fbpx

เมื่อฟองสบู่ของคุณแตก

วันที่ 12 | พระธรรมประจำวัน

มีสิ่งสามานย์อย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ และสิ่งนั้นหนักสำหรับมนุษย์ 
คือคนหนึ่งคนใดที่พระเจ้าประทานความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติ และเกียรติให้ เขาไม่ขาดสิ่งใดเลย เขาได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาสำหรับตน แต่พระเจ้ามิได้ประทานความสามารถในการใช้สิ่งเหล่านี้ให้เขา คนแปลกหน้ากลับเอาไปใช้เสีย นี่ก็อนิจจังและเป็นความทุกข์ใจอย่างเลวร้าย 
แม้ว่าคนหนึ่งคนใดมีลูกสักร้อยคน และมีอายุยืนยาว ไม่ว่าเขาจะอยู่นานหลายปีแต่จิตใจเขาไม่ได้อิ่มด้วยความมั่งคั่งเลย และไม่มีงานฝังศพของตนด้วย ข้าพเจ้าว่าลูกที่เกิดมาแท้งเสียยังดีกว่าคนนั้น 
เพราะเด็กนั้นก่อตัวมาในความอนิจจังและจากไปในความมืด และชื่อเขาถูกปิดไว้ในความมืด 
ยิ่งกว่านั้นอีก เขายังไม่ทันเห็นหรือยังไม่ทันรู้จักดวงตะวัน เด็กคนนี้มีความสงบสุขยิ่งกว่าผู้ใหญ่นั้นเสียอีก 
เออ แม้ว่าเขามีชีวิตอยู่พันปีทวีอีกเท่าตัว แต่ไม่ได้ชื่นชมสิ่งดีอะไร ทุกคนต่างจบลงที่เดียวกันไม่ใช่หรือ?
การตรากตรำทั้งหมดของมนุษย์ก็เพื่อปากของเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้จักอิ่ม 
เพราะว่าคนมีสติปัญญาได้เปรียบอะไรกว่าคนเขลาเล่า? หรือคนยากจนที่รู้จักวางตัวต่อหน้าคนทั้งปวงก็ได้เปรียบอะไร? 
การเห็นด้วยนัยน์ตาก็ดีกว่าความปรารถนาที่ตระเวนไป นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง
10 สิ่งใดซึ่งมีอยู่เดี๋ยวนี้ เขาได้ตั้งชื่อเรียกสิ่งนั้นนานมาแล้ว และก็ทราบกันแล้วว่า มนุษย์คืออะไร และเขาไม่อาจโต้เถียงกับผู้แข็งแรงกว่าตนได้ 
11 ยิ่งพูดมากก็ยิ่งอนิจจังมาก แล้วมนุษย์ได้ประโยชน์อะไรเล่า? 
12 เพราะใครจะรู้ได้ว่าสิ่งใดดีสำหรับมนุษย์ในขณะดำเนินชีวิตตามวันเวลาของชีวิตที่อนิจจังของตนที่ได้เสียไปดุจดังเงาเล่า? หรือใครจะบอกกับมนุษย์ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นภายหลังเขาที่ภายใต้ดวงอาทิตย์?

โนอาห์หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เมื่อฟองสบู่ลอยวนอยู่เหนือหัวของเขา เขาวิ่งไล่ตามมันไป พอมันแตก เขาก็วิ่งไล่ฟองอื่นๆ ที่ตามมา เขามีความสุขมาก จนกระทั่งฟองสบู่สีรุ้งนั้นแตกหมดจนไม่เหลือแล้ว ความเบิกบานอันไร้เดียงสาของเด็กวัยสามขวบก็ถูกแทนที่ด้วยความผิดหวังจนหน้ามุ่ย

ช่วงเวลาที่อยู่กับลูกของเพื่อนตอนนั้นเตือนใจฉันว่า ตัวฉันเองก็ดิ้นรนวิ่งไล่ตามสิ่งที่ไม่จีรังของโลกนี้ ที่ให้ได้แต่ความพึงพอใจเพียงชั่วคราวเช่นกัน ฉันเคยฝันถึงความรักแบบเทพนิยาย ที่เจ้าหญิงในการ์ตูนดิสนีย์รอคอยเจ้าชายคนพิเศษ

สิบปีที่แล้ว ฉันคิดว่าตัวเองมีความรัก หลังจากนั้นแค่สองปีฉันก็ได้รับแหวนหมั้นมา ฉันตื่นเต้นเมื่อนึกถึงอนาคต ได้วางแผนเรื่องการแต่งงาน และจินตนาการว่าลูกของเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร

แต่ความสัมพันธ์นั้นก็จบลงอย่างรวดเร็ว แล้วโลกของฉันทั้งใบก็กลับตาลปัตรไปหมด หัวใจฉันสลาย แต่สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันเหมือนกับโนอาห์ เพื่อนตัวน้อยของฉันมากขนาดไหน ที่คอยวิ่งไล่ตามหลักกิโลที่โลกนี้มองว่าสำคัญ ฉันรู้แล้วว่า ฉันแค่หลงรักความคิดเรื่องการตกหลุมรัก และความคิดเรื่องการแต่งงาน

