14/02/2021
พระเจ้าทรงจัดเตรียม “คนนั้น” ไว้สำหรับคุณและคำแนะนำอื่นๆ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ARTWORK BY: Mustard Seed
ARTWORK TYPE/MEDIUM: iIlustration
ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

คุณเป็นคริสเตียนโสดที่มีความหวังว่าจะได้พบกับคู่พระพร แต่ดูเหมือนว่าคนที่เข้าตาแล้วแต่ออกเดทกันได้นั้นช่างน้อยเหลือเกิน ทั้งในโบสถ์และในที่ทำงานของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คุณมีอยู่เสมอนั่นก็คือคำแนะนำจากเพื่อนๆ และคนรู้จักอีกหลายคน พวกเขากระตือรือร้นที่จะเห็นคุณมีแฟนจริงๆ
ถึงแม้เพื่อนๆ ของเราจะหวังดี แต่คำแนะนำของพวกเขาอาจชี้นำเราไปถึงจุดที่เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไปแทนที่จะมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง วิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกได้คือ การประเมินสิ่งที่เราได้ยินกับพระวจนะพระเจ้าที่พูดเกี่ยวกับความรัก ให้เราเปิดใจเชิญพระคริสต์เข้ามานำทางความสัมพันธ์ของเราผ่านสถานการณ์ที่ทั้งดีและไม่ดีกันเถอะ
หมายเหตุ : หากสิ่งที่คุณได้อ่านในบทความนี้ทำให้รู้สึกกลัวและรู้สึกเหมือนไม่มีทางจะเป็นไปได้ อย่าเพิ่งท้อไป! บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในเส้นทางการออกเดทของคุณและให้คุณเพลิดเพลินกับสิ่งที่น่าตื่นเต้นร่วมกับพระคริสต์ตลอดเส้นทางนี้

ท้องไส้ปั่นป่วน ฝามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ ความรู้สึกซาบซ่านและความตื่นเต้นในขณะที่คุณได้พบกับ “คนที่น่าจะใช่” หรือว่าคนนี้จะเป็นคนที่พระเจ้าจัดเตรียมให้สำหรับฉัน? คุณอาจคิดแบบนี้
พวกเราหลายคนคงเคยได้ยินว่า พระเจ้าได้เตรียมคนคนหนึ่งไว้สำหรับเราโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้เรามีความวิตกกังวลและกลัวว่าจะเลือก “ผิดคน” หรือรู้สึกเหมือนว่าเราอาจพลาด “รางวัลชนะเลิศ” ไปแล้วเมื่อความสัมพันธ์นั้นล้มเหลว
แต่พระคัมภีร์ไม่เคยกล่าวว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียม “คนนั้น” สำหรับเรา ในทางกลับกัน เราได้รับอิสระในการตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับใคร แต่อิสระนั้นควรอยู่บนพื้นฐานของพระคัมภีร์ การอธิษฐานและการช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้างเรา พระองค์จะทรงประทานสติปัญญาให้เราในการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบว่าคนๆ นั้นสามารถเป็นคู่ครองที่ดีของเราได้หรือไม่ (ยากกอบ 1:5)

พวกคุณต่างส่งข้อความน่ารักมุ้งมิ้งหากันจนมือถือแทบระเบิด หลายคืนที่ออกเดทกันและหัวเราะจนน้ำตาไหล จนคุณแทบไม่สามารถรอเวลาที่จะได้พบกันอีก คู่เดทของคุณทำให้คุณมีความสุขมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่ความสัมพันธ์ที่ดีมักก่อให้เกิดความสุข แต่สิ่งนี้ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้ในการคิดหาคำตอบว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนที่ใช่ของเราจริงหรือเปล่า วิธีที่เหมาะสมกว่าควรจะเป็นการขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากกลุ่มเพื่อนที่น่าเชื่อถือของเรา พวกเขามีข้อกังวลหรือไม่และอย่างไรเกี่ยวกับคนที่เรากำลังคบหาอยู่ หรือคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่นี้?
สุภาษิต 12:5 กล่าวไว้ว่าคนชอบธรรมฟังความคิดเห็น และเมื่อมาถึงเรื่องที่เกี่ยวกับความรักและการคบหากัน ไม่ใช่เรื่องงี่เง่าถ้าเพื่อนจะเตือนเราถึงจุดอันตรายหรือจุดบอดในความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่จะ พวกเขาอาจช่วยให้เรามองเห็นได้ดียิ่งขึ้น

