
WRITER: ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก Our Daily Bread
TRANSLATOR: Mustard Seed Team
EDITOR: Mustard Seed Team
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่ยากที่สุดที่โบสถ์ในสิงคโปร์ต้องเผชิญ: คริสเตียนยังควรมารวมตัวกันเพื่อนมัสการไหม?
มันไม่มีคำตอบที่ง่าย ไม่ว่าคุณจะ “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” มันเป็นคำตอบที่ค่อนข้างอ่อนไหว(กับอีกฝ่ายหนึ่ง!)
บางคนเชื่อว่าโบสถ์นั้นควรแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และหยุดการรวมตัวกันของกลุ่มคนขนาดใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของ COVID-19 บางคนรู้สึกว่าคริสเตียนควรรวมตัวกันต่อไป ตามหลักการและความเชื่อตราบใดที่ยังปฏิบัติตามข้อควรระวัง
ณ ตอนนี้ โบสถ์หลายๆ แห่งได้หยุดนมัสการชั่วคราวและสมาชิกก็ “เข้าร่วม” นมัสการผ่านระบบออนไลน์ ในขณะที่โบสถ์อื่นๆ เลือกที่จะยังมีรอบนมัสการต่อไป
ดังนั้น อะไรคือการตอบสนองที่ถูกต้อง? บางทีเราอาจจะต้องย้อนกลับไปพิจารณาให้ลึกขึ้นกับคำถามพื้นฐานว่า: พวกเรารวมตัวกันทำไม?
ลองดูที่พระคัมภีร์ที่อ้างอิงเกี่ยวกับการรวมตัวกันของคนของพระเจ้า ได้ให้ภาพที่ดีว่าทำไมเหล่าผู้เชื่อถึงมารวมตัวกัน:
และขอให้เราพิจารณาดูเพื่อจะปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดี อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว (ฮีบรู 10:24-25)
เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลายจะว่าอย่างไร? เมื่อพวกท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนก็มีเพลงสดุดี มีคำสอน มีคำวิวรณ์ มีการพูดภาษาแปลกๆ มีการแปลภาษาแปลกๆ จงทำทุกสิ่งเพื่อให้เขาเจริญขึ้น
(1 โครินธ์ 14:26)
เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐานเขาทั้งหลายมีความเกรงกลัวด้วยกันทุกคน และพวกอัครทูตทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญมากมาย คนทั้งหมดที่เชื่อถือก็อยู่รวมกัน และนำทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง และพวกเขาขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของมาแบ่งให้แก่กันตามความจำเป็น ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและได้รับความชื่นชอบจากทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้าก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอด เพิ่มจำนวนเข้ามามากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน(กิจการ 2:42-47)
ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้นี้และข้ออื่นๆ บอกเราเกี่ยวกับว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนของพระเจ้ามารวตัวกัน:
- พวกเขานมัสการและสรรเสริญพระเจ้า จดจำความเป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อเดียวกัน
- พวกเขาอธิษฐาน
- พวกเขาศึกษาถ้อยคำของพระเจ้า
- พวกเขารับใช้ซึ่งกันและกันและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันและกันในการรับใช้พระเจ้า
- พวกเขาหนุนใจกันและกันด้วยประสบการณ์และสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้
- พวกเขาร่วมหักขนมปังและจดจำถึงสิ่งที่พระเยซูได้เสียสละ
- พระวิญญาณบริสุทธิ์เสริมกำลังพวกเขาในการรักษา ทำพันธกิจ และแบ่งปันข่าวประเสริฐกับผู้อื่น
