fbpx
WRITER: พรพรรณ ขวัญพันธุ์งาม
EDITOR: Mustard Seed Team

ที่จริงฉันอยากจะเล่าถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่เพิ่งผ่านมา หากแต่ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันตัวฉันกลับประสบเหตุที่เข้าใกล้กับคำว่า ‘เฉียดตาย’  ได้อย่างเหมาะสมเสียยิ่งกว่าจนไม่อาจเทียบกันได้

วันนั้นเป็นวันเสาร์ที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง แทบไม่แตกต่างจากวันอื่นๆที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณห้าโมงเย็น ฉันกำลังเตรียมตัวกลับบ้านโดยการขี่มอเตอร์ไซค์แบบพ่วงข้าง หรือ ที่เรียกกันชินปากว่า ซาเล้งซึ่งที่บ้านของฉันมีอยู่

เส้นทางเป็นเส้นทางเดิมที่ฉันขี่ไปขี่มาอยู่ทุกวัน ฉันจำได้ดีว่าตรงไหนควรจะต้องระวัง ตรงไหนควรผ่อนความเร็ว ตรงไหนควรเข้าเกียร์อะไร ฉันค่อนข้างระมัดระวังมากจนเข้าขั้นระแวง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อตอนต้นปี ฉันประมาทจนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่ง อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ฉันต้องลางานติดกันหลายวันจนไม่ผ่านโปรกับที่ทำงานเก่ามาแล้ว ตัวฉันในตอนนี้กำลังเป็นพนักงานทดลองงานของที่ใหม่ได้เข้าเดือนที่สอง ฉันไม่อาจรับความเสี่ยงใดใดได้อีก

แต่เจ้าคำว่าความเสี่ยง มันก็หมายความว่ามันสามารถจะมีอะไรเกิดขึ้นได้เสมอแม้ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้น

ฉันมาถึงบริเวณทางโค้งหนึ่งก่อนทางเข้าบ้านของฉัน ห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้นจริงๆ ตอนนั้นฉันกำลังนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยและใช้ความเร็วมา 40 ก.ม/ช.ม. อย่างเคย แต่ว่าเมื่อกำลังจะพ้นโค้งไป ล้อหน้าก็ไปสะดุดเข้ากับอะไรสักอย่าง ที่จริงไม่กี่วินาทีก่อนที่จะไปถึงเจ้าสิ่งนั้นตัวฉันเห็นมันก่อนแล้ว แต่มันเป็นเวลาเสี้ยววินาทีจริงๆที่เห็น ฉันหลบไม่ทัน แต่ไม่รู้ว่าเหยียบอะไรเข้าไป จากนั้นทุกอย่างก็ราวกับถูกเร่งเวลาเร็วจนฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เมื่อรู้ตัวอีกที ฉันก็จมลงไปในน้ำที่มืดมิด เหม็น และฉันก็กำลังสำลักน้ำนั้น 

 

ฉันตายตรงนี้ไม่ได้ ไม่ใช่แบบนี้!!  นั่นคือเสียงที่ตัวฉันร้องบอกพระเจ้า

ฉันพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือผิวน้ำ แต่ความเจ็บแปลบรุนแรงจากข้อเท้าขวารวมถึงอะไรบางอย่างที่พันแน่นรอบขาขวาของฉัน มันทำให้ฉันไม่สามารถทำได้ ฉันรู้สึกจมลงไปยิ่งกว่าเดิมและยังคงมองอะไรในน้ำนั้นไม่เห็น ฉันพยายามออกแรงต่อไป

พระเจ้าช่วยด้วย ช่วยลูกด้วย!!

