fbpx
WRITER: แดน แพทเทอร์ซัน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ศุภิสรา เจริญศรีศิลป์
EDITOR: พาทินธิดา เจริญสวัสดิ์

แดน แพทเทอร์ซัน เป็นนักพูดของพันธกิจ Ravi Zacharias ที่ตั้งอยู่ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย นอกจากการเดินทางไปทั่วโลกแล้ว แดนยังเป็นศิษยาภิบาลอีกด้วย เรื่องที่เขามักจะพูดในหมู่ประชุมคือ ความเชื่อมโยงระหว่างพระคำของพระเจ้ากับคำถามที่สำคัญที่สุดในชีวิต และเรื่องข้อโต้แย้งยอดนิยมที่มีต่อความเชื่อคริสเตียน โดยเฉพาะในเรื่องของความยากลำบาก แดนแต่งงานกับเอริน และมีลูกชายสามคนคือ โยสิยาห์, เศคาริยาห์ และเสธ

ถึง คริสเตียนขี้สงสัย…

ใจของผมเต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อเห็นวิธีที่คริสเตียนหลายคนปฏิบัติต่อความสงสัยและคนขี้สงสัย ไม่ว่าคำพูดของผมจะมีค่าหรือไม่ ผมก็อยากขอโทษสำหรับทุกช่วงเวลาที่คุณเคยถูกคริสเตียนรอบข้างทำไม่ดีด้วยหรือแม้กระทั่งทำให้รู้สึกว่า “คุณไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรา” เพียงเพราะคุณยังมีปัญหาที่จะเชื่อในบางสิ่งซึ่งคนอื่นดูเหมือนจะเชื่ออย่างง่ายดาย

ผมรู้ว่าเบื้องหลังของผู้เชื่อทุกคนคือคนขี้สงสัย ไม่ว่าเราจะเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านสติปัญญาในเรื่องราวของคริสเตียน หรือต่อประสบการณ์ในคืนที่มืดมิดที่สุดของจิตวิญญาณเมื่อชีวิตกำลังพังทลาย(หรือทั้งคู่) เราต่างก็มีคำถามต่อพระเจ้าและสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ หลายครั้งพระเจ้าไม่มีอยู่จริงในชีวิตของเราท่ามกลางช่วงเวลานั้นเหมือนอย่างที่เราอยากให้พระองค์เป็น

สิ่งมหัศจรรย์ที่ผมค้นพบในพระคัมภีร์ก็คือ การที่พระเยซูดูจะสบายใจในการรับมือกับความสงสัยได้
มากกว่าคริสตจักรเสียอีก
ลองนึกถึงข้อพระคัมภีร์ในพระธรรมสดุดีที่มีคำถามตรงไปตรงมามากมายที่เกิดจากความผิดหวังในพระเจ้าสิ พิจารณาดูถึงคำร้องทูลของกษัตริย์ดาวิดที่ว่า พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย? เหตุใดพระองค์ทรงเมินเฉยต่อการช่วยกู้ข้าพระองค์และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์?” (สดุดี 22:1) ช่างเป็นช่วงเวลาอันน่าอับอายในประวัติศาสตร์จริงๆ ที่พระเยซูร้องไห้บนไม้กางเขน แม้แต่พระเจ้าที่ตั้งคำถามต่อพระเจ้าเองก็ยังมีให้เห็นอยู่ในพระคัมภีร์(มัทธิว 27:46)

หลังจากการฟื้นคืนพระชนม์แล้ว พระเยซูก็ดูเหมือนจะรับได้กับคนขี้สงสัยในกลุ่มของพวกสาวก พระกิตติคุณมัทธิวได้บันทึกถึงเหตุการณ์หลังจากที่พวกสาวกได้เห็นพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์แล้ว ในขณะที่สาวกคนอื่นๆ สรรเสริญนมัสการพระองค์ก็ยังมีสาวกกลุ่มแรกบางคนที่สงสัย(มัทธิว 28:17) เช่น โธมัส ในคืนที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ ขณะที่โธมัสออกไปข้างนอกด้วยเหตุผลบางอย่าง(บางทีอาจจะไปซื้อพิซซ่าไร้เชื้อก็ได้) พระเยซูปรากฎพระองค์เองและโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ (ยอห์น 20:19-23) โธมัสเชื่อในเรื่องนั้นหรือเปล่า? ไม่เลย และยอห์นก็ได้บันทึกไว้อีกว่า พระเยซูปล่อยให้หนึ่งในอัครสาวกของพระองค์อยู่ในหมอกแห่งความสงสัยไปอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ (ยอห์น 20:24-29)

