WRITER: แคสซานดรา เหยา ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ศุภิสรา เจริญศรีศิลป์
EDITOR: Mustard Seed Team
ผู้หญิงทุกคนปรารถนาที่จะรู้สึกสวย ทุกๆ วันเราเห็นโฆษณาเป็นร้อยตัวเกี่ยวกับครีมบำรุง เครื่องสำอาง เสื้อผ้า และยาลดความอ้วน แม้กระทั่งพระคัมภีร์ดูเหมือนจะยกย่องความงามของผู้หญิงในพระธรรมตอนต่างๆ เช่น ในบทเพลงซาโลมอน หรือการอธิบายถึงลักษณะของผู้หญิงผ่านราเชล (ปฐมกาล 29:17)
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เคยกล้าที่จะปล่อยให้ตัวเองรู้สึกสวยเลย
ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันไม่อยากจะมีปัญหากับการมานั่งดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองตลอดเวลา แม้ว่าฉันจะพยายามทำให้ตัวเองดูเป็นระเบียบและเรียบร้อย ฉันใส่เสื้อผ้าหลวมๆ สีเข้มๆ คล้ายๆ กัน ฉันจะไปช้อปปิ้งก็ต่อเมื่อเพื่อนบังคับหรือเมื่อมีงานสำคัญๆ ที่ต้องแต่งตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เทศกาลตรุษจีน และฉันก็พึ่งตระหนักถึงเหตุผลในความไม่เต็มใจในการไปช้อปปิ้งของฉัน
ในช่วงวัยรุ่น ฉันโดนเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายหลายคนดูถูกและกลั่นแกล้งเรื่องรูปลักษณ์ของฉัน พวกเขาหัวเราะเยาะฟันหน้าที่ยื่น ผมสีน้ำตาลที่ยุ่งเหยิง และหูที่ใหญ่กว่าคนปกติของฉัน พวกเขาเรียกฉันในหลายหลากชื่อ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุดคือ ฉันถูกปฏิบัติเหมือนว่าฉันด้อยค่ากว่าพวกผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนอื่นๆ
มีครั้งหนึ่งที่พวกเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายของฉันเสนอชื่อและโหวตผู้หญิงที่หน้าตาน่าเกลียดที่สุดในชั้น พวกเขาจึงถ่ายรูปรวมชั้นเรียนและใช้เหรียญเงินขูดหน้าผู้หญิงที่น่าเกลียดออกจากรูป และไม่แปลกใจเลยที่ฉันเป็นหนึ่งในพวกผู้หญิงเหล่านั้น ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่ากว่ามนุษย์คนไหนเท่าเวลานั้นที่ฉันถูกตัดสินด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฉันมีปัญหาในเรื่องการนับถือตนเองและมันก็แสดงออกมาเป็นรูปแบบการแต่งตัวและวิธีการดูแลตัวเองของฉัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันใส่เสื้อแขนยาวเพราะกลัวคนอื่นจะมองว่าแขนใหญ่ และในทำนองเดียวกันฉันมักจะใส่เสื้อผ้าสีเข้มเพื่อฉันจะได้ไม่ดูโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน ฉันค้นพบความรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดในการอยู่แบบไร้ตัวตน
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ พระเจ้าก็ได้นำฉันให้ก้าวเข้าไปสู่วงการที่ปรึกษาเรื่องภาพลักษณ์ งานของฉันจะเกี่ยวข้องกับการช่วยลูกค้าจัดหาเครื่องมือและฝึกทักษะเพื่อการนำเสนอภาพลักษณ์บริษัทให้ดูโดดเด่น ตอนแรกฉันคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องสนใจแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่ต่อมาฉันก็ได้เรียนรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนแปลงจากภายใน โดยการเปลี่ยนมุมมองความคิดที่มีต่อตัวเอง การค้นพบคุณค่าและความสามารถที่แท้จริงจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกได้เอง
ในระหว่างการทำงานของฉันในสัปดาห์แรก หัวใจของฉันติดอยู่ระหว่างความเชื่อส่วนตัวของฉันกับรูปลักษณ์ของตนเองที่ฉันต้องคอยดูแลให้สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญในหน้าที่การทำงานของฉัน ในขณะที่ในโลกของผู้ให้คำปรึกษาด้านภาพลักษณ์นั้นให้ความสำคัญกับรูปแบบความงาม แสงเงาและสีสัน ตู้เสื้อผ้าของฉันก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้าสีดำ เทา และน้ำเงิน มันเป็นความรู้สึกตลกร้ายทุกครั้งที่ฉันวางแผนหลักสูตรและโปรแกรมสำหรับลูกค้า ในขณะที่ตัวฉันเองก็ยังมีปัญหาด้านนี้เหมือนกัน
