fbpx
WRITER: เจ เล็ง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Mustard Seed Team
EDITOR: Mustard Seed Team

ฉันรู้สึกมีความอิจฉาเล็กๆ เมื่อใดก็ตามที่ฉันเห็นคุณพ่อที่น่ารักกำลังพูดคุยและหัวเราะกับลูกๆ ของเขา ฉันไม่เคยมีความทรงจำที่มีความสุขแบบนั้นเลย เมื่อตอนที่ฉันอายุ 11 ขวบพ่อกับแม่ของฉันหย่ากันเพราะพ่อนอกใจแม่ แม่บอกกับฉันว่าพ่อได้สละสิทธิ์การเลี้ยงดูพวกเราเพราะพ่อไม่ชอบเด็กๆ เมื่อพ่อแต่งงานใหม่อีกครั้ง พ่อก็ไม่ได้มีลูกอีก

ผลที่ตามมาคือ ฉันและน้องสาวถูกเลี้ยงดูโดยแม่ นอกจากการขอค่าเลี้ยงดูจากพ่อของฉันบ่อยครั้ง การติดต่อของพวกเราก็ถือว่าค่อนข้างน้อย แม้ตอนที่พ่อถามถึงพวกเรา ก็มักจะเป็นคำถามทั่วไปตามมารยาท พ่อแทบจะไม่เคยพาพวกเราออกไปทานข้าวเย็นหรือใช้เวลากับพวกเราเลย 

ช่วงเวลาที่พวกเราเติบโตขึ้นมานั้น พวกเราไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้มีประสบการณ์ใน “ความรักของพ่อ” สักเท่าไหร่

หลังจากที่พ่อแม่ของฉันหย่ากัน ฉันรู้สึกถึงการดูถูกและความรู้สึกคับแค้นใจที่แม่มีต่อพ่อ โดยเฉพาะตอนที่แม่พูดถึงพ่อ แม่มักจะบอกฉันและน้องสาวว่าอย่าหาผู้ชายที่เหมือนอย่างพ่อพวกของเธอนะ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่แม่ได้พูดใส่หัวฉันและผ่านการกระทำที่ฉันทำต่อพ่อ ฉันเริ่มรู้สึกเห็นด้วยในสิ่งที่แม่พูดเกี่ยวกับพ่อ พ่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ และจะยอมทำสิ่งต่างๆ ให้เมื่อเขาไม่มีทางเลือกเท่านั้น

ทีละเล็กทีละน้อย ฉันเริ่มเชื่อว่าผู้ชายทุกคนนั้นไม่สามารถพึ่งพาได้และไม่น่าเชื่อถือ เหมือนกับที่แม่ได้ดูถูกพ่อของฉันไว้

เมื่อตอนที่ฉันอยู่มัธยมปลาย ฉันจำได้ว่าเคยขอให้พ่อมาช่วยย้ายของออกจากหอพักในช่วงวันหยุดยาว แต่พ่อไม่มา ท้ายที่สุดฉันไม่มีทางเลือก ทำได้แค่จัดการมันด้วยตัวเองและให้คนอื่นช่วยแทน

เมื่อตอนที่ฉันอยู่มหาวิทยาลัย พ่อพูดกับฉันว่าเขาไม่สามารถที่จะออกค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้ฉันได้ และบอกให้ฉันหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวพ่อมากๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันอยู่ตัวคนเดียวในต่างประเทศ ทั้งเหงาและไร้ที่พึ่ง

การที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้ ฉันเริ่มที่จะมีอาการซึมเศร้า ในตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าการมีพ่อหรือไม่มีก็ไม่ได้แตกต่างกัน ฉันต้องทำงานพาร์ทไท์มเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ฉันกล่าวโทษพ่อของฉันสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่เมื่อฉันได้มารู้จักกับพระเยซูและรับของขวัญแห่งการช่วยกู้ของพระองค์

ในพระธรรมมัทธิว 11:28 กล่าวไว้ว่า “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก” และในพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ 31:8 กล่าวว่า “ผู้ที่เสด็จไปข้างหน้าท่านคือพระยาห์เวห์ พระองค์สถิตอยู่กับท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้ท่านล้มเหลว หรือทอดทิ้งท่าน อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย”

พระธรรมสองข้อนี้ได้ปลอบโยนฉันอย่างมาก พระเจ้าทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่จำเป็นต้องแบกแอกเพียงลำพังด้วยตัวฉันเอง ฉันสามารถไว้วางใจและมอบความกังวล ความกลัวไว้กับพระเจ้าผู้ทรงเชื่อถือได้ บางทีฉันคิดว่า ฉันสามารถขอบคุณพ่อของฉัน “ที่นำ” ฉันให้มาเชื่อในพระเจ้า

หลังจากได้มาเป็นคริสเตียน ฉันเริ่มเรียนรู้ในการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า และค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ฉันเริ่มเข้าใจความรักอัศจรรย์ของพระบิดา แม้ว่าหนึ่งในสิ่งที่ฉันรู้สึกเสียดายและเสียใจมากที่สุดคือการที่ไม่สามารถเรียนรู้ความรู้สึกรักจากพ่อจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันมีความรักจากพ่อที่รักฉันที่สุด ความรักจากพระเจ้านั่นเอง

ในเวลาเดียวกัน จากการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐาน ฉันเริ่มเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของฉัน ในพระธรรมมัทธิว 6:15 “แต่ถ้าพวกท่านไม่ให้อภัยการล่วงละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านจะไม่ทรงให้อภัยการล่วงละเมิดของพวกท่านเหมือนกัน”

พูดกันแบบตรงๆ เลยนะ การให้อภัยพ่อที่ทำร้ายฉันนั้นมันไม่ใช่งานที่ง่ายเลย แต่ในทุกๆ วัน ฉันทูล ขอให้พระเจ้าช่วยฉันให้เข้าใจและให้อภัยพ่อของฉัน และท้ายที่สุดพระเจ้าต้องการให้ฉันคืนดีไม่ใช่แค่กับพระเจ้าแต่กับผู้อื่นด้วยเช่นกัน

YOU MAY ALSO LIKE

ถึงหนุ่มๆ คริสเตียนทุกคนที่ยังโสดอยู่

ถึงหนุ่มๆ คริสเตียนทุกคนที่ยังโสดอยู่

WRITER: เจฟฟรี่ เซียว ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์ EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร การอยู่เป็นโสดไม่ใช่เรื่องผิด ใช่ คุณอ่านถูกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรถ้าหากคุณยังไม่แต่งงานหรือผูกพันธ์กับใคร หรือยังไม่เคยคบหาดูใจกับใครเลย...

เหตุผล 3 ประการว่าทำไมการเป็นคริสเตียนถึงดีจริงๆ

เหตุผล 3 ประการว่าทำไมการเป็นคริสเตียนถึงดีจริงๆ

WRITER: แดเนียล ไรอัน เดย์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ณัฐพร ชังเจริญ  EDITOR: Mustard Seed Team แดเนียลแต่งงานกับคนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายและเป็นคุณพ่อลูกสาม เขาเป็นผู้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า แล้วอะไรต่อ: งานในฝันของคุณ การทรงเรียกของพระเจ้า...

3 เคล็ดลับในการฟื้นฟูช่วงเวลาเฝ้าเดี่ยวของเรา

3 เคล็ดลับในการฟื้นฟูช่วงเวลาเฝ้าเดี่ยวของเรา

WRITER: เดบร้า อาย์อิส ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: เฮจี คิม EDITOR: สวิตตา เจริญศรีศิลป์ พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว แต่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3, มัทธิว 4:4)...

Share This