คุณได้พบคนที่คุณกำลังแอบชอบหรือสนใจอยู่ และรู้สึกว่ามีความเข้ากันได้ระหว่างคุณสองคน แต่หลังจากที่ออกเดทกันสองสามครั้ง คุณรู้สึกเข้ากับเขาไม่ได้ คุณไม่แน่ใจว่าควรจะหยุดความสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนนี้หรือไม่
ความจริงคือ เราจำเป็นต้องทุ่มเทเวลาในการทำความรู้จักอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลงลึกยิ่งขึ้น
คุณจะพบว่าความสัมพันธ์ของคุณจะมั่นคงแข็งแรงเหมือนสุภาษิตที่ว่า “เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนให้เฉียบแหลมได้ฉันนั้น” (สุภาษิต 27:17) ในช่วงเวลาแห่งการแบกรับภาระของกันและกัน (1 เธสะโลนิกา 5:11, ฮีบรู 10:24) และช่วยเสริมสร้างกัน (กาลาเทีย 6:2) การทำสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเราให้รู้จักบุคคลิกลักษณะและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆของอีกฝ่าย แต่ยังช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าเราพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขาหรือเปล่า

เมื่อคุณมีความรู้สึกดีๆ กับเขาคนนั้นมากขึ้น คุณย่อมมีความคาดหวังในตัวเขาเช่นกัน หลังจากได้รับเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ คุณเริ่มประเมินค่าของขวัญที่เขาให้คุณ หรือสิ่งที่เขาทำเพื่อให้คุณประทับใจ “เขาพาคุณไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ร้านหรู หรือเซอร์ไพรส์คุณโดยการมาหาโดยไม่บอกล่วงหน้า?” คุณอาจเริ่มสงสัยว่าเขาสนใจคุณจริงหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้หรือทำอะไรที่พิเศษเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาแคร์คุณมากแค่ไหน
ทุกคนสมควรได้รับความรักที่แท้จริง แต่การคาดหวังว่าใครสักคนจะต้อง “รักเรามากกว่า” ที่เรารักเขานั้น ทำให้เราดูเหมือนกำลังเล่นกับความรู้สึกของผู้อื่น เราใช้จุดอ่อน และความใจดีของเขาเพื่อผลประโยชน์และความมั่งคั่งของเรา
1 โครินธ์ 13:3-8 กล่าวว่าความรักไม่ใช่การเห็นแก่ตัวเอง แต่เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของอีกฝ่ายเสมอ เราจะให้เกียรติคนที่เรากำลังออกเดทด้วยและให้มากกว่าที่เราได้รับได้อย่างไร?

เมื่อคุณเปิดใจที่จะคบหาใครสักคน และเริ่มมองหาคนที่น่าจะเป็นคู่พระพรของคุณได้จาก คนในโบสถ์และในกลุ่มสามัคคีธรรม ในไม่ช้า เกือบทุกคนที่คุณรู้จักก็พยายามที่จะแนะนำคุณให้รู้จักกับคนที่พวกเขารู้จักเพียงผิวเพิน เพียงเพราะเขาเหล่านั้นเป็น “คริสเตียน”
คุณไปออกเดทกับเขา 2-3 ครั้ง และดูเหมือนสิ่งต่างๆ จะเป็นไปด้วยดี แต่ถ้าคุณกำลังมองหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน จะดีมากถ้าคุณจะถามคำถามเหล่านี้ เช่น พวกเขามีผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตหรือเปล่า (กาลาเทีย 5:22-23)? พวกเขาดูแลผู้ที่ถูกลืมหรือผู้เล็กน้อยหรือไม่? (มัทธิว 25:40) พวกเขามีความต้องการที่จะเติบโตเหมือนพระคริสต์ (1 เปโตร 2:2) และจัดเวลาเพื่อทำสิ่งนี้ให้ได้หรือไม่? นี่เป็นเพียงบางคำถามที่จะช่วยให้เราประเมินความเป็นไปได้ว่าคู่พระพรในอนาคตของเราคือคนที่ตั้งใจจริงที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่ (กิจการ 13:22)
ที่จริง ชีวิตคริสเตียนมีมากกว่าการบอกว่าเราเป็นคริสเตียนจงมองหาคนที่ทำอย่างที่เขาพูดด้วย!

