WRITER: เมเคย์ลา บิสสัน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR/ EDITOR : Mustard Seed Team
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมกลับบ้าน ที่ที่เราอยู่ไม่ได้มีผู้คนเยอะแยะแบบเมื่อก่อนแล้ว และเราก็ระมัดระวังตัวกันมากๆ ดังนั้นเธอจะปลอดภัยแน่นอน จากใจเลยนะ ฉันเป็นห่วงเธอ”
“เธอจะขับรถขึ้นทางตอนเหนือสุดสัปดาห์นี้จริงๆ หรอ? รู้ใช่ไหมว่าเขาประกาศให้อยู่บ้านไม่ให้เดินทางไปไหน? ฉันไม่สนว่าครอบครัวของเธอจะคิดว่ามันโอเคที่จะเดินทาง เราจำเป็นต้องป้องกันตัวเองและผู้อื่นให้ปลอดภัยด้วย ดังนั้นเราจึงต้องรักษาระยะห่าง”
อยู่บ้านเพื่อความปลอดภัย แต่เธอจะสามารถกลับไปที่บ้านของตัวเองช่วงวันหยุดได้ไหม? แล้วถ้าบ้านอยู่ในรัฐหรือจังหวัดอื่นละ? ฉันจะต้องแจ้งที่ทำงานให้รับรู้ไหม? ฉันจะต้องกักตัวนานขนาดไหนเมื่อเดินทางกลับมาแล้ว? เธอสามารถรวมตัวกันได้ไม่เกินสิบคน แต่ต้องแน่ใจว่าอยู่บ้านและต้องสะอาดปลอดภัย และให้ตายเถอะต้องใส่หน้ากาก
ในขณะที่เลื่อนดูเฟสบุ๊ค ฉันเห็นโพสต์ข้อความของเพื่อนๆ “ผู้นำที่ไม่มีแบบแผนคนนี้ช่างงี่เง่าเสียจริงที่ทำให้ประเทศต้องถูกล็อกดาวน์” “ผู้นำคนนี้เขากำลังทำอะไรของเขาเนี่ย? พวกเขาน่าจะล็อกดาวน์จนกว่าจะจัดการกับไวรัสให้ได้สิ!” เลิกติดตาม เลิกติดตาม เลิกติดตาม (Unfollow)
การโจมตีด้วยเสียงและความคิดเห็นเหล่านี้ ทิ้งให้ฉันอยู่กับความรู้สึกที่ท่วมท้น ไม่มั่นคง และกังวลใจ
เราจะประสบความสำเร็จผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ด้วยความมั่นใจในตัวเองและในการตัดสินใจด้วยตัวเองได้อย่างไร และกลายเป็นคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีและมีสันติสุขที่แท้จริง? ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้และคำถามมากมายที่มีมาไม่หยุดหย่อน นี่คือ 3 สิ่งที่ยึดไว้เพื่อช่วยให้ตัวเองพักสงบและมั่นคงในการจดจ่อที่พระเจ้า
1. ดึงความมั่นใจ
เสียงมากมายล้อมรอบฉันเหมือนจะดังก้องในหูของฉันเพียงแค่หนึ่งข้อความ: ไม่ว่าฉันจะตัดสินใจอะไรลงไป ฉันมีความรู้ไม่มากพอและไม่สามารถตัดสินใจได้โดยไม่ทำให้ใครบางคนผิดหวัง ในทางตรงกันข้าม พระคัมภีร์ตลอดต้นจนจบ พระเจ้าบอกฉันอย่างต่อเนื่องและอย่างมั่นใจว่าฉันเป็นคนที่พระองค์ทรงสร้าง (ไม่ได้ไร้ซึ่งความสามารถหรือไม่มีความรู้) พระธรรมเอเฟซัส 2:10 กล่าวไว้ว่า “เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม” ในพระธรรม 2 ทิโมธี 1:7 เตือนฉันว่า “เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา”
ด้วยความรู้นี้ และขณะที่ฉันจำได้ว่าฉันถูกสร้างขึ้นในพระคริสต์และได้รับกำลังจากพระองค์ (พระคำพระเจ้านะ ไม่ได้มาจากฉันเอง) ฉันสามารถมั่นใจได้ว่าทุกการตัดสินใจที่ฉันเลือก อัตลักษณ์ของฉันในพระองค์นั้นแน่นอน ฉันสามารถขจัดความสงสัยในความสามารถของตัวเอง (self-doubt) ที่โลกนี้กำลังเป็นอยู่ และปรับเปลี่ยนไปฟังในสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสเกี่ยวกับผู้ที่พระองค์ทรงสร้างให้ฉันเป็น
2. ฝึกฝนความสามารถ
บางครั้ง ฉันลืมว่าบางส่วนของผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างให้ฉันเป็นนั้นคือ ฉลาด เข้มแข็ง เป็นคนที่พึ่งตัวเองได้คือ คนที่สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ บ่อยครั้งที่ฉันมักจะโฟกัสไปที่การทำให้คนอื่นพอใจ จนทำให้ฉันหลงลืมไปว่าพระเจ้าทรงสร้างฉันให้มีความสามารถและเจตนาที่ดีไม่น้อยไปกว่าคนอื่นเลย พระองค์ทรงอวยพรฉันด้วยความสามารถในการรวบรวมข้อมูล ถามคำถามยากๆ และเข้าใจมุมมองหรือทัศนคติของผู้อื่น เพื่อฉันจะได้ทำการตัดสินใจที่ดีที่สุดด้วยข้อมูลต่างๆ ที่ฉันมี
และในขณะนั้น การตัดสินใจแต่ละครั้งฉันไม่จำเป็นที่จะต้องเคร่งเครียด เพราะว่าฉันยังคงได้รับการทรงนำจากพระเจ้าผ่านสิ่งที่พระองค์ทรงสอน และฉันสามารถปรับเปลี่ยนการตัดสินใจต่างๆ พรุ่งนี้ เพราะฉันได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น
