WRITER: รีเบคกา ลิม ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR/EDITOR: Mustard Seed Team
รูปภาพจาก: Facebook
หมายเหตุจากผู้เขียน: เนื้อหามีการสปอยล์
หลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา สงครามการเลือกทีมของตัวละครนั้นได้เกิดขึ้นทั่วในโลกอินเตอร์เน็ต
ถ้าคุณได้เห็นรูปของคิมซอนโฮ (นักแสดงที่รับบทฮันจีพยองซึ่งเป็นพระรองในเรื่อง Start-Up) และลักยิ้มอันโด่งดังของเขาที่ปรากฏอยู่ตามฟีดของสื่อโซเชียลต่างๆ พร้อมแฮชแท็ก #TeamGoodBoy หรือ #TeamJiPyeong นั่นเป็นเพราะว่าซีรีส์เกาหลีเรื่อง Start-Up ได้จุดชนวนสงครามการเลือกทีมที่ดุเดือด และก่อให้เกิดอาการหลงรักพระรอง (second-lead syndromes) อย่างมากที่สุดนับตั้งแต่เรื่อง Reply 1988
เหล่าแฟนๆ ทั่วโลกต่างรู้สึกหัวเสียกับการที่เรื่องราวความรักในเรื่องค่อยๆ เปิดเผยในซีรีส์นี้ ซึ่งหลายๆ คนเชื่อว่าฮันจีพยองควรจะได้คู่กับนางเอกอย่างซอดัลมี (รับบทโดยแบซูจี) ทั้งสองคนมีเคมีที่เข้ากันมากกว่าพระเอกอย่างนัมโดซาน (รับบทโดยนัมจูฮยอก) และได้ใช้พื้นที่ในโลกดิจิตัลในการสรุปเหตุผลต่างๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นทีม #TeamGoodBoy
แต่ถ้าเราเอาเรื่องความรักโรแมนติกออกไป ซีรีส์เรื่อง Start-up ได้สร้างกระแสเกี่ยวกับการสะท้อนถึงความจริงในเรื่องของคนที่ไร้ตัวตนเอาชนะโชคชะตาด้วยการทำงานหนัก ความอดทน และความพยายาม เพื่อที่จะสร้างตัวเองให้เป็นที่จดจำในโลกของเทคโนโลยีสตาร์ทอัพ
เรื่องราวส่วนใหญ่เกินขึ้นในสถานที่สมมติซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะทางธุรกิจ (incubator) ที่เรียกว่า แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ที่ๆ ตัวละครหลักอย่างซอดัลมีและนัมโดซานได้เริ่มต้นบริษัท Samsan Tech ซึ่งเป็นที่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นความฝันของพวกเขา สถานที่แห่งนี้ที่พวกเขาได้เรียนรู้ว่าจะเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างไร และเกิดรักสามเศร้าระหว่างเมนเทอร์ฮันจีพยอง (คิมซอนโฮ) ซึ่งมีความผูกพันธ์กับดัลมีมากกว่าที่เธอรู้
ไม่ว่าคุณจะอยู่ #TeamdoSan หรือ #TeamJiPyeong พวกเราสามารถเห็นตัวเองไม่มากก็น้อยผ่านเส้นทางของตัวละคร เมื่อเราได้ดูตัวละครเหล่านั้นที่ต้องเผชิญกับปัญหาในที่ทำงาน ความฝันที่พังทลาย ความสัมพันธ์ที่แตกร้าว ความผิดพลาดในอดีต (และปัจจุบัน) และอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะหาจุดยืนและคุณค่าของตัวเอง
ดังนั้น นี่คือบทเรียนสำคัญของชีวิตจากซีรีส์ Start-Up ที่สามารถนำมาปรับใช้ในเส้นทางชีวิตของพวกเราได้เช่นกัน ไม่ว่าพวกเรากำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ หรือกิจการใหม่ ช่วยเหลือคนอื่นในการเริ่มต้นทำความฝันให้เป็นจริง หรือกำลังค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการทำในชีวิต
1. รู้ว่าคุณค่าของตัวเราไม่ได้ถูกกำหนดด้วยสถานการณ์รอบข้าง
ถ้ามีหนึ่งข้อความจากซีรีส์ Start-Up ที่ชัดเจนที่สุดคงจะเป็น ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นด้วยการรับสิทธิพิเศษแบบไหนก็ตาม เรากำลังไต่เต้าไปได้ไกลแค่ไหน หรือเราประสบความสำเร็จในชีวิตมากแค่ไหน พวกเราทุกคนต่างถูกรบกวนด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย ความเครียดทางอารมณ์ที่เก็บสะสมจากอดีต และความกลัว
โดซานที่ต่อสู้กับโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง (Imposrter syndrome) จากการ “ทำผิดพลาด” ที่เกิดขึ้นตอนเขาเป็นเด็กเมื่อหลายปีก่อน ดัลมีที่คอยแข่งขันกับพี่สาวอย่างอินแจ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่ขับเคลื่อนซีรีส์เรื่องนี้ และจีพยองผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่อายุยังน้อยแต่กลับใช้ชีวิตด้วยความเดียวดาย