ไฟฟ้าสถิตเมื่อมือของพวกคุณสัมผัสกัน เสียงหัวใจเต้นตึกตักดังแว่วอยู่ในหู แววตาในดวงตาคู่นั้นและรอยยิ้มที่น่ารักของเธอมีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ใจคุณละลาย
แม้การดึงดูดทางกายเมื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ จะมีความสำคัญ แต่ก็จะจางหายไปตามกาลเวลา ดั่งที่สุภาษิต 31:30 กล่าวไว้ว่า “เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ” และแท้จริงเราคงต้องการอะไรที่มากกว่าการใช้เสน่ห์หรือความงามเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาว
แทนที่จะโฟกัสที่ความรู้สึก “สปาร์ค” ยังมีลักษณะที่น่าสนใจอื่นๆ ที่ควรมองหา เช่น เขามีหัวใจที่เอื้ออาทรหรือมีน้ำใจไหม? หรือเขามีความเชื่อที่เติบโตขึ้นโดยผ่านมรสุมชีวิตมาอย่างโชกโชนหรือเมื่อเขาจะตัดสินใจสิ่งใด เขาทำมันบนพื้นฐานแห่งความยำเกรงพระเจ้าหรือไม่? ให้คุณสมบัติเหล่านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของคุณให้ไปต่อได้ แม้ความรู้สึกซาบซ่านเมื่อตอนเริ่มต้นนั้นจะมอดไปแล้วก็ตาม

มีคนบอกว่าคุณนั้นทั้งฉลาดและมีอารมณ์ขัน และใครก็ตามที่ได้คุณเป็นแฟนเขาคนนั้นช่างโชคดีจริงๆ และเกือบทุกครั้งที่จะตามด้วยประโยคนี้ “คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”
แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร? นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถคบหาคนที่เป็นอาสาสมัครทำความสะอาดห้องน้ำที่โบสถ์ทุกๆ วันอาทิตย์ เพราะคุณอยู่ทีมนมัสการหรือเปล่า? หรือคุณจะเลิกกับแฟนถ้าเขาไม่สามารถซื้อของขวัญราคาแพงให้คุณ?
“เหมาะสมที่จะได้รับสิ่งดีที่สุด” ความคิดนี้แทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานะของคนคนหนึ่ง รวมถึงราคาของของขวัญ ที่เขาจะสามารถให้เราได้ แทนที่จะประเมินว่าเขาคนนั้นคือ “คนที่ดีที่สุด” หรือไม่จากสิ่งเหล่านี้ ขอให้เลือกคนที่ให้คุณค่าหรือมีเป้าหมายชีวิตที่สอดคล้องกับเรา และมุ่งมั่นไปด้วยกันในการมีชีวิตที่เหมือนพระคริสต์ (ฮีบรู 10:24) คุณเห็นของประทานอะไรในตัวเขา? จงหาทางช่วยเขาให้เติบโตขึ้นด้วยการพัฒนาของประทานเหล่านั้น
YOU MAY ALSO LIKE
สรุปปัญญาจารย์บทที่ 1-2
อ่านบทเฝ้าเดี่ยวฉบับเต็มได้ที่นี่ October 11, 2021October 12, 2021October 13, 2021October 14, 2021October 15, 2021October 15, 2021October 16, 2021October 17, 2021October 18, 2021October 19, 2021October 20, 2021October 20, 2021October 21, 2021October 22, 2021October...
เมื่อสติปัญญาไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
เมื่อสติปัญญาไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า วันที่ 16 | พระธรรมประจำวัน 13 ข้าพเจ้าเห็นเรื่องปัญญาภายใต้ดวงอาทิตย์ และเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โตดังต่อไปนี้ 14 ยังมีเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง มีคนอยู่ในเมืองนั้นน้อยคน แล้วมีมหาราชามาตีเมืองนั้น และล้อมเมืองนั้นไว้...
คุณกำลังฟังใครอยู่?
คุณกำลังฟังใครอยู่? วันที่ 20 | พระธรรมประจำวัน 8 ปัญญาจารย์ว่า อนิจจัง อนิจจัง สารพัดก็อนิจจัง 9 นอกจากท่านเป็นคนมีปัญญาแล้ว ปัญญาจารย์ยังสอนความรู้ให้ประชาชนอีกด้วย เออ ท่านพิเคราะห์ ท่านค้นคว้า และท่านเรียบเรียงสุภาษิตไว้มากมาย 10 ปัญญาจารย์เสาะหาถ้อยคำที่เพราะหู...
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)