3. ยึดความหวังเอาไว้
ขณะที่เราคิดถึงการที่จะต้องอยู่คนเดียวเหมือนครั้งที่ผ่านมาและตั้งตารอที่จะออกจากบ้านให้บ่อยขึ้น มันเป็นอะไรที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกลัวและความไม่แน่นอน ฉันจึงชอบที่จะระลึกถึงเรื่องราวในพันธสัญญาเดิม (Old Testament) ว่าพระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์และครอบครัวของเขาอย่างไร (ปฐมกาล 8:1) และพระองค์ทรงปกป้องคุ้มครองพวกเขาจากภัยพิบัติน้ำท่วม พวกเขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเรือและจริงๆ แล้วก็เป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่บนโลก แต่เมื่อนกพิราบบินกลับมาพร้อมกับคาบใบมะกอกเขียวสด โนอาห์ก็รู้แล้วว่าอีกไม่นานพวกเราก็จะได้ออกจากเรือแล้ว ซึ่งพระเจ้าทรงปกป้องเขาตลอดเหตุการณ์น้ำท่วม
พระเจ้าทรงมองเห็นพวกเราเช่นกัน และพระองค์จะทรงปกป้องเราจากอันตรายของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ พวกเราสามารถระลึกถึงความหวังนี้เมื่อเราเดินผ่านธรรมชาติรอบๆ ตัวเรากับคนที่เรารัก และขณะที่เราต้องทำงานจากที่บ้าน พวกเราสามารถเห็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าในแต่ละวันของชีวิต และจดจำว่าพระเจ้าทรงสถิตกับเราตั้งแต่อดีตและจะทรงอยู่กับเราในอนาคตด้วยเช่นกัน เพราะพระเจ้าทรงสถิตกับเรานี่คือความหวังที่เราสัมผัสได้ท่ามกลางความสิ้นหวัง การสัมผัสว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้เราได้มอบสันติสุขและความเชื่อมั่นให้กับเราถึงอนาคตข้างหน้า
ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้คอยช่วยฉันอยู่ แต่ก็มีบ้างทีที่ฉันรู้สึกกลัวว่ารอบข้างฉันจะไม่เคารพในการตัดสินใจต่างๆ ของฉัน หรือการตัดสินใจที่แน่วแน่ของฉันอาจจะทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับใครบางคน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสันติสุขที่ฉันปรารถนานั้นอยู่ในฉันผ่านการตักเตือนจากพระเจ้าที่ช่วยฉันได้จริงๆ มันช่วยให้ฉันมีส่วนร่วมอย่างดีเยี่ยมในบทสนทนาที่ยาก แม้กระทั่งกับคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
จะมีบางสิ่งบางอย่างเสมอในโลกใบนี้ เช่น ความเกลียดชังทางเชื้อชาติหรือรูปร่าง อากาศเปลี่ยนแปลง และอื่นๆ ที่จะทำให้เกิดเสียงที่หลากหลายและความคิดเห็นซึ่งเราจะต้องหาวิธีผ่านพ้นมันไปให้ได้ ดังนั้นในขณะที่เราหาวิธีจัดการกับเสียงเหล่านั้น ให้เราระลึกถึงคุณค่าและความสามารถของเรา และสำคัญที่สุด ความหวัง พระสัญญา และสันติสุขของพระเจ้าที่ทรงมอบให้กับเรา
YOU MAY ALSO LIKE
อดทนกับการเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณที่ค่อยเป็นค่อยไป
WRITER: แคสซี่ วัตสัน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ณัฐรวี ยุ้งทอง “ฉันทำมันอีกแล้ว” บางทีคุณอาจย้ำกับตัวเองด้วยคำเหล่านั้นหลังจากหลงทำบาปเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณกลับใจแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อเร็วๆ นี้...
ช้อปไม่หยุด…ฉุดไม่อยู่
WRITER: Mustard Seed Team EDITOR: Mustard Seed Team ซื้อไม่หยุด เครียดก็ซื้อ นอนไม่หลับก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาซื้อของ ใส่ของไว้ในตระกร้าจนเต็ม โปรลดราคามาตลอดทุกเดือนก็จัดหนักตลอด รอเวลาเก็บคูปอง ชอบของแก็ดเจ็ตล่าสุด พยายามหาของที่ดีที่สุด ของที่ฮิตที่สุด เราจะต้องมี...
สรรเสริญวันสะบาโตด้วยการวางทุกสิ่งลง
WRITER: จาเนล ไบเทนสไตน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: Mustard Seed Team ในฤดูร้อนปี 2016 ครอบครัวของฉันขนข้าวของจากประเทศยูกันดาขึ้นเครื่องบินไปอเมริกาเป็นเวลาหกเดือน ระหว่างจัดกระเป๋าสำหรับวันหยุดยาวนี้ ฉันมีความรู้สึกขัดแย้งบางอย่าง...