อชีวิตเรา แต่บางครั้งเรากลับไม่ยอมให้ความจริงนี้นำหน้าชีวิตเรา

นั่นจึงทำให้เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นความจริงที่มาจากพระเจ้า และสิ่งใดเป็นคำหลอกลวงที่มาจากมารซาตาน 

ครั้งหนึ่งฉันได้พูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนคนหนึ่ง และจนทุกวันนี้ฉันยังจำคำพูดของเธอได้ดี เธอแบ่งปันคำเทศนาของอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นชาวยิว เธอเล่าถึงวิธีที่พนักงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบธนบัตรว่าใบใดเป็นของจริง ใบใดเป็นของปลอม สิ่งที่พนักงานคนนั้นทำคือ เขาไม่ต้องตรวจสอบว่าลักษณะของปลอมนั้นเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เขาทำคือตรวจสอบธนบัตรทุกใบว่ามีลักษณะตรงกับ “ของจริง” หรือไม่เท่านั้น 

สิ่งนี้ทำให้ฉันต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าฉันกำลังดำเนินชีวิตอยู่ในเส้นทางแห่งความจริงของพระเจ้าหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วฉันกำลังเดินหลงทาง… เพราะความจริงที่ฉันเองก็มิอาจปฏิเสธได้เลย เช่นในสดุดี 19:7–9 ที่กล่าวว่า ธรรมบัญญัติของพระยาเวห์ดีพร้อมและฟื้นฟูชีวิต พระโอวาทของพระยาเวห์นั้นแน่นอน ทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา ข้อบังคับของพระยาเวห์นั้นถูกต้องทำให้ใจยินดี พระบัญญัติของพระยาเวห์นั้นบริสุทธิ์ ทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง ความยำเกรงพระยาเวห์นั้นสะอาดหมดจดถาวรเป็นนิตย์ กฎหมายของพระยาเวห์ก็สัตย์จริงและชอบธรรมทั้งสิ้นทำให้ฉันมั่นใจว่าความจริงของพระเจ้าจะช่วยในทุกย่างก้าวที่เราเดินติดตามพระเจ้าได้อย่างแท้จริง เพียงเรากลับมาสู่ความจริงและยอมให้ความจริงของพระองค์นำหน้าชีวิตเรา เพื่อจะรักษาชีวิตและความเชื่อของเราจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายที่พระองค์เสด็จกลับมารับเรา

…ขอเพียงแค่เราลองหยุดดูแผนที่ให้ดีๆ อีกสักครั้ง… ฉันเชื่อว่าเราทุกคนจะเดินทางไปถึงจุดหมายที่พระองค์ทรงรอต้อนรับเราอยู่ได้อย่างแน่นอน…

YOU MAY ALSO LIKE

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: ฐิติกานต์ นิธิอุทัย ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

ช่วยด้วย! ฉันหยุดคิดมากไม่ได้

ช่วยด้วย! ฉันหยุดคิดมากไม่ได้

WRITER: เรเชล มอร์แลนด์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: JoshuaEDITOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์ ฉันมือสั่นขณะที่ฉันกำลังว้าวุ่นกับการหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตในมือถือว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ไม่กี่วินาทีต่อมา...

Share This