5 สิ่งที่ควรครุ่นคิดเมื่อชีวิตอยู่ตรงทางแยก

WRITER: YMI ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: พัฒน์นรี หมุดเชื้อ
EDITOR: พาทินธิดา เจริญสวัสดิ์

คุณกำลังอยู่ตรงทางแยกอยู่หรือเปล่า? คุณรู้สึกไหมว่าอนาคตทั้งหมดของคุณขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังจะตัดสินใจ?

อาจเป็นโรงเรียนที่จะเข้า วิชาที่ต้องเลือก งานที่กำลังดูๆ อยู่ หรือว่าจะออกจากงานปัจจุบัน อาจเป็นการเดตที่คุณกำลังคิด หรือแม้กระทั่งแต่งงาน อะไรคือผลลัพธ์ของการตัดสินใจเหล่านี้? และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด?

เมื่อคุณกำลังมองไปยังอนาคตที่ไม่อาจรู้ได้ นี่เป็น 5 สิ่งที่คุณควรครุ่นคิดเมื่อชีวิตอยู่ตรงทางแยก

1. พระคัมภีร์บอกอย่างไร?

“เดินตามทิศทางที่ชัดเจนที่พระเจ้าได้มอบให้เรา”(2 ทิโมธี 3:16-17)

พระเจ้าได้มอบถ้อยคำของพระองค์ไว้ในรูปแบบของพระคัมภีร์ และคำเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะเตรียมเราสำหรับสถานการณ์ใดก็ตามที่ต้องเผชิญ

มีบางสถานการณ์ที่พระคัมภีร์บอกไว้อย่างชัดเจน เช่น การล่วงประเวณีเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างไม่ต้องสงสัย(มัทธิว 5:27-28), การลำเอียงก็เช่นกัน(ยากอบ 2:8-9) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำที่สามารถใช้ได้กับการตัดสินใจในหลายสถานการณ์ เช่น เต็มใจที่จะให้อภัย(มัทธิว 18:21-22), จงรักกันและกัน(1 เปโตร 4:8), ใช้ชีวิตในพระคริสต์ หยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์(โคโลสี 2:6-7)

ในพระคัมภีร์มีคำสอนที่ชัดเจนและสามารถประยุกต์ได้กับสถานการณ์ของคุณไหม? ถ้าใช่ ให้ทำตามคำแนะนำที่ชัดเจนซึ่งพระองค์ได้มอบไว้ ถ้าไม่ ข้อต่อๆ ไปนี้คือสิ่งที่คุณควรพิจารณา

2. คุณได้ตรวจดูแรงจูงใจของตัวเองไหม?

“ขุดลึกลงไปและเข้าใจคำถามของตัวเอง”(สุภาษิต 4:23)

เมื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน เราต้องตรวจสอบแรงจูงใจของตัวเองอย่างถี่ถ้วน โดยจำเป็นต้องสำรวจลึกลงไป และหาให้เจอว่าเรากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

เรากำลังเอนเอียงไปในการตัดสินใจบางอย่างเพราะความกลัวอยู่หรือเปล่า? เรากำลังวิ่งตามบางอย่างเพราะรู้สึกว่าจำเป็นต้องตามเพื่อน หรือเรากำลังพยายามแก้แค้นใครบางคนจากสิ่งที่พวกเขาทำอยู่หรือเปล่า?

พระคัมภีร์เตือนเราว่า “จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ” (สุภาษิต 4:23) ให้เราอธิษฐานและทูลขอความช่วยเหลือและการอภัยจากพระเจ้าเมื่อเราต้องเผชิญกับสิ่งที่แย่ หรือแม้แต่แรงจูงใจที่ผิดบาป

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอให้การตัดสินใจนั้นมาจากจิตใจที่ชัดเจน และแรงจูงใจที่บริสุทธิ์

3. คุณกำลังอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า?

“แสวงหาคำแนะนำของพระเจ้าในทุกรายละเอียด”(1 เธสะโลนิกา 5:17)

อาจารย์เปาโลได้เตือนเราว่า “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ”(1 เธสะโลนิกา 5:17) เมื่อเราต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ไม่อาจรู้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

เราสามารถอธิษฐานขอหัวใจที่บริสุทธิ์ในขณะที่เราตัดสินใจ(สดุดี 51:10)

เราสามารถอธิษฐานขอสติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ด้วยพระทัยกว้างขวาง(ยากอบ 1:5)

เราสามารถอธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยนำทางเรา(ยอห์น 14:26)

เราสามารถอธิษฐานขอความกล้าหาญในการตัดสินใจสิ่งยากๆ (ฮีบรู 13:6)

เราสามารถอธิษฐานขอสันติสุขท่ามกลางสิ่งที่เราไม่รู้(ยอห์น 14:27)

นอกจากนี้ เรายังสามารถอธิษฐานเกี่ยวกับรายละเอียดในการตัดสินใจของเราได้ด้วย อย่างไรก็ตาม พระเจ้ารู้ทุกสิ่งที่ไม่มีใครรู้ และเมื่ออธิษฐาน เราจะระลึกได้ว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอ ดังนั้นพระองค์จะประทานสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจแก่เราแน่นอน

4. คุณได้ขอคำปรึกษาแบบคริสเตียนไหม?

“พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพระคริสต์ที่คุณไว้วางใจ”(สุภาษิต 12:15)

คริสเตียนไม่เคยต้องเดินคนเดียวลำพัง เพราะเรา “ไม่ใช่คนต่างด้าวต่างแดนอีกต่อไป แต่เป็นพลเมืองเดียวกันกับธรรมิกชน และเป็นครอบครัวของพระเจ้า”(เอเฟซัส 2:19)

แน่นอนว่า เราสามารถพบพี่น้องที่เดินไปกับพระเจ้าและมีความเข้าใจในประสบการณ์ที่เราขาดอยู่ ให้เราใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ และมองหาผู้ใหญ่ในพระคริสต์ที่คุณไว้วางใจ(สุภาษิต 12:15) พวกเขาอาจจะสามารถให้คำแนะนำหรือมุมมองที่เรายังไม่เคยนึกถึง และที่สำคัญมากกว่านั้นคือ พวกเขาอธิษฐานไปกับเราได้ด้วย “ด้วยว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนๆ ในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น”(มัทธิว 18:20)

5. คุณเชื่อในการมองการณ์ไกลของพระเจ้าไหม?

“วางการตัดสินใจของคุณไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า”(สุภาษิต 3:5-6)

สุดท้ายแล้ว ให้เราจดจำไว้ว่า ในขณะที่เราไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไร แต่พระเจ้ารู้ และแม้ว่าเราได้ตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้วในสถานการณ์นั้น แต่เราก็ไม่สามารถมองเห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้อยู่ดี

ไม่เป็นไรหรอก พระเจ้ารู้สายตาที่สั้นและข้อจำกัดของเรา ซึ่งพระองค์เข้าใจสิ่งเหล่านั้น ดังนั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราตัดสินใจ ไม่ว่าทางไหนที่เราเลือกเดิน พระเจ้าได้รับรู้อยู่ก่อนแล้ว พระองค์จะเดินไปกับเราทุกก้าวในหนทางนั้น และจะทรงจัดการสิ่งต่างๆ ตามเวลาของพระองค์(สุภาษิต 3:5-6)

YOU MAY ALSO LIKE