ในโลกที่ผลักดันให้เราให้นึกถึงความสำเร็จครั้งต่อไปหรือเป้าหมายของชีวิตอยู่ตลอด มันเป็นการต่อสู้ดิ้นรนในการใช้ชีวิตโดยไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของเราในระหว่างทาง ณ ตอนนี้ ขอหนุนใจให้เราจดจำว่าคุณค่าของตัวเรานั้นไม่ได้ถูกกำหนดเพียงแค่ว่าเราเป็นใคร เราเกิดจากครอบครัวแบบไหน หรือวิถีชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร แต่ถูกกำหนดโดยสิ่งที่พระเยซูทรงทำบนไม้กางเขน (เอเฟซัส 2:8-9) ในพระองค์เราพบว่าพวกเรามีจุดเริ่มต้นที่เหมือนกัน เราได้รับพระคุณและของประทานสำหรับวิ่งในเส้นทางที่พระองค์ทรงจัดเตรียมให้ไว้เรา (ฮีบรู 12:1)
2. สร้างชีวิตของคุณบนสิ่งที่สำคัญจริงๆ
เรามักจะคิดว่ามีเพียงเส้นทางเดียวสู่ความสำเร็จหรือทางเดียวในการวัดความสำเร็จ แต่บทเรียนที่สำคัญที่เราสามารถเรียนรู้จากซีรีส์ Start-Up คือความสำเร็จที่แท้จริงนั้นคือการที่เราใช้สิ่งที่เรามีรับใช้ความต้องการของผู้คนรอบตัวเรา
ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับตัวเลือกความรักที่ดัลมีเลือก เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโดซานทำให้เรารู้สึกซึ้งไปด้วยเมื่อเขาต้องต่อสู้ดิ้นรนในการไล่ตามความฝัน เขาตัดสินใจว่าโปรเจกต์แรกของบริษัท Samsun Tech จะโฟกัสบนพื้นฐานของบางสิ่ง หรือจริงๆ ก็คือบางคนที่ใกล้ชิดกับหัวใจของดัลมี
เมื่อทีม Samsun Tech ค้นพบว่าความสำเร็จของพวกเขาไม่ใช่แค่พวกเขานำเสนอรูปแบบธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้มากที่สุด หรือโดดเด่นที่สุด เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด หากแต่เป็นการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาชีวิตผู้อื่นให้ดีขึ้น นี่คือความฝันที่พวกเขาพบว่ามันมีคุณค่าในการไล่ตามและทำให้มันเป็นจริง
แต่สำหรับพวกเราที่เหลือที่อาจจะไม่ได้อยู่ทำงานในรูปแบบของงานหรือตำแหน่งที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยตรงให้กับผู้คนที่พวกเราเป็นห่วงเป็นใย หรือรู้สึกสนใจ คุณย่าของดัลมีได้นำเสนอตัวเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ในการเริ่มต้นสำหรับพวกเรา
ผ่านการกระทำของเธอ เธอได้แสดงให้เห็นผ่านการลงทุนในสิ่งที่สำคัญจริงๆ ด้วยการเริ่มต้นเปิดตาเพื่อมองเห็นความต้องการของผู้คนรอบตัวเรา และใช้สิ่งที่เรามีในมือเพื่อช่วยคนเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการร่วมรับรู้ความเจ็บปวดของบางคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนกับความเหงา การให้โอกาส การฟังหรืออ้อมกอดอันอบอุ่น หรือเปิดบ้านของคุณต้อนรับคนที่ต้องการ
3. มองหาเพื่อนๆ ที่พร้อมจะลงทุนในการเติบโตของคุณ
เมื่อพวกเราได้เริ่มออกไปใช้ชีวิต พวกเรามักจะเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดี และนี่คือกรณีเดียวกันบริษัท Samsun Tech
พวกเขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรงไม่ว่าพวกเขาจะอยู่สูงแค่ไหนก็ยังมีอีกหลายสิ่งมากที่พวกเขายังต้องเรียนรู้
อย่างแรกพวกเขาถูกจิกกัดด้วยคำวิจารณ์รุนแรงจากเมนเทอร์ฮันจีพยองของพวกเขา ผู้ซึ่งไม่เคยกลัวที่จะพูดความจริงอันเจ็บปวดเพื่อให้พวกเขายืนได้อย่างมั่นคง แต่ในการรีบร้อนที่จะรักษาข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการมูลค่ามหาศาลกับ 2STO บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ทีมค้นพบว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่คำสรรเสริญจากคนที่ประทับใจในเทคโนโลยีหรือความสามารถของพวกเขา แต่กลับเป็นมุมมองและสติปัญญาของผู้นำที่เห็นคุณค่าในการเติบโตของพวกเขา
