fbpx

มันไม่ยุติธรรมเลย!

วันที่ 7 | พระธรรมประจำวัน

16 ยิ่งกว่านั้นอีก ที่ภายใต้ดวงอาทิตย์ข้าพเจ้าเห็นว่า ในที่ของความยุติธรรมมีความอธรรมอยู่ด้วย และในที่ของความชอบธรรมมีความอธรรมอยู่ด้วย 
17 ข้าพเจ้ารำพึงในใจว่า พระเจ้าจะทรงพิพากษาคนชอบธรรมและคนอธรรม เพราะมีกาลกำหนดไว้สำหรับทุกเรื่อง และสำหรับการงานทุกอย่าง 
18 ข้าพเจ้ารำพึงในใจเกี่ยวกับบรรดามนุษย์ว่า พระเจ้าทรงทดสอบพวกเขาเพื่อจะสำแดงว่า พวกเขาเป็นเพียงสัตว์ 
19 เพราะว่าเคราะห์ของบรรดามนุษย์กับเคราะห์ของสัตว์นั้นเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็ตายเหมือนกัน ทั้งสองมีลมหายใจอย่างเดียวกัน และมนุษย์ไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ เพราะสารพัดก็อนิจจัง 
20 ทุกอย่างไปสู่ที่เดียวกัน ทุกอย่างเป็นมาจากผงคลีดิน และทุกอย่างกลับเป็นผงคลีดินอีก 
21 ใครจะรู้ได้ว่าวิญญาณของมนุษย์ไปสู่เบื้องบน และวิญญาณของสัตว์ลงไปสู่แผ่นดินโลก? 
22 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าที่มนุษย์จะเปรมปรีดิ์ในการงานของตน เพราะว่านั่นเป็นรางวัลของเขา ใครจะนำเขาให้เห็นว่าอะไรจะเป็นมาภายหลังเขา?

ถ้ามีอะไรสักเรื่องที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับตัวฉัน สิ่งนั้นก็คือฉันชอบทำให้คนอื่นพอใจ ดังนั้นเมื่ออดีตหัวหน้างานของฉันไม่ชอบฉันขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันจึงนำไปสู่ภาวะดำดิ่งทางอารมณ์ของฉัน เธอเริ่มพูดจากับฉันแรงๆ คอยบังคับให้ฉันแก้งานเสมอ และจ้องจับผิดไม่ว่าฉันจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม เธอยังส่งข้อความมาต่อว่าฉันด้วยความโกรธ และโทรหาบรรณาธิการของฉันดึกๆ เพื่อจะโวยวายเรื่องฉันให้เขาฟัง

เมื่อฉันต้องเผชิญการข่มเหงทางอารมณ์และทางวาจาแบบรายวัน ฉันก็เริ่มรู้สึกหมดแรง และร้องถามพระเจ้าว่า “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย? ฉันทำอะไรที่ทำให้สมควรได้รับสิ่งนี้? ทำไมฉันถึงได้รับการปฎิบัติแบบนี้?”

แน่นอนว่าการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ (แม่ของฉันเคยบอกว่า ชีวิตมันไม่ยุติธรรมหรอก ทำใจซะเถอะ) ในพระธรรมปัญญาจารย์ 3:16 ผู้เขียนได้ชี้ให้เราเห็นถึงความจริงอันน่าเศร้าที่ว่า ความอยุติธรรมและความอธรรมมีอยู่มากมายในที่ที่ควรจะมีความยุติธรรมและความชอบธรรม

แต่พระวจนะของพระเจ้าไม่ได้หยุดแค่ตรงนั้น ปัญญาจารย์ย้ำด้วยว่าพระเจ้าทรงมีอำนาจเหนือความอยุติธรรม และพระองค์ทรงใช้มันเพื่อเปิดเผยให้เราเห็นข้อจำกัดของมนุษย์ที่มีอยู่ ปัญญาจารย์ได้ยกตัวอย่างให้เห็นว่าเราทำตัวเหมือนสัตว์อย่างไร เมื่อเรากระทำสิ่งที่อยุติธรรม เราก็จะตายเช่นเดียวกับสัตว์ (ข้อ 18-19) ยิ่งไปกว่านั้น ซาโลมอนยังนำความสนใจของเราไปยังการพิพากษาสุดท้ายของพระเจ้าที่จะเกิดขึ้นในวันหนึ่ง สำหรับการงานทุกอย่างที่ทำไว้บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนอธรรมหรือคนชอบธรรม (ข้อ 17)

