fbpx
WRITER: เคเรน พิมโพ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Mustard Team
EDITOR: Mustard Team

เธอเป็นยังไงบ้างกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น? จริงๆ แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง?” หนึ่งในเพื่อนของฉันถามฉันเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่พวกเรากำลังวีดีโอคอลกันโดยเราทั้งคู่ต่างกักตัวอยู่ที่บ้าน ฉันคิดว่าฉันบอกเพื่อนว่าฉันสบายดี รู้สึกขอบคุณที่ยังสามารถทำงานที่บ้านได้ ฉันรู้ว่าฉันได้รับการอวยพรให้ยังมีอาหาร ที่พัก และสิ่งต่างๆ ท่ามกลางช่วงเวลาอันสับสนวุ่นวายนี้ แต่ฉันหวังว่าฉันน่าจะพูดคำตอบจากใจจริงๆ ว่าขณะที่โลกของเรากำลังกลับตาลปัตร ฉันมักรู้สึกหมดหวัง กลัว และสิ้นหวังอยู่บ่อยครั้ง

วันอีสเตอร์คงจะไม่เหมือนเดิมในปีนี้ ด้วยตอนนี้โลกกำลังสับสน และครอบครัว เพื่อนๆ ต่างถูกแยกจากกัน ความชื่นชมยินดีและการอยู่ร่วมกันในวันอีสเตอร์นั้นได้หายไป แต่ละวันข้อปฏิบัติต่างๆ สำหรับการกักตัวก็เพิ่มขึ้น รายชื่อผู้คนที่ถูกยืนยันว่าติดเชื้อก็เพิ่มขึ้น ความโศกเศร้าอย่างต่อเนื่องเมื่อมีคนตายเพิ่มขึ้น เพื่อนๆ และครอบครัวต่างถูกเลิกจ้าง นักเรียนและผู้ปกครองต่างพยายามที่จะปรับตัวเกี่ยวกับการขาดเรียนของเด็กๆ เก้าอี้ในโบสถ์ต่างว่างเปล่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานท่ามกลางความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในทุกๆ วัน เพื่อทำให้โลกของเรานั้นยังเดินหน้าต่อไปได้ บุคลากรทางการแพทย์ต่างถูกถาโถมด้วยงานมากมาย และในบางที่นั้นถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจในสิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับชีวิตและความตาย แม้ว่าอีสเตอร์กำลังใกล้เข้ามา มันเหมือนกับว่าโลกของเรากำลังขาดสีสันและความสว่างที่เคยมี

ถ้าจะให้ฉันพูดตรงๆ มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารอให้อีสเตอร์ปีนี้มาถึงเลยแต่ฉันพร้อมที่จะรับความหวังที่อีสเตอร์จะนำมาให้

บางทีความท้อใจที่เรากำลังรู้สึกนั้น จริงๆ แล้วอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยเราในการเตรียมตัวที่จะรับความหวังที่เป็นหัวใจของวันอีสเตอร์ก็ได้

ฉันคิดถึงวันที่กำลังนำไปสู่อีสเตอร์ครั้งแรกเมื่อตอนที่พระเยซูถูกตรึงที่กางเขน เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่รู้เรื่องราวอีสเตอร์จากมุมมองภายในสู่ภายนอก มันเป็นเรื่องง่ายที่จะข้ามไปตอนที่เฉลิมฉลองการที่พระเยซูเป็นขึ้นแล้ว! พระองค์เป็นขึ้นแล้ว! พระองค์ทรงจ่ายค่าไถ่ความบาปของพวกเราแล้ว! พระองค์ทรงครอบครองชั่วนิรันดร์!

แต่ในช่วงเวลา ตอนนี้ ช่วงกักตัว และการยกเลิกสิ่งต่างๆ ความเจ็บป่วยและความโศกเศร้า พวกเราเขยิบเข้าใกล้การเข้าใจบรรยากาศของอีสเตอร์ครั้งแรก เหล่าสาวกที่ฉันแอบรู้สึกดูถูกในความเขลาและแตกแยกของพวกเขา ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกแตกต่างจากพวกเขาอีกต่อไป ความกลัวของพวกเขา ความไม่มั่นคงของพวกเขา และความสงสัยได้สะท้อนให้เห็นถึงตัวฉันในสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรน่านี้

เหล่าสาวกได้เป็นพยานถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูถูกจับกุม ถูกสอบสวน ถูกทรมาน และหนทางแสนไกลสู่โกละโกธา ความสับสน ความหวาดกลัวต้องถาโถมใส่พวกเขาอย่างมากมาย พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้พระเยซูได้บอกพวกเขาถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น พวกเขาไมได้เห็นจุดจบอันแสนสุข พวกเขาเห็นเพียงไม้กางเขน