ในสุภาษิตบทที่ 27:6 ย้ำเตือนเราว่า “บาดแผลที่มิตรทำก็สุจริต แต่การจุบของศัตรูนั้นก็หลอกลวง” ให้มันเจ็บปวดอย่างที่มันควรจะเป็น ซีรีส์ Start-Up ได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของบาดแผลที่เกิดจากเพื่อนผู้ที่ไม่กลัวที่จะพูดความจริงด้วยใจรักและช่วยให้เราได้เห็นจุดบอดที่คอยขัดขวางชีวิตของเราไม่ให้เติบโต
4. อย่าลืมคนที่คอยสนับสนุนคุณ
Start-Up ทำให้ฉันติดตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่เรียกน้ำตาจากผู้ชม เมื่อฉันเห็นพ่อดัลมีกำลังต่อสู้ดิ้นร้นระหว่างความฝันในการสร้างกิจการของตนเองและการหาเลี้ยงครอบครัว แม้ว่าเขาไม่สามารถทำตามความฝันได้ แต่เรื่องราวของเขาได้สร้างพื้นฐานของแนวคิดเบื้องหลังแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) และความฝันของดัลมีต่อๆ ไป
สำหรับฉันสิ่งที่ประทับใจในซีรีส์ไม่ใช่การที่เห็น Samsun Tech มีชัยชนะเหนือคนที่เก่งกว่า หรือเอาชนะอุปสรรคที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา แต่การเป็นพยานในความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งยืนยงของพวกเขา
พวกเราได้เห็นสิ่งนี้จากการที่คุณย่าของดัลมีได้รับจีพยองเข้ามาในฐานะหนุ่มน้อยกำพร้า และดูแลเขาตอนเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าเขาจะพยายามผลักไสเธอก็ตาม แม้เขาจะรู้สึกกถึงภาระอันหนักอึ้งจากการเป็นหนี้ความรู้สึกที่เขาติดค้างต่อคุณย่า เขารู้ว่าเขาไม่สามารถมายืนตรงจุดๆ นี้ได้ หากปราศจากความช่วยเหลือของเธอ หรือการที่แม่ของดัลมีค้นพบว่าคนเดียวที่พร้อมจะอ้าแขนต้อนรับเธอกลับด้วยพระคุณคือคนๆ เดียวกับที่เธอเคยรังเกียจและดูถูกไว้ นี่คือจุดสำคัญที่เป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้
การที่ได้เห็นตัวละครค่อยๆ ตระหนักถึงเรื่องของเวลา ความรัก และการช่วยเหลือที่พวกเขาได้รับจากกันและกัน ย้ำเตือนฉันว่าพวกเราไม่สามารถไปไหนหรือสร้างอะไรต่างๆ ได้ด้วยตัวเองหากแต่มันเกิดจากความใจดีของใครบางคนที่ได้จุดไฟแห่งความปรารถนาภายในพวกเรา เพื่อจะให้ชีวิตของพวกเราอยู่ในทางที่ถูกต้อง ความอบอุ่นจากเพื่อนที่โอบกอดเราและช่วยเราในการสร้างชีวิตเมื่อเราล้มเหลว และการช่วยเหลือจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่ช่วยทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงในชีวิตได้
นี่คือสี่บทเรียนที่ได้จากซีรีส์ Start-Up ที่ทำให้ฉันได้ใคร่ครวญถึงผู้คนที่ได้ร่วมเดินทางในชีวิตของฉัน และฉันกำลังสร้างชีวิตของฉันไปในทิศทางใด ซีรีส์เรื่องนี้แตะใจฉันมากๆ เพราะทำให้ฉันคิดถึงตอนที่ตัวเองได้สูญเสียงานแรกในชีวิตไป และมองเห็นความฝันของตัวเองพังทลายในวันเดียว
มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันต้องการเพื่อนที่จะนั่งกับฉันในความืดและเงียบ ย้ำเตือนฉันว่าฉันมีคุณค่าในพระคริสต์ และท้าทายให้ฉันออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองเมื่อฉันต้องการจะเริ่มต้นชีวิตของฉันอีกครั้ง
พวกเขาได้ช่วยให้ฉันเห็นว่าความพ้ายแพ้ที่ฉันได้พบเจอนั้นเป็นเหมือนจุดเล็กๆ ในเส้นทางของฉันกับพระเจ้า และมันไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปในการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เดินไปกับเพื่อนๆ และที่สำคัญเพื่อนตาย (ลูกา 7:34) แสดงให้ฉันเห็นว่าตราบใดที่เรายังมีพระคริสต์ พวกเรามีทุกสิ่งที่จำเป็นในการสร้างชีวิตที่สำคัญ
YOU MAY ALSO LIKE
กังวลจนไม่หลับไม่นอน
WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...
ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ
WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...
พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...