WRITER: อันนา โบร์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: Natty Grace
EDITOR: Mustard Seed Team
ในช่วงอายุ 23 ปีของฉันมีอุปสรรคบางประการที่ฉันสามารถเอาชนะได้ และแต่ละอย่างได้ทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้น อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องเผชิญ แต่ฉันก็ใช้เวลาจมปลักอยู่กับมัน ท่ามกลางความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง สิ้นหวัง ดิ้นรนกับการต่อสู้ด้วยตัวของฉันเอง มีเพียงผู้เดียวที่ฉันสามารถพึ่งพาได้และช่วยฉันได้จริงๆ นั่นคือช่วงเวลาที่ฉันได้มีประสบการณ์แห่งการช่วยเหลือจากพระเจ้าผู้ทรงแสนดี
การมีปัญหาความผิดปกติในการกินไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่าย ในความเป็นจริงมันเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ยากที่สุดที่ฉันเคยเอาชนะ ในเวลานั้นฉันไม่คิดว่าตัวฉันเองจะมีปัญหานี้ ฉันมองดูร่างกายของฉันและวิธีควบคุมอาหารของฉัน ฉันนึกภาพบางคนที่มีความผิดปกติในการกิน วิ่งแจ้นไปที่ห้องน้ำบ่อยครั้งเพื่อล้วงคอเอาอาหารออกทุกมื้อ ฉันไม่รู้ว่ามี “ความแตกต่าง” ของความผิดปกติในการกินอยู่ด้วย แต่ฉันก็ได้รู้ว่าฉันมีปัญหา ฉันได้เผชิญหน้ากับปีศาจที่อยู่ภายในฉัน
ฉันคิดถึงอาหารตลอดเวลา ฉันฝันถึงอาหาร และนึกถึงมันทันทีที่ฉันตื่นนอน ถึงกระนั้นฉันก็นับจำนวนแคลอรี่ของอาหารอยู่เสมอ ฉันคิดกังวลว่าฉันจะกินอะไรเป็นอาหารค่ำ และคิดสงสัยว่าฉันจะรักษาสมดุลได้อย่างไรหลังจากที่ระหว่างวันฉัน “ทำมันพัง” (หมายถึงไม่ได้ทำตามแผนนับแคลอรี่หรือทานอาหารเกินที่ต้องการ) ฉันกินอาหารส่วนเกินเข้าไปอีกเมื่อรู้สึกว่าร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น ฉันใช้ยาลดความอ้วนเพื่อทำให้ฉันหิวน้อยลงและออกกำลังกายทุกวัน (บางครั้งก็สองครั้งต่อวัน) ฉันจำได้ว่าฉันเคยร้องไห้ครั้งหนึ่งเมื่อผลักดันตัวเองให้วิ่งห้าไมล์ ฉันอยู่ในวังวนนี้และไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ฉันซ่อนการดิ้นรนของฉันไว้เป็นอย่างดี แต่ฉันก็แอบเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ฉันแค่อยากจะเป็นปกติ
คุณอาจสงสัยว่าทำไมฉันถึงประสบกับปัญหานี้ เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ฉันตระหนักว่า ในขณะที่ฉันมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ตัวตนของฉันกลับไม่ได้หยั่งรากลึกในพระองค์ พระเจ้าเป็นผู้สร้างฉันแต่ตัวของฉันกลับติดอยู่กับโลก ฉันหลงทางโดยที่ฉันไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นใคร ฉันพยายามใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่มนุษย์สร้างขึ้นกับคำจำกัดความของความสวยงามที่สังคมได้ฝังแน่นไว้ในใจของฉัน ฉันมองผู้หญิงที่ฉันเห็นทางโทรทัศน์และในนิตยสาร ฉันเปรียบเทียบตัวเองกับผู้หญิงที่อยู่รอบตัวฉัน ฉันจึงไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองดีพอหรือพอใจกับตัวเองเลยสักครั้ง คุณค่าของฉันกลับผูกติดไว้กับชายที่ทิ้งฉันไปหาใครบางคนที่สวยกว่า ผอมกว่า และสูงกว่า
