fbpx
WRITER: เหว่ย (@alifepast25) ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Mustard Seed Team
EDITOR: Mustard Seed Team

คุณคงเคยรู้สึกแบบนั้นเมื่อเปิดดูตอนหนึ่งในเน็ตฟลิกซ์แล้วจู่ๆ ก็ผ่านไปสี่ชั่วโมง ระบบเล่นอัตโนมัติของเน็ตฟลิกซ์ทำให้หลายคนจมดิ่งไปกับความบันเทิงที่ไม่มีวันสิ้นสุด

รวมถึงตัวฉันเองด้วย เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน ฉันบังเอิญไปเจอซีรีส์เรื่องหนึ่งในเน็ตฟลิกซ์ที่ทำให้ฉันอินจนแทบจะลืมหายใจทุกนาทีที่มี (เช่น ระหว่างเดินทางและตอนกินข้าว) ฉันมัวแต่ดูหรือวางแผนว่าจะดูตอนต่อไปเมื่อไหร่ ความคิดของฉันหมกมุ่นอยู่กับซีรีส์ ตัวละคร โครงเรื่อง เสื้อผ้าหน้าผม และอื่นๆ อีกมากมาย 

จากนั้นฉันก็คิดได้ว่ามีคำหนึ่งที่อธิบายพฤติกรรมของฉันได้ นั่นคือ การเสพติด!

Dictionary.com ให้คำจำกัดความของการเสพติดว่าภาวะที่ตกเป็นทาสของนิสัยหรือการปฏิบัติ หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดนิสัยทางจิตใจหรือร่างกาย

ตระหนักว่านี่ต้องเป็นสัญญาเตือนให้ฉันตื่นขึ้น ดูเผินๆ จากภายในฉันยังคงทำทุกอย่างเหมือนปกติ ฉันไปทำงาน ไปโบสถ์ และไปงานสามัคคีธรรมต่างๆ แต่ถึงแม้ว่าตัวฉันจะอยู่ตรงนั้น ต่หัวใจของฉันอยู่ที่เน็ตฟลิกซ์ 

วันหยุดสุดสัปดาห์ครอบครัวพวกเราไปที่บ้านคุณย่า ปกติฉันจะชอบใช้เวลากับสมาชิกครอบครัวคนอื่น และพูดคุยอัพเดทเรื่องต่างๆ กับพวกเขา แต่ช่วงนี้ ฉันกลับเอาไอแพดไปด้วยและนั่งดูแต่เน็ตฟลิกซ์ 

หรือบางครั้งฉันก็นั่งดูเน็ตฟลิกซ์จนนาทีสุดท้ายก่อนรอบนมัสการเริ่ม แทนที่ฉันจะเตรียมหัวใจเพื่อนมัสการพระเจ้า แต่ในความเป็นจริงฉันเสพติดเน็ตฟลิกซ์และตอนนี้ฉันเป็นทาสของมัน ฉันถามตัวเองว่า พระเจ้าจะพอพระทัยกับการใช้เวลาที่พระเจ้าทรงประทานให้ฉันไหม 

ด้วยตัวเน็ตฟลิกซ์เองก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่อะไร และเราสามารถเรียนรู้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับกิจกรรมยามว่างและความบันเทิงได้ แต่สำหรับฉัน การเสพติดเน็ตฟลิกซ์ได้กลายเป็นรูปเคารพในชีวิตโดยไม่รู้ตัว ฉันได้ทำบาป (1 ยอห์น 3:4) และฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องการจะเดินในเส้นทางนี้ต่อไป 

ทำไมฉันถึงตัดสินใจงดดู Netflix ในช่วงเทศกาล Lent 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นเทศกาล Lent ฉันเป็นคนที่ชอบการทำงานที่เป็นระบบและตรงตามกำหนดเวลา ดูเหมือนเทศกาล Lent จะเป็นเทศกาลยอดนิยมที่น่าเข้าร่วม และสิ่งนี้ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะเริ่มงดดูเน็ตฟลิกซ์ในสัปดาห์ก่อนวันศุกร์ประเสริฐ 