แต่ในขณะที่ฉันต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ขัดแย้งกันเหล่านี้ ฉันก็ตระหนักว่าการที่ฉันได้มาทำงานนี้ในเวลานี้ เป็นส่วนที่สำคัญในแผนการของพระเจ้าที่มีในชีวิตฉัน พระเจ้าได้ทรงนำพาฉันเข้ามาในเส้นทางของที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ ไม่ใช่เพียงแค่จัดเตรียมการทำงานให้ฉัน แต่พระองค์ยังทรงช่วยรักษาส่วนหนึ่งในชีวิตฉันที่เคยตายด้านไปนานมากแล้ว พระเจ้าได้ทำงานเพื่ออวยพระพรและฟื้นฟูส่วนต่างๆ ในชีวิตฉันที่เคยถูกทำร้ายมา พระองค์ทรงทำการเพื่อให้ฉันเติบโต และเปิดตาของฉันให้ฉันได้เห็นความสวยงามในมุมที่ต่างไป
งานที่ฉันทำอยู่ให้โอกาสฉันในการติดต่อกับผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเรื่องภาพลักษณ์ และทำให้ฉันได้มีประสบการณ์ส่วนตัวกับบทเรียนการฝึกสอนภาพลักษณ์อย่างแท้จริง เพื่อนร่วมงานของฉันได้ให้เคล็ดลับและคำแนะนำแบบตัวต่อตัวในการแต่งตัวและการจัดระเบียบร่างกาย ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ฉันได้เห็นความงามในรูปแบบของการดูแลเอาใจใส่และการเคารพตัวเอง วิธีที่ฉันแต่งตัวและดูแลตัวเองไม่ควรเป็นเพียงแค่ความห่วงสวยเท่านั้น แต่ควรจะสะท้อนความจริงและความเข้าใจอันลึกซึ้งที่ว่า พระเจ้าทรงสร้างฉันขึ้นมาอย่างอัศจรรย์และน่าครั่นคราม (สดุดี 139:14)
ไม่ว่าคนอื่นจะพูดถึงฉันยังไงก็ตาม ฉันก็มีความมั่นใจจากการรู้ว่าพระเจ้าทรงสร้างฉัน อัครทูตเปาโลได้เตือนพวกเราให้ทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และแน่นอนว่านั่นรวมถึงการแต่งกายของพวกเราด้วย (1 โครินธ์ 10:31) ในการจะให้เกียรติความรักของพระเจ้าที่มีต่อฉัน ตู้เสื้อผ้าของฉันก็ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไป
เสื้อผ้าสีเทาและสีดำนั้นก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยเฉดสีเหลือง เขียว และส้ม เสื้อแขนกุดเริ่มมีในตู้เพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องประดับเริ่มเข้ามาเติมเต็มที่ว่างในตู้เก็บของในห้องน้ำของฉัน
ในตอนแรก เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันพยายามที่จะใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างไป ฉันกลัวที่จะส่องกระจกเสมอ แต่เพราะคำหนุนใจและกำลังใจด้านบวกที่ครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงานที่มีให้ฉัน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ฉันก้าวข้ามผ่านความอายไปสู่ความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น วิธีนี้ช่วยเตือนฉันว่า ร่างกายของฉันคือพระนิเวศของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นฉันควรให้เกียรติร่างกายของฉันเพื่อเป็นการซาบซึ้งถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างให้ฉันเป็น
การที่ฉันได้เปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก การทำงานของฉันก็เปิดทางให้ฉันได้ช่วยเปลี่ยนแปลงคนอื่นทั้งภายในและภายนอกเช่นกัน ความหวังใจของฉันคือ การที่พระเจ้าจะใช้ฉันในสายงานนี้เพื่อการเสริมสร้างอัตลักษณ์ และในการทำแบบนี้ก็ยังช่วยรักษาเยียวยาความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นได้ด้วย
การเปลี่ยนแปลงการมองตัวเองในมุมใหม่และลักษณะภายนอกของฉันครั้งนี้ได้ช่วยเตือนใจฉันว่า พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งการฟื้นฟู และพระองค์ทรงปรารถนาที่จะฟื้นฟูและรักษาส่วนที่เจ็บช้ำและตายด้านในชีวิตของเราทั้งหลาย ถ้าคุณเคยประสบกับความช้ำใจในอดีตเหมือนกับฉัน คุณจะยอมให้พระเจ้าทำงานในชีวิตคุณหรือไม่?
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...