ฉันตามืดบอดไปกับรากของปัญหานั้น ซึ่งคือความเจ็บปวดและความไม่มั่นคงของฉัน ตอนนั้นฉันรู้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และฉันไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร สิ่งที่ฉันรู้สึกคือความจริงและไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถปัดออกไปข้างๆ เพื่อเสแสร้งว่าทุกอย่างยังโอเคอยู่ได้ ในความรู้สึกสิ้นหวังของฉัน ฉันอนุญาตให้เหล่าคำโกหกของโลกมีน้ำหนักมากกว่าความจริงของพระคัมภีร์
ในความรู้สึกสิ้นหวังของฉัน ฉันอนุญาตให้คำโกหกของโลกมีน้ำหนักมากกว่าความจริงของพระวจนะพระเจ้า
ความเป็นจริง คือ ฉันเป็นลูกของพระเจ้า พระองค์ทรงรักฉันมาก และพระองค์ก็ทรงดำริว่าฉันงดงามแล้ว พระองค์ทรงสู้และเอาใจช่วยฉัน และพระองค์ก็ไม่เคยเลิกราไปจากฉัน แม้ในเวลาที่ฉันยอมแพ้ต่อตัวเองไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม
ศัตรูจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง คุณจะสูญเสียการสัมผัสถึงพระเจ้าในช่วงเวลาอันสับสนอลหม่าน สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันก็จะเกิดขึ้นกับคุณเช่นกันหากคุณปล่อยให้ความวุ่นวายนั้นครอบงำชีวิตของคุณ เมื่อฉันกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำของชีวิต ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับจุดเปลี่ยนที่เข้ามาทัน พระเจ้าทรงวางคนที่เหมาะสมในชีวิตของฉันในเวลาที่เหมาะสม กล่าวคือเพื่อนคนหนึ่งของฉันเอง พระองค์ทรงใช้เพื่อนของฉันคนนี้ให้เข้ามาพูดถ้อยคำแห่งชีวิตและสัจจะ และเพื่อช่วยให้ฉันทำลายนิสัยเก่าๆ ได้ พระองค์ทรงใช้ให้เพื่อนของฉันเข้ามารักฉัน และฉันหมายถึงรักฉันจริงๆ และโดยความสัตย์ซื่อ ฉันแค่ต้องการใครสักคนที่จะแสดงให้ฉันเห็นว่าจะรักตัวเองได้อย่างไร นี่เป็นการทรงเรียกที่ทำให้ฉันตื่นตัว
แน่นอนว่า การเยียวยารักษาไม่ได้เกิดขึ้นภายในข้ามคืน แต่เมื่อฉันสัมผัสได้ถึงความรัก พระคุณ และพระเมตตาจากพระเจ้า ก็ช่วยทำให้ฉันอดทนต่อการต่อสู้ดิ้นรนและค่อยๆ ขจัดความสิ้นหวังที่ฉันเคยรู้สึกออกไปได้
เมื่อคุณตระหนักว่าพระเจ้ารักคุณมากเพียงใด ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว ยามใดที่คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์มืดและมองไม่เห็นแสงใดๆ โปรดอดทนต่อไป แม้สถานการณ์อาจดูเหมือนสิ้นหวังจากมุมมองของมนุษย์ แต่พระเจ้าทรงเห็นภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้น พระองค์ทรงเห็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด และพระองค์จะทรงอยู่กับคุณเพื่อให้คุณผ่านทุกความยากลำบาก ลองพึ่งพาพระองค์ที่คอยเสริมกำลังให้แก่คุณ แล้วพระองค์จะพาคุณข้ามอุปสรรคไปอีกฝั่งหนึ่งได้ในที่สุด
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...