fbpx
WRITER: สวิตตา เจริญศรีศิลป์ (อีฟฟี่เอง)
EDITOR: Mustard Team

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราทุกคนต่างรู้ดีว่ามีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟป่า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การยิงกราดกัน หรือภัยธรรมชาติ และที่หนีไม่พ้นก็คงจะเป็นเรื่องของไวรัสโคโรน่าที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก เวลานี้ ตอนแรกที่ฉันได้ยินข่าวว่าที่เมืองอู่ฮั่นมีการระบาดนั้น ยอมรับเลยว่าฉันไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกมากนัก เพราะยังดูเป็นเรื่องที่ไกลตัว และคิดว่าอีกไม่นานวิกฤตในครั้งนี้ก็จะผ่านไป

แต่ในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน สถานการณ์การแพร่ระบาดดูเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้น และกระจายวงกว้างกว่าที่คิด ที่สำคัญมันใกล้ตัวฉันเข้ามาทุกที ในฐานะคริสเตียนที่มีความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงสร้างโลก และเป็นพระเจ้าผู้อยู่เหนือทุกสิ่ง ฉันจึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างจากสถานการณ์นี้

และนี่คือ 3 สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด– 19…

1. กลับมาทบทวนถึงสิ่งที่สำคัญในชีวิต

ไม่กี่วันมานี้ทางรัฐบาลได้ออกคำสั่งปิดห้างสรรพสินค้าและสถานที่ต่างๆ ฉันเชื่อว่าหลายคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตไป สิ่งที่เคยดูเหมือนมั่นคง พึ่งพาได้ของโลกนี้ แต่เวลานี้กลับสั่นคลอนและพังลงอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่ดิ่งลงถึงจุดต่ำสุดภายในไม่กี่วัน หรือสุขภาพที่แข็งแรงก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าคุณจะไม่ติดโรคนี้ และยังมีอีกหลายสิ่งที่เราทุกคนคิดว่าสามารถทำให้อุ่นใจได้ แต่เมื่อสถานการณ์แบบนี้มาถึง ดูเหมือนว่าความมั่นคงในสิ่งต่างๆ นั้น กลับหายไปในพริบตา

ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้ เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกที่ปลุกให้ฉันหันกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าฉันใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าวันนี้ทุกอย่างล้มลงความมั่นคงในชีวิตของฉันฝากไว้กับอะไร? ฉันได้วางใจในเงินทอง ความสามารถ สุขภาพที่แข็งแรงของตัวเอง และได้ยอมให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในชีวิตหรือเปล่า? สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันได้กลับมาทบทวนและจัดเรียงลำดับความสำคัญในชีวิตอีกครั้ง รวมถึงยังตอกย้ำรากฐานความเชื่อของฉันที่มีในพระเจ้า ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถดำเนินชีวิตแต่ละวัน ด้วยความมั่นใจท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยใจที่สงบ เพราะฉันได้วางใจในพระเจ้าผู้ไม่เปลี่ยนแปลง

2. พระคำของพระเจ้าเป็นยาขนานดี

ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างไม่แน่นอน ฉันอยากขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคำของพระองค์ที่ยึดฉันไว้ เพราะฉันรู้ว่าไม่ว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร พระคำของพระองค์เป็นความจริงและพระสัญญาของพระองค์เชื่อถือได้ ฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังคงติดตามข่าวสารต่างๆ ของโควิด-19 เพื่อป้องกันและไม่ละเลยหรือเพิกเฉยต่อสิ่งรอบตัว แต่ขณะเดียวกัน การรับข่าวสารนั้นก็ทำให้ฉันรู้สึกกลัวเช่นกัน ในฐานะคริสเตียน ฉันรู้ว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้เราซ่อนความกลัวของเราไว้ แต่ปรารถนาให้เราเอาความกลัวนั้นเข้ามาทูลต่อพระองค์ ฉะนั้นเวลาที่ฉันเริ่มวิตกกังวล ฉันเลือกที่จะอ่านทบทวนและยืนหยัดในพระสัญญาของพระองค์ หนึ่งในข้อที่ฉันใคร่ครวญในช่วงนี้มาจากพระธรรมสดุดี 91

ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่กำบังขององค์ผู้สูงสุดจะอยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ข้าพเจ้าจะทูลพระยาห์เวห์ว่าที่ลี้ภัยของข้าพระองค์และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจเพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากโรคภัยร้ายแรงนั้น พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์….” (สดุดี 91:1-4)

เมื่ออ่านจบทั้งบทแล้ว จิตใจของฉันจะสงบลง การใคร่ครวญพระคำของพระเจ้าช่วยให้ฉันมีมุมมองที่ถูกต้อง และไม่หลงเตลิดไปกับอารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆ รอบตัว พระคำของพระเจ้าเป็นยาต้านความกลัวขนานดีจริงๆ

3. เตรียมพร้อมและฉวยโอกาส

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันตระหนักว่ามีคนรอบข้างอีกมากมายที่กำลังตกอยู่ในสภาวะห่อเหี่ยวใจและวิตกกังวลแบบเดียวกัน หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เมื่อฉันสามารถผ่านสถานการณ์ที่คิดไม่ตกมาแล้ว ฉันจะสามารถช่วยคนรอบข้างที่กำลังเผชิญความรู้สึกเดียวกันนั้นได้อย่างไร? ดังที่ 1 เปโตร 3:15 ได้บอกกับเราว่า “… จงเตรียมพร้อมเสมอ ที่จะอธิบายกับทุกคนที่ขอทราบเหตุผลเกี่ยวกับความหวังของพวกท่านในโลกที่แตกสลายและสิ้นหวังนี้ เราผู้ที่มีความหวังในพระเจ้าองค์เที่ยงแท้จะฉายแสงและสะท้อนความหวัง รวมทั้งให้กำลังใจแก่คนรอบข้างได้อย่างไรบ้าง? ในเวลาแบบนี้ เราจะเป็นเกลือและแสงสว่างของโลกได้อย่างไร? สำหรับฉันแล้ว การให้กำลังใจเพื่อนที่กำลังท้อแท้ใจ เห็นอกเห็นใจคนที่ลำบากจากผลกระทบในสถานการณ์นี้ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ “…เพื่อว่าเมื่อเขาเห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตบนสวรรค์(มัทธิว 5:16)

ข้าแต่พระเจ้าขอช่วยให้เราไม่เป็นเกลือที่หมดรสเค็ม หรือแสงสว่างที่ถูกตะเกียงครอบอยู่ แต่ที่จะมีสายตาที่แตกต่างสามารถมองเห็นโอกาส และประกอบด้วยสติปัญญาที่มาจากพระองค์

เพื่อเราจะสามารถยืนหยัดเป็นทูตของพระเจ้า ในการนำลูกๆ ที่รักของพระองค์ที่กำลังเผชิญกับความสิ้นหวัง ในโลกที่แตกสลายนี้กลับสู่อ้อมกอดของพระบิดาผู้ทรงแสนดีและเปี่ยมไปด้วยความรัก

โปรดช่วยให้เราวางใจในพระองค์ รักซึ่งกันและกัน และผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน

แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงนำเราเสมอมาโดยพระคริสต์ด้วยความมีชัย และทรงโปรดประทานกลิ่นหอมแห่งความรู้ของพระองค์ ให้ปรากฏด้วยตัวเราทุกแห่ง2 โครินธ์ 2:14

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This