WRITER: เจฟฟรี่ เซียว ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร
การอยู่เป็นโสดไม่ใช่เรื่องผิด ใช่ คุณอ่านถูกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรถ้าหากคุณยังไม่แต่งงานหรือผูกพันธ์กับใคร หรือยังไม่เคยคบหาดูใจกับใครเลย
แน่ทีเดียว พระเจ้าสร้างให้เรามีความปรารถนาที่จะมีความรัก ดังนั้นจึงเป็นเรื่อง(ที่)ปกติมากที่เราอยากจะแต่งงาน แต่คุณค่าของเราไม่ได้ถูกกำหนดจากสถานะว่ามีคู่หรือไม่มี
แน่นอน สิ่งหนึ่งที่คนโสดหลายคนต้องเผชิญคือความเหงา บางคนพยายามจัดการกับมันโดยการทำกิจกรรมต่างๆ ทำตัวให้ยุ่งตลอดเวลา และออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บางคนจัดการความเหงาด้วยการซื้อของที่อยากได้ เช่น การซื้อแกดเจ็ตตัวใหม่ล่าสุด หรือยอมปล่อยตัวเองไปกับความบันเทิงรูปแบบต่างๆ และบางคนก็ถูกล่อลวงให้แสวงหาความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องอย่างสื่อลามกหรือการซื้อบริการ
พวกเราหลายคนมักเอาเงื่อนไขของคำว่า “ถ้า” หรือ “ควร” เข้ามาใส่ให้กับความสัมพันธ์และการสมรส ถ้าฉันมีแฟนหรือถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันก็จะไม่รู้สึกเหงา ทุกคนควรมีประสบการณ์ในการแต่งงาน (หรืออย่างน้อยก็ฉันคนหนึ่ง) การมีแฟนเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในฐานะการเป็นมนุษย์ รวมไปถึงการแต่งงาน การมีลูก และอื่นๆ ตามมา ถ้าฉันไม่ได้ตามนี้ทั้งหมดมันก็ไม่เท่าเทียมสักเท่าไหร่
แต่รูปแบบการคิดเหล่านี้มักสร้างความขมขื่นให้กับเรา การจดจ่อแต่ในสิ่งที่เราไม่มี ทำให้เราจะสูญเสียการมองเห็นถึงพระสิริและการงานที่พระเจ้าทำในชีวิตของเรา เราจะมองเห็นเฉพาะสิ่งที่เรายังขาด ไม่เห็นถึงสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมให้กับเราด้วยพระทัยที่กว้างขวาง อีกทั้งเราอาจลืมว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่เราสามารถเข้าส่วนในงานของพระเจ้าได้เป็นอย่างดีเพราะเรายังโสดอยู่ อัครทูตเปาโลได้ยกตัวอย่างข้อดีของการเป็นโสด ว่าไม่มีสิ่งใดที่จะแย่งความสนใจของพวกเขาต่อพระเจ้าได้ (1 โครินธ์ 7:32-35)
เราสามารถสูญเสียความชื่นบานที่เราหาได้ในขณะที่เราเป็นโสดเพียงเพราะเราคิดว่าเราจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเรามีแฟน กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการที่เรายอมให้ความบาปทางเพศเข้าควบคุมชีวิตเรา ไม่เพียงแค่มันจะทำลายชีวิตของเราในตอนนี้ แต่มันจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคู่ชีวิตของเราในอนาคตอีกด้วย
ผมอยากจะหนุนใจหนุ่มคริสเตียนทุกคนที่ยังโสดอยู่ จงจัดการกับความเหงาด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป จงอย่าให้ความเหงาเข้าควบคุมชีวิตของคุณ อย่าให้รากของความขมขื่นฝังอยู่ในจิตใจ
จงจำไว้ว่า ความเหงาไม่ได้เกิดจากการที่ไม่มีแฟนหรือภรรยา ความเหงาคือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ ไม่ว่าพวกเขาจะแต่งงานแล้วหรือไม่
แม้แต่พระเยซูเองก็ยังเคยพบกับความโดดเดี่ยว ครั้งเมื่อเหล่าสาวกของพระองค์ทอดทิ้งพระองค์ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพระองค์ อย่าลืมว่าความโดดเดี่ยวเป็นแค่การทดลอง มันจะกลายเป็นความบาปก็ต่อเมื่อเรายอมให้มันควบคุมชีวิตของเรา
ครั้งต่อไป เมื่อคุณรู้สึกโดดเดี่ยว จงให้มันเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ ให้เราสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของคุณ ยิ่งกว่านั้น จงใช้เวลาของคุณในขณะที่ยังโสดไปกับการแสวงหาความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์นั้นไม่ได้หมายถึงแค่การไม่ทำบาป แต่รวมถึงการสร้างชีวิตในแบบที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราเป็น เรียนรู้ที่จะวางใจในพระสิริของพระเจ้า ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่พระพร ทูลขอให้พระเจ้าเปลี่ยนคุณให้เป็นคนที่รักพระองค์และพี่น้องในพระคริสต์
และเมื่อวันหนึ่งที่คุณพบกับคู่พระพร คุณจะพบว่าการที่เราเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นจะช่วยให้เรารักคู่ของเราได้มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบก็คือ เมื่อผมเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นในแบบที่พระเจ้าอยากให้ผมทำ ผมพบว่าผมสามารถรักภรรยาของผมได้อย่างไม่มีเงื่อนไข เหมือนที่พระเยซูทรงรักคริสตจักร
และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้แต่งงาน ขอให้จำไว้ว่าชีวิตของคุณยังคงเป็นคำพยานที่อัศจรรย์ถึงความรักของพระเจ้า และเป็นพรให้กับคนอื่นๆ ได้
YOU MAY ALSO LIKE
ฉันคิดว่าฉันคงไม่มีวันให้อภัย
WRITER: เดโบราห์ ลี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: รักษพร พรกีรติกุล EDITOR: ยุพดี ศรีธนางกูร เมื่อฉันแต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของสามี ฉันได้พบกับความขัดแย้งมากมาย ฉันยังเด็กและอารมณ์ร้อนทำให้ฉันใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อคนอื่นๆ ในครอบครัว...
แลกความกังวลของคุณกับสันติสุขจากพระเจ้า
WRITER: มาร์ธา เฟอร์เรร่า ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: Gift Natthanan EDITOR: Mustard Seed Team ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ความจำค่อนข้างดี ฉันมักจะเป็นคนที่คนอื่นไว้วางใจที่จะพูดว่า “เธอช่วยเตือนฉันว่า…”...
ใช่แล้ว พระเจ้าจะประทานสิ่งต่างๆ ให้กับคุณมากกว่าที่คุณจะรับไหว
WRITER: มาเดลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: Mustard Seed Team EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร ฉันมองไปที่ภาพเอ็กซเรย์แมวของฉัน หัวใจของฉันตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขณะที่ฉันพยายามจับใจความในสิ่งที่สัตวแพทย์กำลังอธิบายให้ฉันฟัง “อย่างที่คุณเห็น...