fbpx
WRITER: มิไคล่า บิสสัน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ชลิดา สุภาแสน
EDITOR: อาเกียว

ปีแรกหลังจากที่ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัย ฉันได้ฝึกงานและได้งานชั่วคราวที่โรงเรียนเก่าของฉัน แต่เมื่องานชั่วคราวสิ้นสุดการว่าจ้างลง ฉันก็ต้องรีบหางานจริงๆ ที่มั่นคงสักที

ในเวลานี้แหละที่ฉันเริ่มอธิษฐานกับพระเจ้า ขอให้พระองค์ช่วยฉันที่จะหางานประจำได้

แต่อย่างไรก็ตาม ปลายฤดูร้อนหลังจากจบมหาวิทยาลัยฉันก็ยังคงไม่ได้งาน และได้ย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ของฉัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะทำมัน ทุกๆ วันฉันจะร่อนใบสมัครงานออกไป งานแล้วงานเล่า และเมื่อฉันได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่ไม่มีการตอบรับกลับมา บริษัทมักจะตัดสินใจจ้างคนภายในเสมอ หรืออยู่ดีๆ ตำแหน่งงานนั้นก็หายไปดื้อๆ

ในที่สุดฉันตัดสินใจใช้ความเชื่อ พร้อมกับเงินออมสำหรับใช้ได้สักสองสามเดือน(ในเวลานั้นฉันแน่ใจว่าฉันจะได้งานนะ ฉันคิดแบบนั้น?) และย้ายเข้าเมืองที่ฉันต้องการจะอยู่และทำงาน

หนึ่งเดือนผ่านไป เงินในบัญชีของฉันก็เริ่มร่อยหรอ และฉันยังไม่ได้งาน ฉันสิ้นหวังกับความเชื่อที่ว่าพระเจ้าจะประทานสิ่งที่ฉันต้องการมากๆ นั่นคืองาน ท้ายที่สุดเมื่อฉันเหลือเงินแค่ 100 ดอลล่าร์ ฉันจมอยู่กับภาวะซึมเศร้า ตอนนี้พระเจ้าของฉันอยู่ที่ไหน? พระองค์ไม่เห็นหรือว่าฉันกำลังทนทุกข์และร้องเรียกหาพระองค์อยู่ตลอดเวลา?

มากสุดในข้อดีที่ฉันหวังไว้สำหรับการร้องทุกข์นี้คือจะนำฉันเข้าใกล้พระเจ้า แต่มันกลับตรงกันข้าม

ฉันโกรธเคืองพระเจ้า เริ่มตั้งแต่วินาทีที่ฉันตื่นนอนจนเข้านอน ฉันคาดหวังว่าพระองค์จะทรงดูแลฉัน หรืออย่างน้อยก็ทรงฟังฉัน แต่ในทุกๆ วันที่ฉันได้ยินคือคำว่า “ไม่” หรือไม่ก็ความเงียบสนิท

เดินกับพระเจ้าด้วยความโกรธ

การไปโบสถ์และการมีความเชื่อเป็นความสม่ำเสมอในชีวิตของฉัน แต่บางครั้งมันก็ยากสำหรับฉันที่จะต้องไปโบสถ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคำเทศนาเรื่อง “อาชีพ” มันทำให้ฉันต้องต่อสู้ทั้งน้ำตาและความผิดหวัง แต่ฉันยังคงได้เรียนรู้บางสิ่งเกี่ยวกับพระเจ้าและตัวฉันในทุกๆ สัปดาห์

ช่วงเทศกาลมหาพรต(40 วัน) ก่อนเทศกาลอีสเตอร์จะมาถึง ในเดือนกุมภาพันธ์ ฉันได้เห็นอะไรมากขึ้น เพราะฉันได้มีเวลาที่เดินไปกับพระเจ้าในความโกรธนั้นผ่านการใคร่ครวญเมื่อเข้าร่วมพิธี และการตอบสนองต่อช่วงอดอาหารนี้ ฉันเริ่มเห็นว่าพระองค์ทรงอวยพรฉันมากแค่ไหนผ่านบ้านที่ฉันอยู่ การสนับสนุนจากพ่อและแม่ที่ยินดีต้อนรับฉันกลับบ้านเสมอเมื่อฉันต้องการ

