
WRITER: แมวส้มใส่แว่น
EDITOR: MUSTARD SEED TEAM
ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแข่งขันมากมาย ทำให้เราต้องดิ้นรนและทำงานอย่างหนัก ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานสามารถนำไปสู่อาการ “เบิร์นเอาท์” ได้ ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้กระทั่งผู้รับใช้หรืออาสาสมัครก็สามารถ ประสบกับสภาวะนี้ ได้เช่นกัน
ฉันเองเคยเกือบจะเลิกทำงานรับใช้พระเจ้าไปตลอดชีวิต เนื่องจากความรู้สึกหมดไฟ ที่ค่อยๆ แอบกัดกินหัวใจและจิตวิญญาณของฉัน ผ่านการทำงานรับใช้ งานประจำ และช่วงเวลาที่ต้องเรียนควบคู่กันไปด้วย การแบกรับหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกัน เกินขีดจำกัด ทำให้รู้สึก เหนื่อยหน่ายอย่างรุนแรง

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันหลงลืมไปคือ ในปฐมกาล 1-2 ตอนที่พระเจ้าทรงสร้างโลก พระองค์ยังทรงหยุดพักในวันที่ 7 แล้วทำไมมนุษย์อย่างเราจึงละเลยการหยุดพักได้ลงคอ? เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะทรุดโทรมทั้งใจและกาย อยากชวนทุกคนมาสังเกต “อาการของหัวใจ” กัน และเริ่มต้นหา “เวลาหยุดพักในพระเจ้า” ไปด้วยกันเถอะ

แล้วเราจะรับมือและฟื้นฟูหัวใจอย่างไร? ขอแนะนำ 3 วิธีที่จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลากับพระเจ้า เยียวยาหัวใจ และกลับมา “หายใจได้เต็มปอด” อีกครั้ง

1. หาเวลาและกิจกรรมที่ช่วยให้เราคลายความตึงเครียดได้จริงๆ
ลองเลือกกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายอย่างแท้จริง เช่น ไปเดินเล่นในสวน ออกกำลังกายเบาๆ พูดคุยลึกซึ้งกับเพื่อนในกลุ่มคริสเตียน ไปคริสตจักรในวันที่ไม่ได้มีหน้าที่รับใช้ และตั้งใจนมัสการผ่านบทเพลง หรืออาจลองวาดภาพ ทำงานฝีมือ งดเล่นโซเชียลมีเดีย ฯลฯ
แต่ละคนอาจมีวิธี ฟื้นฟูตัวเอง แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ “การใช้เวลากับพระเจ้า” อย่าลืมเชื่อมต่อกับพระองค์แม้ในกิจกรรมที่ดูเรียบง่ายที่สุด

2. ใช้เวลาเงียบๆ กับพระเจ้า
สำหรับฉัน การใช้เวลากับพระเจ้า อาจเกิดขึ้นในช่วงเช้า ระหว่างเดินทาง หรือก่อนนอน เป็นเวลาที่ได้เทใจเล่าทุกเรื่องกับพระองค์ผ่านการอธิษฐาน 1 เธสะโลนิกา 5:17 กล่าวว่า “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ” ไม่ว่าเราจะรู้สึกดีหรือแย่ อยากให้คุณลองเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับพระองค์เสมอ แม้เพียงสั้นๆ พระเจ้าก็ฟังเราอยู่เสมอ

3. อยู่รวมกับชุมชนของพระเจ้า
พระเจ้าไม่ได้สร้างให้เราดำเนินชีวิตเพียงลำพัง ปัญญาจารย์ 4:9-10 กล่าวว่า “สองคนดีกว่าคนเดียว… เพราะถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนจะได้พยุงเพื่อนให้ลุกขึ้น”
หาใครสักคนที่คุณไว้ใจ พูดคุย เปิดใจ และอธิษฐานร่วมกัน สำหรับฉัน นี่เป็นหนึ่งในทางที่ช่วยฉันได้มาก เพราะหลายครั้งฉันเองก็ หมดแรงจนไม่รู้จะพูดกับพระเจ้าอย่างไร การที่มีคนร่วมแบกภาระและอธิษฐานแทนเราได้ เป็นพระพรอย่างยิ่ง

และถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวจริงๆ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น นักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเรียบเรียงความคิด หรือรับมือกับอาการที่กำลังเผชิญได้
สิ่งสำคัญคือ…พระเจ้าไม่ได้เรียกเราให้ ทำงานหนักจนละเลยตัวเอง แต่พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เราหยุดพักในพระองค์เสมอ หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณค่อยๆ ผ่านช่วงเวลาของ “เบิร์นเอาท์” และกลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมได้อีกครั้ง
YOU MAY ALSO LIKE
ฉันได้เรียนรู้ที่จะเลิกควบคุมชีวิตตัวเอง
WRITER: เคซียาห์ เอ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ EDITOR: Mustard Seed Team ฉันทำงานได้ดีเยี่ยมตั้งแต่งานแรกหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยและได้เลื่อนตำแหน่งภายในหนึ่งปีครึ่ง อย่างไรก็ตาม แม้ฉันจะทำงานได้ดี แต่ฉันกลับโฟกัสที่ความล้มเหลวเล็กๆ...
โหยหาความรักจากพ่อ
WRITER: เจ เล็ง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: Mustard Seed Team EDITOR: Mustard Seed Teamฉันรู้สึกมีความอิจฉาเล็กๆ เมื่อใดก็ตามที่ฉันเห็นคุณพ่อที่น่ารักกำลังพูดคุยและหัวเราะกับลูกๆ ของเขา ฉันไม่เคยมีความทรงจำที่มีความสุขแบบนั้นเลย เมื่อตอนที่ฉันอายุ 11...
จะรับใช้พระเจ้าในขณะที่ต่อสู้กับโรคซึมเศร้าได้อย่างไร?
WRITER: ฌอน ควาห์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ศุภิสรา เจริญศรีศิลป์ EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร ชาร์ลส์ สเปอร์เจียน? เป็นโรคซึมเศร้า? ผมได้ยินชื่อ ชาร์ลส์ สเปอร์เจียนครั้งแรกจากศิษยาภิบาลของผม เขาได้แบ่งปันข้อคิดดีๆ จากหลายๆ คำเทศนาของสเปอร์เจียนให้ฟัง...