#LIFEGOALS
Writen by แอนดริว คอยน์
Original Resource from YMI
เวลาที่เราอยู่ในโลกโซเชี่ยล เราก็จะเห็นอะไรซ้ำๆ เดิม เช่น รูปเซลฟี่ของเพื่อนเรา รูปอาหารที่มีการปรับแต่งสีด้วยการใช้ฟิลเตอร์ หรือจะเป็นรูปหมู่ที่ทุกคนกำลังโพสท่าด้วยกัน แต่นานๆ ที ก็จะมีบางรูปที่ดึงดูดความสนใจของเราได้จริงๆ
มันอาจจะเป็นรูปจากทริปล่าสุดแสนประทับใจของเพื่อนเราในช่วงวันหยุดยาว อาจจะเป็นสตอรี่ในอินสตาแกรมของเพื่อนสมัยมัธยมที่กำลังปาร์ตี้อยู่บนเรือยอร์ชลำยักษ์ หรืออาจจะเป็นรูปงานแต่งงานที่ดูสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของอินฟลูเอ็นเซอร์ที่เราติดตาม ใจคุณเริ่มคิดไปแล้วและแฮชแท็กที่ใช้บรรยายภาพเหล่านั้นก็ยืนยันว่า มันคือ #lifegoals
ตามที่ชื่อแฮชแท็กได้กล่าวไว้ life goals (เป้าหมายในชีวิต) หมายถึง ความสำเร็จหรืออะไรก็ตามที่เราอยากได้มาในชีวิต เป้าหมายในชีวิตที่คนมักตั้งไว้รวมถึงการซื้อบ้านเป็นของตัวเองซักหลังนึง การมีความรัก และการท่องโลกกว้าง เป้าหมายในชีวิตทำให้เรามีบางสิ่งที่เราต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา เมื่อเรารู้ว่ามีสิ่งที่เราต้องทำให้สำเร็จ เป้าหมายเหล่านั้นก็ทำให้เรามีความมุ่งมั่น และมีแรงบันดาลใจในการลงมือทำมันอย่างตั้งใจ
งานประจำที่ทำอยู่ทำให้เรารู้สึกหนักใจหรือเปล่า? แต่อย่ากังวลไปเลย จำได้มั้ยว่าเรากำลังเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวสแกนดิเนเวียไง หรือว่ากำลังเครียดอยู่กับการอ่านหนังสือสอบตอนดึกๆ ล่ะ? นี่ไง ให้มองภาพรถสปอร์ตสุดหรูที่เราจะสามารถซื้อได้หลังเรียนจบได้เกรดดี แล้วจะได้งานดีๆ มีเงินเดือนสูงๆ
ความคิดเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนในยุคนี้ แต่ดูเหมือนการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นนั้น เป็นลักษณะของมนุษย์มานานแล้ว ผู้คนถึงได้ยอมลำบากเดินทางข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่ออพยพไปอยู่สหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวยุโรปในยุคนั้นได้ยินเรื่องโอกาสในชีวิตที่รออยู่ พวกเขาก็ไม่รีรอที่จะแพ็คกระเป๋ารีบย้ายไปทวีปอเมริกา ด้วยความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน พวกเรายังคงเห็นผู้ลี้ภัยและผู้อพยพย้ายไปอยู่ที่ต่างๆ ทั่วโลก
สื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อเป้าหมายในชีวิตของเรา
การเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์ทุกวันนี้ ทำให้เรามองเห็นวิถีชีวิตของคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของเรา ดารา ไปจนถึงนักกีฬาหลายๆ คน ที่เราอาจไม่มีโอกาสเจอพวกเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตด้วยซ้ำ สื่อสังคมออนไลน์ทำให้เราได้เห็นว่าพวกเขากินอะไร ซื้ออะไร ทำอะไรกันบ้าง และนั่นอาจจะมีอิทธิพลต่อความปรารถนาของเรา
ปกติแล้ว แฮชแท็ก #lifegoals ที่เราเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นเรื่องฟิตเนส บ้านสวยหรู รถสปอร์ต คู่รักที่ดูดีเหมาะสมกัน หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป ดูเหมือนว่าเมื่อเราได้รู้เห็นความหรูหราของคนอื่นๆ เราก็จะเริ่มปรารถนาสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อันตรายก็คือ เป้าหมายในชีวิตสามารถกลายเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจของเราได้ เมื่อเรารู้สึกว่าชีวิตของเรายังไม่อยู่ในจุดที่เราต้องการ เราอยากให้มันดูต่างไปจากนี้ เรายังต้องการอะไรที่ดีกว่านี้ และเมื่อเราเห็นเพื่อนๆ ของเรามีชีวิตที่ดีและมีความสุข เรากลับกลายเป็นรู้สึกอิจฉาในวิถีชีวิตและความสำเร็จของพวกเขา เมื่อเทียบดูแล้ว ชีวิตของเราดูจะยังไม่ดีพอ
เรารู้สึกพอใจกับรูปร่างของตัวเองแล้วอย่างนั้นเหรอ? เชื่อได้ว่าเราอาจไม่พอใจขึ้นมาทันทีที่เห็นรูปเพื่อนบ้านของเราที่หุ่นผอมเพรียว หรือรูปร่างเหมือนนักกีฬา โพสท่าถ่ายรูปหลังออกกำลังกายเสร็จ แล้วรถที่อำนวยความสะดวกให้เราเป็นอย่างดีมา 2-3 ปีแล้วล่ะ? พอเราเห็นเพื่อนลงรูปรถสปอร์ตคันใหม่เอี่ยมของเขา เราคงคิดอยากจะอัพเกรดรถของเราบ้าง แล้วไหนจะเรื่องวันหยุดหน้าร้อนที่ผ่านมาอีกล่ะ เราได้ใช้เวลาดีๆ พักผ่อนกับครอบครัวของเราก็จริง แต่ถ้าเทียบกับวันหยุดหน้าร้อนของเพื่อนที่จัดทริปไปยุโรปล่ะ?