ในปัญญาจารย์ 6:7 ผู้เขียนกล่าวถึงการโหยหาที่ไม่มีวันอิ่ม อยากได้ในสิ่งที่เราต้องการแต่ไม่ได้ เขาแนะนำอย่างมีสติปัญญาให้เราตอบสนองและเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี “การเห็นด้วยนัยน์ตาก็ดีกว่าความปรารถนาที่ตระเวนไป” (ข้อ 9) เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นสิ่งที่คนอื่นมี แล้วรู้สึกขุ่นเคืองพระเจ้าที่อนุญาตให้บางคน “ได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาสำหรับตน” (ข้อ 2) คิดว่า “แล้วฉันล่ะ พระเจ้า?” เช่นเดียวกับที่ฉันรู้สึกอิจฉาเมื่อได้เห็นคู่รักที่อยู่รอบๆ ตัวฉัน

อย่างไรก็ตาม พระธรรมตอนนี้เตือนใจฉันว่า แทนที่จะมัวอยากได้แต่สิ่งที่ฉันไม่มี ฉันสามารถเรียนรู้ได้ว่า วาระนี้มีคุณค่าขนาดไหน

ตัวอย่างเช่น การเรียนเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาเปิดประตูให้ฉันได้พบและดูแลผู้คนจากหลากวัฒนธรรม หลายภูมิหลัง และมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันไป ทั้งผู้อพยพ คนติดยา คนเร่ร่อนทั้งชายและหญิง ผู้ขายบริการทางเพศ เหยื่อการทำทารุณ ผู้ป่วยทางจิต คนเหล่านี้อาจรู้สึกตนเองไม่สำคัญ ไร้คุณค่าและถูกสังคมปฎิเสธ เมื่อเราเทความรักของเราให้กับคนที่ต้องการมากที่สุด ตอนนั้นล่ะที่ความสว่างของพระคริสต์จะเจิดจ้าที่สุดเช่นกัน

เมื่อฉันได้ยินเรื่องราวของบางคนที่รักได้ยากสักหน่อย มันทำให้ฉันเห็นสิ่งที่ตัวเองเผชิญอยู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้ฉันเห็นคุณค่าผู้คนแสนดีที่อยู่รอบตัวและสิ่งต่างๆ ที่ฉันมีอยู่ แทนที่จะไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่รู้สึกเหมือนว่าขาดในชีวิต

ฉันยังหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้แต่งงาน ไม่ผิดอะไรที่เราจะปรารถนาการมีความสัมพันธ์ แต่เมื่อเราแสวงหาอะไรมากกว่าความรักของพระเจ้า สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นรูปเคารพไปอย่างง่ายดาย และทำให้เราละสายตาไปจากพระองค์และสิ่งที่พระองค์อาจเตรียมไว้ให้สำหรับชีวิตเราในช่วงนี้

ปัญญาจารย์บทที่ 6 ได้วาดภาพให้เราเห็นถึงสภาพอันสิ้นหวังของมนุษย์ ผู้เขียนหนังสือแห่งปัญญาเล่มนี้ พูดถึงความพยายามที่จะแสวงหาการเติมเต็มจากสิ่งที่เราปรารถนาว่าเป็นการ “กินลมกินแล้ง” (ข้อ 9) บางทีคุณอาจพบว่าตัวเองกำลังโหยหาอะไรอยู่เช่นกัน ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้คุณพยายามมองหาความสัมพันธ์ที่มีความหมาย ซึ่งพระเจ้าได้ประทานให้กับคุณ เราถูกสร้างมาเพื่อมีความสัมพันธ์ เป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะฉลองให้กับความชื่นชมยินดีซึ่งความสัมพันธ์เหล่านั้นนำมาให้เรา ในขณะที่เราถวายเกียรติแด่พระเจ้า

– โดย เด็บ ฟ็อกซ์ ประเทศออสเตรเลีย

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1. อะไรคือ “ฟองสบู่” ที่ดึงความสนใจของคุณไปจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า  แล้วสิ่งเหล่านั้นเป็นฟองสบู่ที่ “ดี” ที่คุณจำเป็นต้องนำเข้าไปไว้ในแผนการและเวลาของพระเจ้า หรือเป็นสิ่งที่คุณควรหยุดไล่ตามหา?

2. ใช้เวลาหนึ่งนาทีในการคิดว่า คุณจะเทความรักของพระเจ้าไปให้ชีวิตของผู้ที่กำลังต้องการมันในวันนี้ได้อย่างไร และ “ความต้องการ” อะไรที่เหนี่ยวรั้งคุณไว้จากการที่จะทำเช่นนั้น?    

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

เด็บเป็นคนบ้าประวัติศาสตร์ คลั่งไคล้ดนตรีแจ๊ส ชุดย้อนยุค การเต้นรำจังหวะสวิง การวาดภาพ และกาแฟ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับพระพรที่มีโอกาสแบ่งปันเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยข่าวประเสริฐ

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This