
WRITER: แครอล เล้อ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: อาเกียว
เมื่อเรามีคำถามเกี่ยวกับพระคัมภีร์ หลายครั้งเรามักจะรู้จักพระเจ้ามากขึ้นผ่านคำถามเหล่านั้น แต่เราควรจะทำอย่างไร เมื่อเรามีคำถามและยิ่งเราอ่านพระคัมภีร์มากเท่าไหร่ เรากลับรู้สึกสับสนมากขึ้น
เช่น ตอนที่ฉันอ่านพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม ในพระธรรมมัทธิว 11:29 พระเยซูกล่าวว่า “จงเอาแอกของเราแบกไว้แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม” แต่ในพระธรรมมาระโก 11 ฉันกลับพบว่า พระเยซูทรงสาปต้นมะเดื่อเพราะมันไม่ออกผล และพระองค์ทรงคว่ำโต๊ะในพระวิหาร ฉันจะเข้าใจการกระทำเหล่านี้จากความสุภาพและใจอ่อนน้อมของพระองค์ได้อย่างไร
และเมื่อความสงสัยของฉันเริ่มเปลี่ยนเป็นความไม่เชื่อ ฉันจึงอยากหยุดอ่านพระคัมภีร์ ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่จะทำเมื่อเกิดความสงสัย แต่นี้คือห้าสิ่งที่ได้ช่วยฉันที่จะจัดการกับความสับสนที่เกิดขึ้น
1. อย่าหยุดอ่านพระคัมภีร์หรือหยุดไปโบสถ์
ฉันเห็นเพื่อนหลายๆ คนที่ไปจากโบสถ์หรือเลิกเป็นคริสเตียนเมื่อคำถามของพวกเขาไม่ได้รับคำตอบ และฉันจำได้ว่าเมื่อฉันใคร่ครวญคำถามเหล่านั้น ฉันแน่ใจว่าพระคัมภีร์มีคำตอบให้กับพวกเขา ฉะนั้นถึงแม้ว่าความเชื่อของฉันจะสั่นคลอน แต่ฉันตัดสินใจที่จะยังคงไปโบสถ์ อ่านพระคัมภีร์ ถามคำถามกับคริสเตียนคนอื่นๆ และผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์จนกว่าฉันจะเข้าใจว่าพระเจ้าคือใคร
มันเป็นการง่ายมากที่เราจะสงสัยในความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์เมื่อเราเกิดคำถามกับสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้น แต่พระคัมภีร์คือพระวจนะของพระเจ้า(2 เปโตร 3:15-17) และเป็นความจริง(สดุดี 119) และพระคัมภีร์ยังเพียงพอสำหรับเรา(2 ทิโมธี 3:15-17) ข้อยืนยันเหล่านี้เป็นได้เพียงเรื่องเท็จหรือความจริง มันไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างได้ ถ้าคุณเชื่อพระเจ้า คุณต้องเชื่อว่าพระคัมภีร์คือพระวจนะของพระเจ้า
ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์จะถูกเขียนโดยผู้เขียนหลายๆ ท่านในหลายๆ สถานที่ของโลกในอดีตและหลายๆ ช่วงเวลา แต่ผู้เขียนทุกท่านเขียนถึงพระเจ้าองค์เดียวกันและข่าวประเสริฐเดียวกัน เป็นงานเขียนที่สอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ นักประวัติศาสตร์ได้ยืนยันถึงการมีตัวตนอยู่จริงของพระเยซูและการตรึงกางเขนของพระองค์ สำหรับฉัน แค่นี้ก็เป็นหลักฐานที่เพียงพอถึงความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์
การที่เราหยุดอ่านพระคัมภีร์และเลิกไปโบสถ์ เปลี่ยนไปหาความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าในที่อื่นคือเรื่องผิดพลาด เพราะว่าที่อื่นๆบนโลกนี้ต่างปฏิเสธพระองค์ แล้วเขาจะบอกคุณเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้าได้อย่างไร
2. อธิษฐานขอความเข้าใจ