กลายเป็นว่า เราบอกตัวเองว่าเราจะไม่พอใจจนกว่าเราจะทำเป้าหมายในชีวิตได้เหมือนกับที่เราเห็นในโลกโซเชี่ยล และบอกตัวเองว่า ชีวิตจะดีกว่านี้ ถ้าเราได้โพสต์ประสบการณ์และความสำเร็จที่เราคู่ควรกับการติดแฮชแท็ค #lifegoals บ้าง
ปัญหาของความคิดแบบนี้ก็คือ ผลลัพธ์ของความพยายามของเราน่าจะจบลงที่ความยังไม่พอใจกับชีวิตของเราเองมากยิ่งขึ้น
เป้าหมายในชีวิตไม่เคยทำให้เรารู้สึกพอใจ
จิม แครี่ นักแสดงตลกผู้ประสบความสำเร็จ เคยเขียนข้อความในทวิตเตอร์ว่า “ผมคิดว่าทุกคนควรจะร่ำรวย มีชื่อเสียง และได้ทำทุกอย่างตามที่ฝันไว้ เพื่อที่ทุกคนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่คำตอบ” ร็อบบี้ วิลเลี่ยมส์ นักร้องเพลงป็อปชื่อดังชาวอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้สัมผัสสิ่งสารพัดที่ได้มาจากความร่ำรวยและความสำเร็จ แต่เรากลับเห็นเขาเขียนในชีวประวัติตัวเองว่า เขายังรู้สึก “ว่างเปล่า”
แม้แต่เรื่องของกษัตริย์ซาโลมอนในพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นผู้มีความมั่งคั่ง มีสติปัญญาอันแหลมคม มีมเหสีและนางสนมมากมาย ยังคงคร่ำครวญถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจที่มีอยู่ในใจเสมอ
“ข้าพเจ้ากระทำการใหญ่โต ข้าพเจ้าได้สร้างเรือนหลายหลัง และทำสวนองุ่นหลายแปลง ข้าพเจ้าทำสวนผลไม้และสวนหย่อนใจหลายแห่ง ปลูกไม้ผลทุกชนิดไว้ในสวนเหล่านั้น ข้าพเจ้าสร้างสระน้ำหลายสระสำหรับตัวเอง เพื่อจะใช้น้ำในสระนั้นรดหมู่ไม้ที่กำลังงอกงาม ข้าพเจ้าซื้อทาสชายหญิงไว้ และมีทาสเกิดขึ้นในบ้านของข้าพเจ้า นอกจากนั้นข้าพเจ้ามีฝูงโคฝูงแพะแกะมากกว่าทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก่อนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสะสมเงินทองไว้ด้วย และสะสมทรัพย์สมบัติอันควรคู่กับกษัตริย์และควรคู่กับเมืองทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีนักร้องชายหญิง และมีความสนุกสนานทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งชอบใจมนุษย์ ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเป็นใหญ่และยิ่งใหญ่กว่าทุกคนที่เคยอยู่มาก่อนข้าพเจ้าในเยรูซาเล็ม และสติปัญญาของข้าพเจ้ายังคงอยู่กับข้าพเจ้าด้วย
ทุกสิ่งที่นัยน์ตาของข้าพเจ้าอยากเห็น ข้าพเจ้าก็ไม่ปิดบัง ข้าพเจ้ามิได้ห้ามใจจากความสนุกสนานทุกอย่าง เพราะใจข้าพเจ้าพบความเพลิดเพลินจากการตรากตรำทั้งหมดของข้าพเจ้า และนี่เป็นรางวัลจากการตรากตรำของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าหันมาดูทุกสิ่งที่มือข้าพเจ้าทำ และผลของการตรากตรำที่ข้าพเจ้าทำลงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย และดูเถิด ทุกอย่างก็อนิจจังคือ กินลมกินแล้ง และไม่มีประโยชน์อะไรภายใต้ดวงอาทิตย์” (ปัญญาจารย์ 2:4-11)
ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ประสบความสำเร็จอะไรมา หรืออยู่ในยุคสมัยไหน ดูเหมือนว่า ชีวิตเราต่างก็สะท้อนเนื้อเพลงที่ มิค แจกเกอร์ นักร้องนำของวงโรลลิ่งสโตนส์ ร้องไว้ว่า “ฉันไม่สามารถมีความพึงพอใจเสียที”
แล้วเราจะหาการเติมเต็มที่แท้จริงได้จากที่ไหน
แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อมนุษย์ทุกคนต่างก็มีความอยากได้อยากมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เกิด แล้วเราจะแสวงหาการเติมเต็มได้จากที่ไหน ดูเหมือนว่า ความสำเร็จ ความร่ำรวย ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความรัก ก็ยังไม่สามารถดับกระหายหรือทำให้เรารู้สึกเต็มอิ่มได้อย่างแท้จริง แปลว่าเราต้องติดอยู่กับความไม่พอใจแบบนี้ ทั้งที่บรรลุเป้าหมายในชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนั้นเหรอ?
