เมื่อความตายสอนฉันถึงวิธีใช้ชีวิต
วันที่ 15 | พระธรรมประจำวัน
สองสามเดือนก่อน ฉันใช้เวลาเก้าวันไปกับการนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงพ่อที่โรงพยาบาล พ่อเลือดออกในสมองอย่างกระทันหันในขณะขับรถ ซึ่งเลือดออกรุนแรงมากจนหมอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ครอบครัวของเรารู้ว่าต้องทำใจ และปล่อยพ่อไป เราตัดสินใจด้วยความเจ็บปวดให้พ่อจากไปอย่างสงบและไม่เจ็บปวด โดยไม่ใช้วิธีทางการแพทย์ใดๆ ในการยื้อชีวิตพ่อไว้
การวางแผนเตรียมงานศพของพ่อ (ซึ่งตอนนั้นพ่อยังมีชีวิตอยู่) เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส เมื่อเวลาผ่านไปและฉันได้คุยกับผู้ให้บริการจัดงานศพหลายราย ความตายที่ใกล้เข้ามาของพ่อก็ดูเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันสงสัยว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ในเวลาเพียงไม่กี่วันได้อย่างไร เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรายังนั่งกินข้าวเย็นกันอยู่เลย แต่ตอนนี้พ่อนอนไม่รู้สึกตัวแล้ว โดยมีเลือดออกในสมองอย่างรุนแรง และกำลังจะจากไป
ในขณะที่ฉันเผชิญหน้ากับความจริงที่รับได้ยากอยู่นั้น ฉันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า สักวันหนึ่งก็จะต้องมีคนวางแผนงานศพของฉันเหมือนกัน
ในปัญญาจารย์บทที่ 9 ผู้เขียนบอกเราว่า ทุกคนไม่ว่าจะดีหรือชั่ว จะยึดถือศาสนาหรือไม่ ก็จะมาถึง “เคราะห์อันเดียวกัน” (ข้อ 2) นั่นคือความตาย
แม้ความจริงอันน่าหดหู่นี้จะทำให้บางคนไม่สบายใจ ในฐานะคริสเตียน เรามีความหวัง เมื่อเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยหรือความทุกข์ยากต่างๆ เราสามารถวางใจในสิทธิอำนาจของพระเจ้า ถึงแม้แผนการของพระองค์ที่ทรงมีสำหรับชีวิตของเราอาจทำให้เราประหลาดใจ (ข้อ 11-12) เราก็สามารถแน่ใจได้ว่าพระองค์ทรงไม่เคยทำผิดพลาด และทางของพระองค์นั้นสูงกว่าทางของเรา
เมื่อความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ ผู้เขียนได้เตือนใจเราถึงข้อได้เปรียบของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็คือ อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าสักวันจะต้องตาย ฉันว่านี่เป็นการเตือนถึงโอกาสที่จะใช้ชีวิตให้เต็มที่เมื่อยังสามารถทำได้
การรู้ว่าความตายจะมาถึงอย่างแน่นอนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรานึกถึงวันเวลาที่เหลืออยู่ของเรา ข้อ 7 เสนอความคิดให้กับเราว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าทรง “เห็นชอบ” เรื่องความสุขในโลกนี้ ทรงให้มันเป็นส่วนหนึ่งของน้ำพระทัยที่พระองค์ทรงมีต่อเรา เรามีอิสระที่จะเพลิดเพลินไปในของขวัญแห่งชีวิตที่พระองค์ประทานให้ (ข้อ 7-9)
สำหรับผู้เชื่อแล้ว เรารู้ว่าเวลาของเราบนโลกนี้มีจำกัด ความตายคือการปลดปล่อยชนิดหนึ่ง และเป็นการฟื้นฟูเราจากความเจ็บปวดและผลของความบาป นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้เขียนถึงแนะนำให้เราทำทุกอย่างให้ดีก่อนที่เราจะจากไป (ข้อ 10) เราสามารถใช้เวลาที่พระเจ้าประทานให้อย่างดีที่สุด และทำงานที่พระองค์ทรงมอบหมายให้เราอย่างดีที่สุด
หลังจากผ่านช่วง 2-3 เดือนแห่งความทุกข์ และอีกหลายคืนที่หดหู่ ฉันก็เริ่มเข้าใจเรื่องความตายของพ่ออย่างช้าๆ ฉันไม่ได้มองว่าความตายเป็นเรื่องชั่วร้ายหรือเป็นการลงโทษอีกแล้ว แต่มันคือผลพวงของโลกที่เต็มไปด้วยความบาป ทางออกของสิ่งนี้อยู่ที่พระกิตติคุณ เพราะว่าความหวังของเราอยู่ที่การสิ้นพระชนม์ การฟื้นคืนพระชนม์ และการกลับมาของพระคริสต์ ถึงแม้จะมีความโศกเศร้า แต่ก็มีเกียรติศักดิ์ศรีด้วย
เมื่อฉันพยายามใช้ชีวิตอย่างตั้งใจมากขึ้นด้วยมุมมองนิรันดร์นี้ มันช่วยให้ฉันปล่อยวางสิ่งของในโลกนี้ที่ฉันยึดไว้แน่นเกินไป และจดจ่อกับการหาวิธีทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา โดยรู้ว่าการงานที่ทำในพระองค์นั้นจะไม่มีวันไร้ประโยชน์ (1 โครินธ์ 15:58)
ดังนั้นเมื่อเรายังทำได้ ให้เราใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมาย ทำเหมือนว่าทุกวันเป็นวันสุดท้าย การรับรู้ว่าสิ่งต่างๆ ในโลกนี้จะต้องเสื่อมสลายไปในที่สุด ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงเกียรติ ศักดิ์ศรีและมรดกที่รอเราอยู่ในนิรันดร์กาล
– โดย เทรซี ปัว ประเทศสิงคโปร์
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ
1. คุณเคยเฉียดตายมากที่สุดตอนไหน? และมันส่งผลต่อมุมมองชีวิตคุณอย่างไรบ้าง?
2. ถ้าคุณเหลือเวลาในชีวิตอีกแค่วันเดียว คุณจะใช้เวลานั้นในการทำอะไร? อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณ? และด้วยความรู้เช่นนี้ คุณจะใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้อย่างไร?
ตอบสนองด้วยบทเพลง
เกี่ยวกับผู้เขียน
เทรซี่ชอบจ้องมองภูเขาลูกใหญ่ๆ อันน่าเกรงขาม และมองดูลูกสาวของเธอเวลาหลับ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นเตือนใจให้เธอนึกถึงการทรงสร้างอันดีงามของพระเจ้า และการอัศจรรย์อันดีเลิศที่อยู่ในชีวิตของเธอ
กลับไปที่ Mustard Seed Reading ปัญญาจารย์
MUSTARD SEED
Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®
MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.
ABOUT US
We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.
® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.
CONNECT WITH US
OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)