สิ่งที่น่าสังเกตคือมีหลายอย่างสามารถเกิดได้แม้ว่าคนของพระเจ้าไม่ได้รวมกลุ่มกัน ในความเป็นจริง สมาชิกของคริสตจักรในยุคแรกนั้นมักจะรวมกลุ่มเล็กๆ กันที่บ้าน เพราะว่าพวกเขาอยู่ภายใต้การข่มเหง ในหลายประเทศคริสเตียนยังคงทำอย่างนั้น เพราะว่าถูกห้ามในการนมัสการ บาง “กลุ่ม” อาจจะเล็กประมาณ 2 หรือ 3 คน…หรือ 1 คน
ในเวลาเดียวกัน มันมีคุณค่าที่แท้จริงในการพบปะกันแบบเจอหน้ากัน เนื่องจากเราถูกสร้างตามพระฉายของพระเจ้า พวกเรามีความสัมพันธ์กันโดยธรรมชาติ บางสิ่งที่พิเศษเกิดขึ้นเมื่อเราได้พบกันและพูดคุยกัน, ยิ้ม, และหัวเราะด้วยกัน
หมายความว่า ถ้าเรากังวลเกี่ยวกับการมาพบปะซึ่งกันและกัน และเราเลือกที่จะเข้าร่วมนมัสการที่บ้าน มันก็โอเค เราไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะพระเจ้าเข้าใจถึงความกลัวและความกังวลของเรา พวกเรายังคงทำตามสิ่งที่พระเจ้าสอนในการนมัสการ, อธิษฐาน, และศึกษาถ้อยคำของพระเจ้าด้วยกัน พวกเรายังคงคงช่วยเหลือ, หนุนใจกันและกัน และแบ่งปันข่าวประเสริฐผ่านโทรศัพท์, โซเชียลมีเดีย, และผ่านรูปแบบการสื่อสารสมัยใหม่ ผ่านวิธีที่สร้างสรรค์ต่างๆ ที่พระเจ้าเปิดตาของเราให้เห็น
มันก็ยังหมายความว่า ถ้าเรายังอยากเข้าร่วมนมัสการด้วยตัวเราเองนั้นมันก็โอเคเหมือนกัน ตราบใดที่เรายังปฏิบัติตามข้อควรระวังในทางปฏิบัติเกี่ยวกับสุขอนามัย พวกเราไม่ต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับการพบปะกันในกลุ่มใหญ่ เพราะพระเจ้าจะให้เกียรติความมุ่งมั่นและตั้งใจของเราที่ยังคงรวมตัวกันต่อไป พวกเราแค่ต้องปฏิบัติตามและรับผิดชอบต่อสังคม เช่น อยู่บ้านถ้าเราสึกไม่ค่อยสบาย หรือมีอาการเจ็บคอ หรือไอในช่วงเช้า เพราะพวกเราสามารถนมัสการด้วยกันกับคนของพระเจ้าได้ที่บ้าน
พระเจ้าทรงสนใจหัวใจของเราไม่ได้น้อยไปกว่าสิ่งที่เราทำ พวกเราทำให้พระเจ้าพอพระทัยเมื่อแรงจูงใจและความตั้งใจสะท้อนถึงพระองค์ –เลซลี่ กอ
พระบิดา พระองค์ทรงรู้ว่าข้าพระองค์รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการไปนมัสการที่โบสถ์ ไม่ว่าข้าพระองค์จะเลือกสิ่งใด ขอให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยหัวใจที่แท้จริง โปรดเปิดดวงตาที่จะเห็นวิธีการที่สร้างสรรค์ในการรับใช้พระองค์ และหนุนใจผู้อื่นในสถานการณ์ที่กำลังท้าทายเรา
YOU MAY ALSO LIKE
การอ้างว่าการเป็นคริสเตียนเป็นทางเดียวไปสู่พระเจ้านั้นไม่หยิ่งไปหน่อยหรือ?
WRITER: คริส เวล ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์EDITOR: นารดา ไทรงามคริส เวล เป็นบรรณาธิการของพันธกิจมานาประจำวันในสหราชอาณาจักร เขามีของประทานในการสอนพระคัมภีร์ ไม่ว่าจะผ่านทางการเทศนา การนำกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์ หรือการเขียนบทความ ...
4 บทเรียนสำคัญของชีวิตจากซีรีส์ START-UP
WRITER: รีเบคกา ลิม ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR/EDITOR: Mustard Seed Teamรูปภาพจาก: Facebook หมายเหตุจากผู้เขียน: เนื้อหามีการสปอยล์ หลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา สงครามการเลือกทีมของตัวละครนั้นได้เกิดขึ้นทั่วในโลกอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณได้เห็นรูปของคิมซอนโฮ...
ฉันจะตอบสนองต่อความอยุติธรรมทางเชื้อชาติได้อย่างไร?
WRITER: เบลลา นิวเบอร์รี่ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ EDITOR: Mustard Seed Team ฉันเห็นความเจ็บปวด ฉันเห็นการประท้วง ฉันเห็นการจลาจล ฉันได้ยินเรื่องราวและบทสนทนา และหัวใจของฉันแตกสลายเพื่อประเทศของฉัน เพื่อพี่น้องของฉัน ในฐานะผู้เชื่อ...