คุณกำลังรู้สึกดิ้นรนในการมองหาพระเจ้าท่ามกลางสถานการร์เหล่านี้ไหม? พวกเหล่าสาวกก็รู้สึกเหมือนกัน

เหล่าสาวกยังคงล้มลงในความกลัวอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในสาวกฟาดดาบด้วยความรุนแรงและตัดหูของทหาร สาวกอีกหนึ่งคนปฏิเสธพระเยซูถึงสามครั้ง สาวกสองคนกลัวทูตสวรรค์ที่อุโมงค์ฝังพระศพ มากกว่านั้นพวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อพยานที่เห็นถึงการเป็นขึ้นมาของพระเยซู การตอบสนองของพวกเขาในหลากหลายรูปแบบนั้นได้เตือนให้ฉันคิดถึงการตอบสนองของตัวเองในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การตอบสนองด้วยความกลัว ความกังวลใจ ความโกรธ และแม้กระทั่งความไม่แยแส พยายามที่จะแก้ปัญหาการระบาดครั้งใหญ่นี้ด้วยกำลังของตัวเองซึ่งมันนำไปสู่แค่การตอบสนองที่ผิด แค่ไปร้านสะดวกซื้อก็รู้สึกสงสัยคนรอบๆ ข้าง ฉันพยายามต่อสู้เพื่อจะได้กักตุนสิ่งของต่างๆ ที่มากกว่าความต้องการเพื่อปกป้องตัวเอง สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติบาปของฉัน

อย่างไรก็ดี เพราะว่าในอีสเตอร์ครั้งแรก พวกเรามีความหวังที่ไม่สั่นคลอนในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวของเราเอง ความหวังที่พวกเรามีคือ พระเยซูเดินไปยังกางเขนและยอมตายเพื่อทำให้เราสามารถเป็นเพื่อนกับพระเจ้า(ยอห์น 15:15) พระองค์ทรงชนะความบาปและความตาย ทรงปลดปล่อยเราจากการประนาม(โรม 8:1) พระองค์ส่งให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้สนับสนับสนุน เป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ปลอบโยน และเป็นเพื่อนเรา(ยอห์น 14:26) พระองค์ทรงทำให้เราสามารถอธิษฐานโดยตรงต่อพระบิดาในพระนามพระเยซูและได้รับในสิ่งที่เราทูลขอ(ยอห์น 16:23) พระองค์ทรงสัญญาว่าจะกลับมาหาเราในวันข้างหน้าและทำให้ทุกสิ่งนั้นถูกต้อง(ยอห์น 14:28, วิวรณ์ 21:5)

ใช่แล้ว อีสเตอร์อาจจะดูแตกต่างไปในปีนี้ แต่ความหวังนี้ยังคงอัศจรรย์และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของโลกในตอนนี้ก็เหมือนกับวันอีสเตอร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มันทั้งยิ่งใหญ่ เจิดจ้า และมอบความหวังให้กับชีวิตเรา แม้ว่ากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ระดับโลกก็ตาม ความหวังนั้นได้ชนะความกลัว ความล้มเหลวทั้งหมดของเรา และให้กำลังที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งมากกว่ากำลังของตัวเราเอง

ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยากพระเยซูตรัสว่าแต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว(ยอห์น 16:33)

YOU MAY ALSO LIKE

ภายใต้หน้ากากรอยยิ้ม ฉันเคยฆ่าตัวตาย

ภายใต้หน้ากากรอยยิ้ม ฉันเคยฆ่าตัวตาย

WRITER: จานีน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: เฮจี คิมEDITOR: Mustard Seed Team การฆ่าตัวตาย เรามักจะหลีกเลี่ยงคำนี้ให้พ้นจากสายตา เพราะดูน่ากลัว ต้องเผชิญหน้า และเป็นจริงเกินไป เราอ่านเจอได้ในหนังสือพิมพ์และดูข่าว แต่ส่วนใหญ่แล้วมันไม่ได้กระทบใจเราเป็นการส่วนตัว...

ทำไมการถ่อมใจ จึงไม่เหมือนกับการลดคุณค่าในตัวเอง

ทำไมการถ่อมใจ จึงไม่เหมือนกับการลดคุณค่าในตัวเอง

WRITER: จาเนล ไบร์ทเท็นสไตน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team เพื่อนของฉันจ้องมองมาที่ฉันผ่านเฟสไทม์พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ “ฉันแค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันนับคำว่า 'โง่' ได้ถึงหกครั้งเมื่อเธอพูดถึงตัวเอง” เธอยิ้ม...

จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรควรลาออก

จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรควรลาออก

WRITER: แอนดรูว์ แลร์อาด ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ณัฐฤทัย อาสาประโคนEDITOR: Mustard Seed Team แอนดรูว์ ทำงานอยู่กับ City Bible Forum ในประเทศออสเตรเลีย และเป็นผู้ดูแลโครงการ Life@Work...

Share This