การรู้ในเรื่องนี้สอนฉันให้ละการสะสางความแค้นไว้ให้เป็นของพระเจ้า และวางใจในอำนาจและการพิพากษาของพระองค์ ตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไป สิ่งที่ฉันเห็นคือการที่พระองค์ทรงใช้สถานการณ์อยุติธรรมมานำให้ฉันเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น และนำคนอื่นๆ มาหาพระองค์ด้วย

ฉันมีโอกาสได้ทานข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่กำลังถูกหัวหน้างานคนเดียวกันนี้ข่มเหงเช่นกัน เราคุยกันยาวเลย ฉันยังได้อธิษฐานเผื่อเธอด้วย หลังจากนั้นเธอก็ลาออกจากบริษัทไป แต่เธอก็เคยมาที่โบสถ์ของฉัน บางครั้งเราก็นัดพบกันและอธิษฐานเผื่อกันและกัน

ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ประสบการณ์การเผชิญกับความอยุติธรรมนี้ ได้ปลูกฝังความเข้าใจและความซาบซึ้งในพระลักษณะของพระเจ้าและการจัดเตรียมของพระองค์ให้แก่ฉัน ตัวอย่างเช่น เมื่อหัวหน้าให้คะแนนประเมินประสิทธิภาพในการทำงานของฉันต่ำ ซึ่งทำให้ฉันได้รับเงินเดือนลดลง มันน่าแปลกที่ฉันไม่ได้รู้สึกช็อกหรือโกรธเมื่อได้รับแจ้งเรื่องการลดเงินเดือน ฉันกลับรู้สึกถึงสันติสุข การปลอบประโลมใจและความโปรดปรานจากพระเจ้าที่สัมผัสได้จากภายในตลอดการพูดคุยในเรื่องนั้น

แน่นอนว่า มันมีช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าสถานการณ์ของฉันมันช่างไม่เสมอภาคและอยุติธรรมอย่างแรง แต่บ่อยครั้งความรู้สึกขมขื่นเหล่านั้นก็ถูกบดบังไปด้วยความรู้ที่ว่า พระเจ้าในฐานะผู้พิพากษาอันยุติธรรม ทรงเห็นการงานที่ฉันทำและเห็นหัวใจของฉันที่วางไว้ตรงหน้าพระองค์ สิ่งนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ฉันทำงานอย่างดีที่สุดต่อไป และอธิษฐานเผื่อหัวหน้าของฉันด้วยความเชื่อและมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่กับฉันเสมอ

แม้ว่าทุกๆ วันที่ฉันต้องเจอกับหัวหน้างานเป็นความทรมานอย่างยิ่ง แต่พระเจ้าได้ประทานพระคุณและสันติสุขให้แก่ฉันทุกครั้งที่ต้องเจอกับเธอ และท้ายที่สุด พระองค์ทรงเปิดทางออกให้แก่ฉัน ภายในเวลาหนึ่งเดือนฉันก็ถูกย้ายไปทำงานแผนกอื่น ซึ่งหัวหน้างานปัจจุบันของฉันเป็นคนใจดี หกเดือนต่อมา ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเริ่มสอบสวนหัวหน้าเก่าของฉัน ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปทำบทบาทอื่นหลังจากนั้น

การเรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้าในการเผชิญความอยุติธรรมได้ปลดปล่อยฉันจากภาระหนักของการไม่ให้อภัย การจดจำความผิด และการแสวงหาการแก้แค้น พระวจนะของพระองค์สอนฉันให้เลือกสิ่งที่ดีกว่า นั่นคือการทำให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงพอพระทัย การขอบคุณพระองค์ และการแสวงหาความชื่นชมยินดีในชีวิตและการงาน ไม่ว่าหัวหน้างานที่เป็นมนุษย์ของฉันจะเป็นใครก็ตาม (ปัญญาจารย์ 3:22)

– โดย เวนดี้ หว่อง ประเทศสิงคโปร์

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1. ปกติแล้ว คุณตอบสนองต่อสถานการณ์อยุติธรรมอย่างไร? ความจริงข้อใดที่คุณพบจากพระธรรมตอนนี้ที่อาจช่วยให้คุณละการสะสางความแค้นไว้และวางใจให้พระเจ้าทรง “พิพากษาการงานทุกอย่าง” (ข้อ 17)?

2. คุณกำลังเผชิญสถานการณ์อยุติธรรมที่ดูเหมือนอยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณอยู่หรือไม่? ให้จดสิ่งเหล่านั้นออกมาและนำไปร้องทูลต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

วันที่สมบูรณ์แบบของเวนดี้ต้องมีการกินเนยถั่ว มีการไปเดินชมธรรมชาติกับสามีของเธอ และการมีเวลาพักพิงในพระเจ้า เธอหวังว่าจะถวายเกียรติพระเจ้าผ่านการดำเนินชีวิตและงานเขียนของเธอ

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This