ในบทความหัวข้อคริสเตียนถืออดอาหารเพราะซาตานหิว ดัสติน แมสเซอร์ ศิษยาภิบาลชาวอเมริกา ได้สรุปวิธีการถืออดอาหารไว้อย่างดีว่าคริสเตียนถืออดดอาหารเพราะซาตานหิวการถืออดอาหารได้ย้ำเตือนเราถึงความเป็นมนุษย์และความบาป ด้วยการอดอาหารเราได้รับการเติบเต็มด้วยพระวิญญาณและไม่ถูกกลืนกินโดยซาตาน 

บนโลกนี้ซาตานเป็นเจ้าชายของโลก บาปได้เกาะติดเราเหมือนปลิงหิวโหยที่ต้องการมากขึ้นอีก แต่ในพระธรรมฮีบรู 12:1-4 ได้เตือนเราว่า ให้วางความบาปที่เกาะอยู่และวิ่งแข่งบนโลกนี้ด้วยความมานะอดทน และกำลังที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้นั้นอยู่ในพระเยซู 

 เมื่อฉันตระหนักว่าฉันได้ตกเป็นทาสของความบาป ฉันเข้ามาหาพระเจ้าและสารภาพกับพระองค์ถึงการเสพติดเน็ตฟลิกซ์ของฉัน ขอบคุณพระองค์สำหรับความเชื่อ และทูลขอกำลังที่จะหันหลังให้กับมัน 

หันกลับจากความบาป และกลับมาหาพระเจ้า 

การหันหลังจากการเสพติด หรือความชั่วร้ายนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เราสามารถปรับความสนใจหรือให้ความสนใจกับสิ่งอื่น ในกรณีการถืออดอาหาร หมายถึงการที่เราหันกลับมาหาพระเจ้าและอาศัยอยู่ในพระวจนะคำของพระองค์ เข้าหาพระองค์ด้วยคำอธิษฐานที่สัตย์ซื่อและจดจำว่าพระองค์ทรงเป็นมหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่ที่ทรงเข้าใจการต่อสู้ดิ้นรนของเรา (ฮีบรู 4:14-16) 

ฉันเริ่มต้นด้วยการจัดเวลาส่วนตัวสำหรับการสะท้อนความคิดและการเขียนบันทึก เพื่อที่ฉันจะได้ตั้งใจสำรวจสถานะหัวใจของฉัน ฉันมักจะถามคำถามตัวเอง เช่นหัวใจของฉันปรารถนาสิ่งใดอยู่? ฉันใช้เวลาของฉันอย่างไร? สิ่งนี้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าไหม?” 

ในช่วงเวลาการสะท้อนความคิดและการเขียนบันทึกเป็นจุดเร่ิมต้นในการเข้ามาหาพระเจ้าด้วยคำอธิษฐาน เมื่อฉันตระหนักถึงการต่อสู้ ข้อบกพร่อง และความต้องการของฉัน ชีวิตการอธิษฐานของฉันก็จะดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง 

แบ่งปันการต่อสู้ดิ้นรนกับพี่น้องคริสเตียนคนอื่นๆ มีประโยชน์หลายด้าน ความบาปชอบความมืดเป็นที่ที่มันลุกลามและเติบโตจนควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อเราเลือกที่จะสารภาพบาปของเราต่อพระเจ้าและต่อกันและกัน บาปที่ซ่อนเร้นของเราก็จะปรากฏชัดและการควบคุมของมันก็จะอ่อนแอลง เพื่อน คริสเตียนที่ร่วมเดินทางกับเรายังสามารถช่วยติดตามเราเป็นระยะๆ ให้กำลังใจเรา และคอยเตือนเราในการต่อสู้กับป้อมปราการแห่งบาปนี้ 