ยากอบ 1:5 กล่าวว่า “ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า” ก่อนที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงสัญญาว่าพระองค์จะส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสอนเราทุกสิ่งและคอยเตือนผู้ที่เชื่อในพระองค์ถึงทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสอน(ยอห์น 14:26) ทุกวันนี้ เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นที่ปรึกษาเพราะฉะนั้นให้เรายอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำเรา อธิษฐานขอสติปัญญา ความเข้าใจ และเปิดใจของเราให้รับความจริง
บางทีคุณอาจคิดว่า พระเจ้าจะตอบคำถามของเราอย่างชัดเจน ฉันเคยคิดสงสัยมาก่อน ฉันถามพระเจ้าว่าทำไมพระองค์ทรงคว่ำโต๊ะและสาปต้นมะเดื่อแต่สอนให้เรารักศัตรูของเราและอย่าตอบแทนชั่วด้วยความชั่ว แต่พระองค์ไม่ได้ทรงตอบอธิบายการกระทำของพระองค์แก่ฉัน ในทางตรงกันข้าม พระองค์ทำให้ฉันคิดถึงตอนที่พระเจ้าทรงตอบโยบ เมื่อโยบถามพระองค์เกี่ยวกับการทนทุกข์ที่เขาเผชิญ “เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา” (โยบ 38:4)
ฉันบอกพระเจ้าว่า มันฟังดูไม่เข้าท่า
เมื่อคำถามของฉันเพิ่มมากขึ้น ฉันเริ่มสงสัยว่าทำไมฉันควรจะเชื่อพระเจ้าที่ไม่เคยทำการอัศจรรย์ให้ฉันเห็นเหมือนที่พระองค์ทรงทำในพระคัมภีร์ มีคนที่รักฉันได้ให้คำให้กำลังใจฉันว่า นั้นคือทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำได้จริงๆ หรอ
แต่เมื่อฉันเริ่มอธิษฐาน พระเจ้าทรงสำแดงให้ฉันเห็นถึงการทำงานของพระองค์ในโลกนี้และในชีวิตของฉัน แม่ของฉันได้เจอคนเดียวกันสองครั้งเมื่อเธอเดินไปที่ห้องน้ำหลังจากการนมัสการ และคนๆ นั้นกลายเป็นผู้รักษาฉัน เพื่อนสนิทของฉันได้เป็นพยานเกี่ยวกับการสำแดงของพระเจ้าและสิ่งที่พระองค์ทำอยู่ในชีวิตของเธอ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่า ฉันจะไม่รู้สึกถึงพระองค์ แต่พระองค์กำลังทำสิ่งต่างๆ อยู่รอบๆฉัน และตอนนี้ เมื่อฉันมองย้อนกลับไป ฉันสามารถเห็นรอยพระบาทของพระองค์ท่ามกลางความยากลำบากและความดื้อรั้น
พระองค์จะคอยช่วยคุณในทุกคำถามของคุณ ให้คุณเดินเข้าไปหาพระองค์ เคาะที่ประตูอย่างไม่ลดละ อย่ายอมแพ้ที่จะแสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจของคุณ ถ้าคุณรอคอยอย่างอดทน คุณจะได้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น
3. กลับไปที่จุดเริ่มต้น
เมื่อเรามีคำถามที่ทำให้เราสับสน เราจำเป็นต้องมีพื้นฐานที่แข็งแรงเพื่อยืนหยัดได้ อะไรคือศิลาที่เรายืนอยู่ อะไรทำให้เรามั่นใจ ให้เราเขียนสิ่งที่เรามั่นใจและสิ่งที่เราควรจะมั่นใจออกมา และนี่คือสิ่งที่ฉันเขียน
– พระเจ้าทรงสร้างโลก และทุกสิ่งที่ทรงสร้างนั้นดี(ปฐมกาล 1)
– มนุษย์ไม่เชื่อฟังพระเจ้าและความบาปเข้ามาในโลกนี้(ปฐมกาล 3)
– พระเจ้าทรงเสด็จมาบังเกิดบนโลกนี้ และพระเยซูยอมตายแทนเรา(มัทธิว 1-2, ลูกา 2)
– พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์และสามวันหลังจากนั้น พระองค์ทรงชนะความบาปและความตาย(ดูจากพระกิตติคุณเล่มไหนก็ได้)
– ทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาปและชีวิตนิรันดร์(มัทธิว 26:28, ยอห์น 3:16)
– พระเจ้าต้องการให้เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์และถวายเกียรติแด่พระเจ้า(ปัญญาจารย์ 12:13)
– พระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้เชื่อทุกคนเพื่อช่วยเราในการใช้ชีวิตบนโลกนี้(ยอห์น 14:16-18)
ข้อความเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสงสัย แต่การเริ่มต้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นอาจนำไปสู่ความสงสัยในทุกสิ่งที่คุณเชื่อ ในกรณีเหล่านี้ ฉันพบว่า ฉันต้องกลับไปที่รากฐานของความเชื่อและเช็คดูว่ามันยังมั่นคงอยู่รึเปล่า ฉันจะอ่านการทรงบังเกิดของพระเยซูคริสต์ การสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์
การรู้สิ่งที่สำคัญในความเชื่อของคุณจะทำให้คุณแยกความจริงออกจากการตีความและความเห็น สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ในการที่จะหาคำตอบของคำถามที่คุณมี
4. คุยกับผู้เชื่อที่เข้มแข็งที่คุณไว้ใจ
พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่มีคนอ่านเยอะที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณสงสัยหรือคำถามของคุณอาจจะไม่ใช่สิ่งใหม่ คนที่เคยพบคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นพร้อมที่จะแบ่งปันสิ่งที่เขาค้นพบกับคุณ สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องมองหาคริสเตียนที่คุณวางใจ ที่คุณไม่กลัวที่จะเข้าหา หรือคนที่รู้จักพระคัมภีร์ดี
สำหรับฉัน คนคนนั้นคือพ่อของฉัน ครั้งหนึ่งฉันอ่าน(2 เธสะโลนิกา 1:5-9) พระเจ้าจะทรงพิพากษาทุกคนที่ทำให้เกิดความทุกข์ยาก ฉันมีคำถามเกิดขึ้นเมื่อฉันอ่านพระธรรมตอนนี้ ถ้าคนเหล่านั้นก็กำลังทนทุกข์อยู่และไม่ได้หมายความว่าเขาทำให้เกิดความทุกข์ยากละ ฉันเอาคำถามนี้ไปถามพ่อของฉัน และเราได้พูดคุยเกี่ยวกับการพิพากษาและพระคุณของพระเจ้า พ่อบอกฉันถึง 1 ยอห์น 1:9 ที่บอกว่า ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจาการอธรรมทั้งสิ้น ทำให้ฉันเข้าใจพระธรรมตอนนี้
5. ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างฉลาด
ถ้าคุณไม่มีเพื่อนคริสเตียนที่วางใจได้เพื่อปรึกษา คุณสามารถค้นหาคำตอบผ่านแหล่งอื่นๆ ที่เชื่อถือได้ คำตอบของพ่ออาจไม่สามารถทำให้ฉันหายสงสัยได้ทุกครั้ง ฉันจึงหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
วิธีที่จะบอกว่าแหล่งข้อมูลนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ คือการดูว่าข้อมูลนั้นขัดแย้งกับพื้นฐานความเชื่อที่เราได้พูดกันไปหรือไม่ ถ้าใช่ แหล่งข้อมูลนั้นอาจไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ ถ้าข้อมูลนั้นไม่ขัดแย้ง ให้ลองดูว่าในข้อมูลนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระคัมภีร์มากเพียงใด หรือได้ใช้แหล่งอ้างอิงพระคัมภีร์มากแค่ไหน เช่นถ้าเขาอ้างถึงการพิพากษาในพระคัมภีร์เก่าโดยที่ไม่ได้อ้างอิงถึงพระคัมภีร์ใหม่เลย แหล่งข้อมูลนั้นอาจไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ
ฉันใช้บันทึกของ Lumina ในเวปไซต์ Bible.org และ เวปไซต์ GotQuestions.org เพื่อที่จะเข้าใจพระคัมภีร์เมื่อฉันสับสน ซึ่งมีคำตอบในเกือบทุกคำถามที่เราสามารถถามเกี่ยวกับพระเจ้าและพระคัมภีร์ ฉันค้นพบว่าในช่วงแรกการอ่านบทความหรือความเห็นที่เขียนโดยคนหลายๆคนจะทำให้ฉันยิ่งสับสัน ยิ่งถ้าคำตอบของเขาขัดแย้งกับสิ่งที่พ่อของฉันบอกฉันหรือขัดแย้งกับหนังสือศึกษาพระคัมภีร์ที่ฉันมี เพราะฉะนั้น ฉันแนะนำให้ศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อที่ถูกต้องเช่น Desiring God หรือมานาประจำวัน
ฉันยังพบคำตอบของคำถามในทุกครั้งที่ฉันอธิษฐาน อ่านและคิด พระเยซูคือพระเจ้า พระองค์มีสิทธิอำนาจที่เราไม่มี มีหลายสิ่งที่พระองค์ทรงทำได้และเราทำไม่ได้ และฉันไม่ได้ช่วยพระองค์สร้างโลกนี้ ฉันเป็นใครที่จะไปสาปต้นมะเดื่อในเมื่อฉันเป็นหนึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง
ฉันค้นพบความจริงที่ว่ามันจะมีบางสิ่งที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้เลย หรือเข้าใจได้เพียงบางส่วนเพราะเราเป็นเหมือนคนตาบอดที่กำลังคลำบางส่วนของช้าง ยังมีคำถามที่ฉันคิดว่าฉันจะถามพระเจ้าเมื่อฉันได้ไปอยู่บนสวรรค์
ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าหรือพระคัมภีร์ ฉันอยากให้คุณนำคำถามนั้นไปหาพระเจ้า อธิษฐานเผื่อการหาคำตอบ อย่าใช้ความสงสัยของคุณเป็นข้ออ้างในการหยุดอ่านพระคัมภีร์ อ่านทีละนิดแต่ใช้เวลาใคร่ครวญมากขึ้น หรือใช้หนังสืออรรถาธิบายที่จะช่วยคุณ แต่ขอให้คุณไม่หยุดในการค้นหาพระเจ้า ตราบใดที่เรายังติดสนิทกับพระเจ้า พระองค์จะทรงทำงานในชีวิตของเรา(ยอห์น 15:5) และพระองค์จะทรงสำแดงว่าพระองค์คือความจริง
YOU MAY ALSO LIKE
เมื่อรักไม่เป็นดังฝัน
Artwork by : Mustard Seed TeamWritten by : Mustard Seed Teamคำอธิบาย : แต่เมื่อความรักที่เราคาดหวังหรือวาดฝันไว้ไม่เป็นไปตามที่เราหวัง หรือรู้สึกเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ที่ไม่สมบูรณ์หรือการผิดหวังจากความรัก การเลิกราไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม อาจจะหมดรัก...
5 วิธีในการรับมือกับคำถามที่ว่า “ทำไมเรายังโสดอยู่?”
WRITER: โนนิ เอลิน่า คริสเตียนิ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Chumpon RungritEDITOR: Mustard Seed Team “ปีใหม่แล้ว ทำไมเธอยังโสดอยู่เลยหล่ะ?” “เมื่อไหร่เธอจะมีแฟน?” “รู้อะไรไหม เพื่อนเธอสมัยมัธยมปลายมีลูกสองคนแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะมีกับเขาบ้างหล่ะ?”...
5 สิ่งที่ฉันไม่เคยรู้จนกระทั่งได้แต่งงาน
WRITER: เจน ลิม ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PakkyEDITOR: Mustard Seed Team ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันตั้งตาคอยที่จะได้แต่งงานมาตลอด ฉันได้อ่านหนังสือและถามคำถามกับตัวเองมากมายเพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้...