ข่าวดีก็คือ พระเจ้าไม่ได้ทิ้งเราให้ทนทุกข์อยู่กับการพยายามแสวงหาความพึงพอใจอย่างไร้ผล แต่พระองค์ได้ทรงยื่นมือมาและหาคำตอบให้เรา เพราะพระเจ้าได้ทรงมอบพระเยซู ผู้ซึ่งช่วยให้เราพบความพึงพอใจหรือการเติมเต็มที่แท้จริงได้
พระเยซูตรัสตอบว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:13-14)
พระเยซูทรงสนทนากับหญิงชาวสะมาเรียที่กำลังตักน้ำที่บ่อ ซึ่งคำอุปมาที่พระองค์ใช้ก็ยังคงเป็นความจริงอยู่จนถึงทุกวันนี้ น้ำจากบ่อนั้นเปรียบเสมือนสิ่งอื่นๆ ในชีวิตที่อาจให้ได้แค่เพียงความพึงพอใจที่ไม่จีรังกับเราเท่านั้น แล้วเราก็จะเหมือนกับหญิงชาวสะมาเรียคนนี้ ที่อีกไม่นานก็ต้องกลับมาตักน้ำที่บ่ออีก หรือแสวงหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อมาเติมความพึงพอใจในชีวิตต่อไป
ในขณะที่สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์สามารถให้ความพึงพอใจกับเราได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่เรากลับสามารถหาความพึงพอใจหรือการเติมเต็มที่จะอยู่กับเราตลอดไปได้ในพระเยซูคริสต์ ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าที่สร้างเราและรักเรา ให้ลองนึกถึงความชื่นชมยินดีและความสุขที่เราได้รับจากความสัมพันธ์ที่เรามีกับครอบครัว หรือกับเพื่อนสิ ถึงแม้มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความผิดหวังอยู่ด้วย แล้วถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าผู้สร้างจักรวาลล่ะ พระองค์เป็นผู้สร้างเราและรู้จักเราอย่างลึกซึ้ง พระองค์จึงทรงทราบว่าอะไรดีที่สุดที่จะมาเติมเต็มความปรารถนาของเรา เพียงแสวงหาพระองค์ เราก็จะได้รับความพึงพอใจที่แท้จริงได้ อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเป็น #lifegoal ของจริง
เพราะฉะนั้น ครั้งหน้าที่เราเล่นสื่อออนไลน์แล้วเห็นแฮชแท็ก #lifegoals ให้เราใช้เวลาสักครู่เพื่อระลึกถึงพระเยซูคริสต์ ผู้ให้โอกาสเราได้สัมผัสความพึงพอใจที่แท้จริง เราจะยอมรับข้อเสนอนี้ แล้วพยายามที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้นไหม?
ถ้าบทความนี้สัมผัสใจของคุณหรือให้แง่คิดคุณในทางใดทางหนึ่ง หวังว่าคุณจะหยิบพระคัมภีร์ไบเบิลขึ้นมา และลองเปิดอ่านดูว่าพระคัมภีร์เขียนถึงพระเจ้าและข่าวดีที่พระองค์ประทานให้แก่เราอย่างไรบ้าง ขอแนะนำให้คุณติดต่อเพื่อนคริสเตียนหรือคริสตจักรที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อพูดคุยกับคนที่สามารถเล่าให้คุณฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเจ้า
คุณยังสามารถอ่านบทความต่างๆ เกี่ยวกับพระเจ้าและเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของเราด้วยเช่นกัน
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)