fbpx
WRITER: Mustard Seed Team
EDITOR: Mustard Seed Team

ในโบสถ์มีคนหลายรุ่น หลายบุคลิกภาพ หลายสถานะอยู่รวมกัน บางครั้งจึงเกิดความไม่เข้าใจกัน สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง โลกนี้ไม่มีอะไรที่ถูกใจเราไปเสียทุกอย่าง

หลายต่อหลายครั้งที่เราพยายามให้คนอื่นเปลี่ยนมาในทิศทางที่เราเลือกตัดสินใจ โดยที่ไม่ได้ฟังและเข้าใจคนอื่น แต่เรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจและยอมรับเรา ต่อต้านและตำหนิคนอื่นโดยไม่เข้าใจ

เเม้เราจะมีอายุช่วงวัย ความคิด ภูมิหลัง ความชอบที่แตกต่างกัน แต่เรามีพระเจ้าองค์เดียวกัน ที่จะนำเราให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเราก่อให้เกิดความรักและความสุข

การยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยลดปัญหาความขัดแย้งในความสัมพันธ์ได้

แต่เราสามารถเปิดใจและเรียนรู้จักกันมากยิ่งขึ้นได้ โดยผ่านการพูดคุยในกลุ่มเล็กๆ ที่อาจจะมีความชอบหรือมีอาชีพคล้ายกัน การออกไปประกาศด้วยกัน และการอธิษฐานด้วยกัน

การฟังอย่างเข้าใจ จะเห็นมุมมองของคนอื่น

“จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน” เอเฟซัส 4:3

การสื่อสารเป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้เข้าใจมากขึ้น โดยจะต้องเป็นผู้ฟังที่ดีและฟังอย่างตั้งใจ หากเป็นเรื่องสำคัญควรมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน แสดงความจริงใจ ใส่ใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เปลี่ยนคำพูดให้เหมาะสม เคารพในความคิดที่แตกต่าง ไม่มัวแต่อยากจะเอาชนะกันจนลืมในจุดๆ นี้ไป ซึ่งอาจทำให้เรื่องราวนั้นบานปลายได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เอาเรื่องไปพูดปากต่อปาก กล้าเผชิญหน้า ลองนั่งเปิดอกคุยกันแบบตรงๆ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด หากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น ออกมิชชั่นทริป ศึกษาพระคัมภีร์ในกลุ่มเซลล์ นำกลุ่มอธิษฐาน ฯลฯ

เพราะความสัมพันธ์ที่ดีนั้นยิ่งใหญ่กว่าความเเตกต่าง ฉะนั้นให้เราเข้าใจและเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ มาร่วมมือกันรับใช้พระเจ้า เพื่อให้น้ำพระทัยพระเจ้าสำเร็จ ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันและมัวแต่จดจ่ออยู่ที่ความแตกต่าง การลดความขัดแย้งช่วยให้คริสตจักรเติบโตและถวายเกียรติพระเจ้า ขอให้เราทุกคนจะเติบโตไปด้วยกัน 🙂

“ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด

เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะไหลอาบลงมาบนหนวดเครา

บนหนวดเคราของอาโรน ไหลอาบลงมาบนคอเสื้อของท่าน

เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน

เพราะว่าพระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตจำเริญเป็นนิตย์” – สดุดี 133:1-3

YOU MAY ALSO LIKE

ความผิดพลาด 3 อย่างที่สอนผมเรื่องพระปัญญาและเวลาของพระเจ้า

ความผิดพลาด 3 อย่างที่สอนผมเรื่องพระปัญญาและเวลาของพระเจ้า

WRITER: ราฟาเอล ชาง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: กาญจนา​ กาญจนพาทีEDITOR: ปวีณา นิลบุตร เมื่อตอนอายุประมาณ 20 ต้นๆ ผมได้วางแผนชีวิตว่าจะต้องเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นนักดนตรี และเป็นผู้รับใช้ในคริสตจักรก่อนอายุ 25 ปี...

จากโรคบูลิเมียสู่โรคซึมเศร้า: พระเยซูทรงจับฉันไว้แน่นท่ามกลางความเจ็บป่วยทางจิตใจ

จากโรคบูลิเมียสู่โรคซึมเศร้า: พระเยซูทรงจับฉันไว้แน่นท่ามกลางความเจ็บป่วยทางจิตใจ

WRITER: เชวอง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์ เมื่อฉันมาเป็นคริสเตียนตอนอายุ 16 ไม่นานฉันก็ตระหนักได้ว่าชีวิตมันตรงข้ามกับคำสอนหลายๆ อย่างของเหล่าศิษยาภิบาล ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเลย ความจริง...

พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)

พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)

WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...

Share This