จากเรื่องราวแห่งความสงสัยที่ถูกเติมเต็มด้วยคำถามทั้งหลาย พระคัมภีร์อนุญาตให้เรารับรู้ถึงอารมณ์ และแสดงความเห็นได้

พระเจ้าไม่กลัวที่จะตอบคำถามของคุณอย่างที่คุณอาจเคยพบว่าคริสเตียนบางคนกลัว เพราะบางทีเสียงของคุณอาจไปท้าทายกระแสวัฒนธรรมในคริสตจักรที่ปฏิบัติต่อความสงสัยเหมือนว่ามันเป็นศัตรูทางความเชื่อ ทั้งที่เราทั้งหลายอาจได้ประโยชน์จากมันก็เป็นได้

เรื่องของตัวผมเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ความสงสัยกลายเป็นประตูอันนำมาสู่ความเชื่อคริสเตียน เพราะผมเคยถูกท้าให้ค้นหาว่า เรื่องราวของคริสเตียนนั้นมีเหตุผลมาตอบข้อโต้แย้งของผมหรือไม่ แล้วผมก็ประหลาดใจมาก เมื่อสืบค้นและได้พบกับคำตอบที่มากกว่าคำอธิบายที่มองหาเสียอีก หลังจากนั้นผมได้ถูกเลี้ยงดู และเติบโตในชุมชนคริสเตียนที่คิดว่าความสงสัยและคำถามเชิงวิพากษ์วิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ และในฐานะของคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีคำถามยากๆ จนทำให้ออกห่างจากพระเจ้า ตอนนี้ผมจึงอุทิศชีวิตเพื่อช่วยคนอื่นในการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของคริสเตียน

มีบางคำตอบ(อาจไม่สมบูรณ์) ที่สามารถตอบคำถามกวนใจทั้งหลายได้ แม้คุณอาจรู้สึกว่าไม่ค่อยมีใครพูดถึงมันเท่าไหร่ก็ตามและยังมีสาขาวิชาที่รู้จักกันในชื่อ “การตอบคำถามเรื่องความเชื่อของคริสเตียน (Apologetics)” ที่คอยช่วยเหลือเหล่าคริสเตียนในการต่อสู้เรื่องพระกิตติคุณว่าเป็นข่าวดีและเป็นเรื่องจริง ซึ่งขยายจากหลักฐานต่างๆ มากมายทั้งปรัชญา ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์และจิตวิทยา หลังการถกเถียงและพิจารณาตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกได้ว่า เรื่องราวของพระเจ้าและคริสเตียนนั้นมีเหตุผลมากทีเดียว

แต่การจะเดินทางไปถึงคำตอบของคำถามที่คุณมีนั้น อาจต้องรื้อเปลี่ยนฐานความเชื่อทั้งหมดที่มี เพื่อสร้างความเชื่อขึ้นบนพื้นฐานใหม่ที่จะทำให้ยืนหยัดอยู่ได้เมื่อพายุแห่งความสงสัยและความยากลำบากที่พระเยซูบอกว่าจะมาแน่ๆ ได้มาถึง(มัทธิว 7:24-27)

คุณอาจจะค้นพบเหมือนกันกับผมว่า เรื่องราวของคริสเตียนนั้นลึกซึ้งและน่าตื่นเต้น เพราะมันเป็นเหตุเป็นผลมากกว่าที่คุณคิด ซึ่งนั่นก็เป็นข่าวดีจริงๆ สำหรับทุกด้านของชีวิตมนุษย์