ในทางปฏิบัติ ฉันพบว่าการวางแผนว่าจะใช้เวลาอย่างไรในช่วงงดดูเน็ตฟลิกซ์นั้นมีประโยชน์ เพราะจะช่วยให้ฉันดำเนินชีวิตตามแนวทางในการสร้างนิสัยใหม่ๆ ได้ เวลาส่วนใหญ่ที่ฉันใช้ไปกับการดูเน็ตฟลิกซ์นั้นถูกแทนที่ด้วยการอ่านพระคัมภีร์ ศึกษาพระคัมภีร์ตามหัวข้อ และอ่านหนังสือที่มีประโยชน์ 

แน่นอนว่ามีช่วงเวลาอ่อนแอที่ฉันคิดจะดูเน็ตฟลิกซ์บ้าง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เพื่อนๆ แชร์ซีรีส์ล่าสุดที่พวกเขากำลังดู หรือตอนที่ฉันมีเวลาว่างเหลือเฟือที่จะฆ่าเวลา ฝ่ายวิญญาณนั้นมีความตั้งใจแต่เนื้อหนังยังอ่อนแอ! อย่างไรก็ตาม ความคิดเหล่านั้นไม่เคยเพิ่มขึ้นจนกระทั่งฉันเปิดแอปเน็ตฟลิกซ์ขึ้นมาจริงๆ เพราะป้อมปราการแห่งบาปที่ครอบงำชีวิตของฉันอ่อนแอลงตามกาลเวลา 

เมื่อฉันเริ่มปรับความคิดให้จดจ่ออยู่ที่สิ่งที่อยู่เบื้องบน” (โคโลสี 3:1-2) พระเจ้าก็ทรงเปลี่ยนแปลงจิตใจของฉันอย่างอัศจรรย์เพื่อให้ชื่นชมยินดีในวิถีทางของพระองค์ และทรงทำให้ฉันสามารถฝึกฝนตนเองในความชอบธรรมได้ (1 ยอห์น 3:7-8) 

การใช้เวลาอยู่กับพระเจ้ามากขึ้นด้วยพระวจนะและการอธิษฐาน ได้เปลี่ยนแปลงฉันทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้เป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ฉันมองเห็นมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์และปัญหาที่ฉันเผชิญ หรือตัวตนของฉัน สิ่งที่ฉันเคยมองว่าเป็นอุปสรรคที่น่ากลัว ตอนนี้กลับกลายเป็นโอกาสที่จะเติบโตในพระคุณของพระองค์ 

แล้วยังไงต่อ? 

เมื่อถึงวันศุกร์ประเสริฐ การงดดูเน็ตฟลิกซ์ของฉันก็จะสิ้นสุดลง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าฉันจะตรงไปที่เน็ตฟลิกซ์หรือไม่ดูมันอีกเลย แต่เมื่อฉันมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์กับพระเจ้าและรักษานิสัยใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้นอย่างการอธิษฐาน เขียนไดอารี่ และอ่านพระคัมภีร์ ฉันหวังว่านิสัยเหล่านี้จะช่วยชี้นำวิธีใช้เวลาของฉันและปลดปล่อยฉันจากการเสพติด เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ตกเป็นทาสของมันอีก 

หากคุณพบว่าตัวเองตกเป็นทาสหรือให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นในชีวิตของคุณมากกว่าพระเจ้า ผู้ทรงสมควรได้รับคำสรรเสริญและสง่าราศีทั้งหมด ฉันอยากจะแนะนำให้คุณลองงดเว้นสิ่งต่างๆ ซึ่งมันอาจจะแตกต่างจากประสบการณ์การงดดูเน็ตกฟลิกซ์ของฉัน และอาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่ให้เน้นที่เวลาในแต่ละวันที่คุณใช้กับพระเจ้าระหว่างการงดสิ่งต่างๆ แทนที่จะคิดถึงการขาดสิ่งที่คุณถืออด และคุณจะพบว่ามันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง 

Share This