WRITER: ลาร่า ลินช์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: อาเกียว
ARTWORK BY: YMI X Lara Lynch
คุณเคยรู้สึกหรือไม่ว่าตัวเองไม่เติบโตในความเชื่อ คุณแสวงหาพระเจ้าผ่านทางพระคัมภีร์และการอธิษฐาน คุณไม่ได้ปิดบังความผิดบาปของคุณต่อพระองค์ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล คุณไม่สามารถบอกได้ว่าวันนี้คุณเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นอย่างไรเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ แต่ขอให้เราใช้เวลาสักครู่เพื่อเตือนตัวเองว่าการเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณเป็นอย่างไร ด้วยพระคุณพระเจ้าเราเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณเมื่อพระองค์ทำงานในชีวิตของเราเพื่อให้เราเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น (เอเฟซัส 2:8-9) เมื่อเรารู้สึกชะงักงันให้เราเข้าหาพระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงเรา ไม่ใช่ตามหาการเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียว
เมื่อเราติดตามพระเยซูคริสต์ และปรารถนาที่จะให้พระองค์ช่วยเราเติบโตในความดี ความรู้ การรู้จักบังคับตน และความรัก (2 เปโตร 1:5-8) มาดูกันว่าความเข้าใจที่ผิดๆ บางประการที่ทำให้เราไม่เติบโตอย่างแท้จริงมีอะไรบ้าง
1. การมีความรู้ในพระคัมภีร์อย่างลึกซึ้ง
เปโตรได้พูดถึงการเติบโตในความรู้ (2 เปโตร 1:5, 3:18) และความรู้ด้านพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่เราต้องการและควรจะศึกษาอย่างแน่นอน นอกจากนั้นพระคัมภีร์เป็นหนทางเดียวที่ทำให้เรารู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ใด
อย่างไรก็ตาม “ความรู้” เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ สิ่งของการเจริญเติบโต พวกเราส่วนใหญ่อาจนึกถึงใครสักคนในคริสตจักรหรือกลุ่มเซลล์ ที่ดูเหมือนว่าจะรู้ทุกคำตอบในพระคัมภีร์แต่กลับหยิ่งทะนง ชอบวิจารณ์ หรือเหมือนคนเซ่อซ่าเป็นคนที่ขาดคุณสมบัติของคนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ
ในพระธรรมยอห์นบทที่ 14 พระเยซูตรัสว่า “ถ้าใครรักเรา คนนั้นจะประพฤติตามคำของเรา” (ยอห์น 14:23) การรู้พระคัมภีร์อย่างถ่องแท้จะช่วยให้เรารู้จักคำสอนของพระเยซู แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือการที่เราเชื่อฟังคำสอนเหล่านั้น
เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน ให้เราลองถามตัวเราเองว่า พระวจนะบอกอะไรบ้างเกี่ยวกับพระเจ้า พระวจนะบอกอะไรบ้างเกี่ยวกับเรา และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะนำไปใช้ในชีวิตของเราได้อย่างไร
2. การฝึกฝนวินัยฝ่ายจิตวิญญาณอย่างขยันขันแข็ง
เปโตรบอกให้เรา “พยายามทำทุกอย่าง” เพื่อให้เราเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ เปาโลก็ได้กล่าวว่า “ท่านจงอุตส่าห์ประพฤติอย่างสมกับความรอดด้วยความเกรงกลัวจนตัวสั่น” (ฟิลิปปี 2:12) แน่นอนว่าความบากบั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ เราต่างรู้อยู่ว่าสิ่งพื้นฐานคือ การอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐาน สามัคคีธรรมกับพี่น้องคริสเตียน และอื่นๆ
แต่อย่าให้เราตกหลุมพรางโดยคิดว่าเรากำลังทำดีตราบใดที่เราทำตามรายการต่างๆ ได้สำเร็จ หลายคนได้ผ่านช่วงเวลาที่ทำทุกสิ่งที่ถูกต้องสมควรครบทั้งหมดแต่ไม่ได้แสวงหาพระเจ้าหรือใส่ใจในสิ่งเหล่านั้นจริงๆ การเป็นแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการพยายามอย่างเต็มที่
สิ่งสำคัญที่สุดคือการแสวงหาความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างแท้จริง เราถูกเรียกให้ “รักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่านและด้วยสุดความคิดของท่าน” (มัทธิว 22:37) เมื่อเราสัตย์ซื่อในการอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐานและไปคริสตจักร ให้เราทูลขอพระเจ้าสร้างใจเราใหม่ในช่วงเวลาเหล่านั้นเพื่อเราจะได้รักพระองค์มากขึ้นในทุกๆวัน
3. การเติบโตที่สามารถวัดได้ในชีวิตของเราในทุกๆ วัน
บางครั้งเรารู้สึกว่าการเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณเป็นเส้นตรงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วันนี้เราต้องโตขึ้นมากกว่าที่เราเป็นในเมื่อวานนี้ นอกจากนั้น ถ้าความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า นั่นหมายถึงเรากำลังถอยหลังใช่ไหม
ถ้าเราแสวงหาพระเจ้าด้วยสุดใจของเรา แต่กลับรู้สึกว่าเราไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ หรือเราไม่ได้เข้าใกล้พระเจ้านั้นเป็นเพราะเราทำบางสิ่งผิดไปรึเปล่า และถ้าเรารู้สึกติดอยู่กับตรงนั้นหล่ะ
ความจริงก็คือ เราทุกคนต้องผ่านช่วงของเวลา แม้แต่ดาวิด ชายที่พระเจ้าทรงชื่นชอบ (กิจการ 13:22) ยังผ่านช่วงเวลาที่ท่านมีคำถามกับพระเจ้า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ อีกนานเท่าใด? พระองค์จะทรงลืมข้าพระองค์ เป็นนิตย์หรือ… ข้าพระองค์จะต้องตรึกตรองในจิตนานเท่าใด… (สดุดี 13:1-2)
ถ้าเรารู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่ไกล หรือการอ่านพระคัมภีร์เป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือเราจะอธิษฐานอะไร นั่นไม่ได้หมายความว่าเราหยุดที่จะเติบโต ยากอบหนุนใจเราว่า การทดสอบความเชื่อของเรานั้นทำให้เกิดความทรหดอดทน และเราจำเป็นต้อง “ให้ความทรหดอดทนนั้นมีผลอย่างสมบูรณ์เพื่อท่านทั้งหลายจะเป็นคนที่สมบูรณ์และดีพร้อม โดยไม่ขาดสิ่งใดเลย” (ยากอบ 1:3-4)
เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เรามั่นใจเหมือนที่ดาวิดมั่นใจว่า “แต่ข้าพระองค์ได้วางใจในความรักมั่นคงของพระองค์ ใจของข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์ในการช่วยกู้ของพระองค์” (สดุดี 13:5) พระเจ้าจะทรงทำให้เป้าหมายของพระองค์สำเร็จ
ให้เราติดตามพระเจ้า แสวงหาความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างสัตย์ซื่อ วางใจในพระองค์ว่าพระองค์จะจัดเตรียมให้เราเต็มไปด้วยความรู้และความดี และให้เราพยายามอย่างสัตย์ซื่อแม้ว่าเราจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ เพราะเรารู้ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และพระองค์กำลังทำงานในชีวิตของเราในเวลานี้เพื่อให้เราเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น
YOU MAY ALSO LIKE
กังวลจนไม่หลับไม่นอน
WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...
ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ
WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...
พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...