ในฉับพลันนั้น ฉันก็หลุดออกมาได้ ฉันออกแรงอีกครั้ง และตัวฉันก็สามารถโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้สำเร็จ ฉันต้องออกแรงอีกพอสมควรเพื่อตะเกียกตะกายจากจุดที่อยู่ขึ้นมาบริเวณกอหญ้าหนาทึบ เนื้อตัวฉันเต็มไปด้วยตะไคร่และโคลน ไม่นับรวมน้ำสกปรกที่กลืนลงไปอึกใหญ่ ฉันออกแรงจนเหนื่อยก็ไม่สามารถพาตัวเองกลับไปยังผิวการจราจรได้ ตัวฉันกระเด็นตกลงมาในแอ่งน้ำขังข้างหัวโค้ง เมื่อมองจากเบื้องล่างที่อยู่ขึ้นไปยังผิวการจราจรด้านบน ราวกับตัวฉันกำลังอยู่ในหุบเหวก็มิปาน อีกทั้งเวลานั้นฟ้ากำลังจะมืด ฉันรู้ดีว่าฉันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่านี้อีกแล้ว ฉันอธิษฐานในใจต่อไปให้พระเจ้าทรงช่วย และฉันก็ร้องสุดเสียงขอความช่วยเหลือ หวังให้ใครสักคนได้ยิน แม้บริเวณที่ฉันอยู่จะเป็นที่ซึ่งแทบไม่มีใครผ่านไปมาเลยในเวลาเย็นๆเช่นนั้น

แต่ไม่ใช่แค่ใครสักคนที่ได้ยินเสียงร้องของฉัน เพราะมีคนปรากฏตัวมาช่วยเหลือฉันมากกว่ายี่สิบชีวิต บ้านหลังหนึ่งในบริเวณนั้นมีการจัดงานที่บ้านพอดีทำให้มีคนได้ยินเสียงตอนที่ฉันเกิดเหตุและรีบรุดมาดู แม้ในตอนแรกพวกเขาจะหาตัวฉันไม่เจอเพราะมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของฉันไปจอดนิ่งอยู่ในป่ากล้วยคนละทิศกับที่ตัวฉันอยู่อย่างสิ้นเชิง แต่เพราะเสียงร้องของฉัน ทำให้พวกเขาพบและช่วยกันพาฉันขึ้นไปได้ ในจำนวนคนที่มานั้นมีญาติของฉันอยู่ด้วย เรื่องราวจึงง่ายขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าทุกคนมาอยู่อย่างถูกที่ถูกเวลาพอดีราวกับจับวาง ฉันที่ได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลยังคงปวดระบมและหนาวสั่น แต่รู้สึกโล่งใจและซาบซึ้งใจอย่างยิ่งกับทุกๆองค์ประกอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หากฉันไม่กระเด็นตกลงไปในน้ำ แต่ชนเข้ากับเหล็กกั้นแทน หากฉันหมดสติไปในน้ำ จนจมลงไปไม่มีใครพบตัว หากฉันใช้ความเร็วมากกว่านี้ หรือหากฉันไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และหากฉันประสบเหตุในยามวิกาล หากไม่มีใครมางานที่บ้านหลังนั้น หากปราศจากทุกองค์ประกอบดังกล่าว แน่นอนว่าฉันคงบาดเจ็บสาหัส หรือแม้แต่เสียชีวิตอยู่ที่โค้งนั้นแล้ว…

ฉันรู้ดีว่าในฐานะคริสเตียน เรามักอธิษฐานขอให้ไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย ขอให้เราคลาดแคล้วจากภัยทั้งปวง แต่ถ้อยคำของกษัตริย์ดาวิดพลันผุดขึ้นในใจขณะที่ฉันระลึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด

แม้ข้าพระองค์เดินผ่านหุบเขาเงาแห่งความตาย

ข้าพระองค์จะไม่หวาดกลัวความชั่วร้ายใดๆ

เพราะพระองค์สถิตกับข้าพระองค์

พระองค์ทรงปกป้องและนำทางข้าพระองค์

ทำให้ข้าพระองค์สบายใจ (สดุดี 23:4)

พวกเราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกับโรคระบาด แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุได้ พวกเราอาจจำเป็นต้องเดินผ่านหุบเขาเงาแห่งความตาย และฉันคงไม่สามารถบอกได้ว่าฉันอยากเดินผ่านมัน แต่ฉันรู้แน่อย่างหนึ่งว่า แม้ว่าเราต้องเดินผ่านหุบเขานั้น… เพราะพระเจ้าของเราอยู่ด้วย เราสามารถจะสบายใจได้ว่าการปกป้องอันอัศจรรย์จะมาถึงเรา

ทันเวลาเสมอ 🙂

YOU MAY ALSO LIKE

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน

WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ  สะสางงานต่างๆ  ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?

WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...

เสียงที่ดังพอ

เสียงที่ดังพอ

WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...

Share This