ผมหวังว่าคุณจะสามารถตระหนักถึงเรื่องที่อยู่เบื้องหลังคำถามของคุณได้ เหตุผลที่เราคิดว่าเป็นต้นตอในการทำให้เราออกห่างจากพระเจ้านั้นอาจไม่ถูกต้องเสมอไป บ่อยครั้งมันเป็นเพียงเส้นทางที่เชื่อมไปถึงความไม่เชื่อวางใจลึกๆ ที่เรามีต่อเรื่องของพระเจ้าผมไม่รู้ว่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ใดทำให้คุณมาถึงจุดที่มีความสงสัยนี้ แต่ผมอยากรู้ว่าคุณไม่ได้กำลังมีความผิดหวังต่อพระเจ้ากองถมอยู่ในใจขณะที่คุณกำลังถามคำถามเหล่านี้กับพระองค์อยู่ใช่ไหม เพราะถ้าใช่บริบทของพระคัมภีร์ในการรับมือต่อความสงสัยในหัวใจจะแตกต่างจากความสงสัยในความคิด ด้วยความคิดต้องการคำตอบแต่หัวใจกลับต้องการความเมตตา การอยู่เคียงข้าง มิตรภาพ และการเยียวยารักษา ดังนั้นการวินิจฉัยความสงสัยให้ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ

แต่ขอผมปิดท้ายบทความนี้ด้วยถ้อยคำแห่งความหวังนะครับ ครั้งหนึ่งอัครทูตเปโตรเคยคิดว่าความเชื่อของเขาจะไม่มีวันถูกสั่นคลอนเพราะความสงสัย เขาสัญญากับพระเยซูว่าจะไม่ทอดทิ้งพระองค์ แม้ใครๆ จะทำอย่างนั้นแต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเขากลับสูญเสียความเชื่อของตัวเองไป เขาสงสัยในทุกอย่างก่อนจะปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้งและนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

พระเยซูตรัสกับเขาว่า ซีโมน ซีโมนเอ๋ย นี่แน่ะ ซาตานขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลีแต่เราอธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาดและเมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” (ลูกา 22:31-33)

ตอนนี้เราได้รู้แล้วว่าพระเยซูได้ทรงพันผูกความรักของพระองค์ด้วยการอธิษฐานเผื่อให้ความเชื่อของคุณไม่ขาดไป พระองค์ยืนต่อหน้าพระบิดาและทรงมีชีวิตนิรันดร์พร้อมด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทูลขอเผื่อเรา(ฮีบรู 7:25) นี่คือท่าทีแห่งความหวังและภาพสะท้อนของพระเจ้าที่มอบความอบอุ่นให้กับใจที่สงสัยของผมอยู่เสมอ

ผมไม่ได้เป็นผู้เผยพระวจนะหรือว่าเป็นลูกของผู้เผยพระวจนะ ผมแค่หวังว่าวันหนึ่งคุณจะกลับมานมัสการพระเยซูด้วยตรรกะความคิดและใจที่เชื่อในความดี ความจริง และความงดงามของพระกิตติคุณ ด้วยการทำอย่างนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะเสริมกำลังเหล่าผู้คนที่ขี้สงสัยอย่างผมได้แน่นอน

YOU MAY ALSO LIKE

สรรเสริญวันสะบาโตด้วยการวางทุกสิ่งลง

สรรเสริญวันสะบาโตด้วยการวางทุกสิ่งลง

WRITER: จาเนล ไบเทนสไตน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: Mustard Seed Team ในฤดูร้อนปี 2016 ครอบครัวของฉันขนข้าวของจากประเทศยูกันดาขึ้นเครื่องบินไปอเมริกาเป็นเวลาหกเดือน ระหว่างจัดกระเป๋าสำหรับวันหยุดยาวนี้ ฉันมีความรู้สึกขัดแย้งบางอย่าง...

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

WRITER: ราเชล มอร์แลนด์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: ธนากร พูลสินกูล ฉันไม่มีทางลืมครั้งแรกที่ฉันเริ่มมีอาการตื่นตระหนกได้ (ความรู้สึกกลัวหรือไม่สบายใจอย่างมาก) เกิดขึ้นในปีที่ 2...

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

WRITER: มาร์ค สตอร์เมนเบิร์ก ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผมทำบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนคือ การที่ผมร้องไห้ให้กับนักแสดง ผมไม่ใช่คนที่คอยตามข่าวดาราหรือหมกมุ่นกับชีวิตของดาราฮอลลี่วู้ด...

Share This