ขณะที่ฉันยังคงดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางความโกรธเคืองในช่วงถือศีลอดนั้น ฉันสะดุดกับเรื่องราวในพระคัมภีร์ที่นำฉันไปยังมุมมองใหม่ในการจัดเตรียมของพระเจ้า

เรื่องราวนั้นอยู่ในพระธรรมยอห์น 11:1-6 พระเยซูทรงทราบว่าเพื่อนรักของพระองค์คือ ลาซารัส กำลังป่วยอยู่ จากพระคำตอนนี้เรารู้ว่าพระเยซูเป็นเพื่อนกับมารีย์ มารธา และลาซารัส(3 คนนี้เป็นพี่น้องกัน) แต่เมื่อมารีย์และมารธาส่งข่าวถึงพระเยซู พระองค์กลับทรงพักอยู่ที่นั่นต่ออีกสองคืนก่อนกลับเข้าไปในแคว้นยูเดีย อยู่ต่ออีกสองคืนเชียวเหรอ? พระเยซูกำลังคิดอะไรอยู่? เพื่อนรักของพระองค์กำลังต้องการการรักษาจากพระองค์อย่างมาก แต่พระองค์ทรงเลือกที่จะอยู่ในแคว้นยูเดียในขณะที่ลาซารัสกำลังป่วยใกล้ตาย

เพื่อได้เห็นพระเกียรติสิริของพระเจ้า

เหตุการณ์นี้ในพระคัมภีร์มักทำให้ฉันสับสนอยู่เสมอว่า ทำไมพระเยซูไม่เสด็จไปหาลาซารัสทันที? แต่เมื่อฉันได้อ่านเรื่องการรอคอย ในบทเรียนพระคัมภีร์เกี่ยวกับการอดทน ความหวัง และการไว้วางใจ โดย ชาร์ลา ฟริตซ์ ฉับกลับได้มุมมองใหม่ที่ชัดเจนว่าทำไมพระเยซูทรงทำแบบนั้น

ยอห์น 11:5-6 ได้กล่าวว่า

พระเยซูทรงรักมารธาและน้องสาวของนางและลาซารัส เมื่อพระองค์ทรงได้ยินว่าลาซารัสป่วย พระองค์กลับทรงพักอยู่ต่ออีกสองวันในที่ที่พระองค์ประทับอยู่นั้น

พระคำตอนนี้เปลี่ยนแปลงทุกๆ สิ่ง เพราะพระองค์ทรงรักคนเหล่านี้ พระองค์ทรงประทับอยู่ต่อ

หลังจากนั้นในบทเดียวกัน กล่าวว่า

พระเยซูทรงตรัสว่า “เราบอกเธอแล้วไม่ใช่หรือว่า ถ้าเธอเชื่อ ก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า?”… พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า “ลาซารัส ออกมาเถิด”ร่างนั้นก็ออกมา มีผ้าพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย(ยอห์น 11:40-44)

ทำไมพระเยซูจึงทรงประทับอยู่ที่เดิมต่อ? ก็เพื่อสำแดงพระเกียรติสิริความยิ่งใหญ่ของพระองค์ผ่านสถานการณ์นี้ โดยการทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากความตาย หลังจากที่เขาตายไปแล้วถึงสี่วัน เพื่อสำแดงให้เห็นว่าแม้สิ่งที่ดูเหมือนหมดหวัง พระองค์ทรงทำให้เป็นไปได้ และพระองค์เป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้ เพื่อเตือนใจเราว่าพระองค์ทรงมองการณ์ไกลจึงทรงกระทำสิ่งใหญ่ได้เกินกว่าที่เราจะสามารถคาดคิดหรือจินตนาการได้

แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจ

เมื่อฉันยังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ฉันตระหนักว่าแท้จริงพระเจ้าไม่ได้เป็นหนี้ฉันในเรื่องการงาน แทนที่ฉันจะเรียกร้องให้พระองค์ประทานงานให้ฉันตามที่ได้วางแผนไว้ ฉันควรอธิษฐานต่อพระองค์ถึงความต้องการ รวมถึงความผิดหวังของฉัน และยอมจำนนต่อคำตอบที่พระองค์จะให้ตามแผนการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอบคุณพระเจ้าที่แผนการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เกิดขึ้นกับฉันจริงๆ ฉันได้งานเต็มเวลา เป็นงานที่มั่นคง ซึ่งเป็นงานที่ยอดเยี่ยมในพันธกิจที่ฉันสามารถเติบโตในด้านอาชีพและในความเชื่อของฉันด้วย สิ่งนี้ดีกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก 

พระเจ้าเป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้ เพราะพระองค์ทรงทำสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ สำหรับสถานการณ์ของมารีย์และมารธา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเธอคือน้องชายของพวกเธอได้ฟื้นขึ้นจากความตาย เพราะสิ่งนี้แสดงถึงความยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงทำได้

แต่ ณ จุดนี้ในชีวิตของฉัน ฉันยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมการรอคอยการงานในช่วงนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน

แม้ว่าการรอคอยช่วยทำให้ฉันวางใจในพระเจ้าและในแผนการของพระองค์ แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะถวายเกียรติพระองค์ได้อย่างไร และถึงแม้ฉันจะยังไม่เข้าใจ แต่บัดนี้ฉันรู้แน่ว่าฉันสามารถวางใจพระองค์ได้สำหรับการจัดเตรียม ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูไม่เป็นไปตามที่ฉันต้องการก็ตาม

และแม้ว่าฉันยังรู้สึกสับสนในประสบการณ์ทั้งหมดนี้ แต่ฉันรู้ว่าพระเยซูทรงเข้าใจความสับสนทั้งหมดที่ฉันมี รับรู้ความผิดหวังทั้งหมดของฉัน และยินดีต้อนรับฉันอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระองค์ เหมือนที่พระองค์ทรงร้องไห้กับมารีย์ในการสูญเสียน้องชายของเธอ(ยอห์น 11:33-35) แม้ว่าพระองค์รู้อยู่แล้วว่าพระองค์จะทรงชุบให้ลาซารัสกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

YOU MAY ALSO LIKE

สรรเสริญวันสะบาโตด้วยการวางทุกสิ่งลง

สรรเสริญวันสะบาโตด้วยการวางทุกสิ่งลง

WRITER: จาเนล ไบเทนสไตน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: Mustard Seed Team ในฤดูร้อนปี 2016 ครอบครัวของฉันขนข้าวของจากประเทศยูกันดาขึ้นเครื่องบินไปอเมริกาเป็นเวลาหกเดือน ระหว่างจัดกระเป๋าสำหรับวันหยุดยาวนี้ ฉันมีความรู้สึกขัดแย้งบางอย่าง...

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

WRITER: ราเชล มอร์แลนด์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: ธนากร พูลสินกูล ฉันไม่มีทางลืมครั้งแรกที่ฉันเริ่มมีอาการตื่นตระหนกได้ (ความรู้สึกกลัวหรือไม่สบายใจอย่างมาก) เกิดขึ้นในปีที่ 2...

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

WRITER: มาร์ค สตอร์เมนเบิร์ก ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผมทำบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนคือ การที่ผมร้องไห้ให้กับนักแสดง ผมไม่ใช่คนที่คอยตามข่าวดาราหรือหมกมุ่นกับชีวิตของดาราฮอลลี่วู้ด...

Share This