fbpx

กุญแจสู่การทำงานที่ได้ผลคุ้มค่า

วันที่ 9 | พระธรรมประจำวัน

ข้าพเจ้าหันมาพิจารณาเรื่องอนิจจังภายใต้ดวงอาทิตย์อีกเรื่องหนึ่ง 
คือ คนหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีบุตรหรือพี่น้อง แต่เขาตรากตรำไม่หยุด ตาของเขาไม่เคยอิ่มความมั่งคั่ง เขาไม่เคยคิดว่า “ข้าตรากตรำและอดใจจากสิ่งที่ชื่นชอบเพื่อใครกัน?” นี่ก็อนิจจังด้วยและเป็นเรื่องสามานย์คุณค่าของเพื่อน
สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขา 
10 เพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีใครพยุงเขาให้ลุกขึ้น 
11 อนึ่ง ถ้าสองคนนอนอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็อบอุ่น แต่ถ้านอนคนเดียวจะอบอุ่นได้อย่างไร? 
12 และถ้าคนหนึ่งเอาชนะคนคนเดียวได้ คนสองคนย่อมต่อต้านเขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้
13 คนหนุ่มยากจนและมีสติปัญญาก็ดีกว่ากษัตริย์ชราและโฉดเขลา ผู้ไม่รับคำแนะนำอีกแล้ว 
14 ถึงแม้คนหนุ่มนั้นออกมาจากเรือนจำแล้วขึ้นเป็นกษัตริย์ หรือเกิดเป็นคนจนในราชอาณาจักรของเขาเอง 
15 ข้าพเจ้าพิจารณาทุกชีวิตที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ รวมทั้งหนุ่มอีกคนหนึ่งที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์แทน 
16 จำนวนคนทั้งหมดที่อยู่ก่อนพวกเขามีมากมายจนนับไม่ถ้วน และบรรดาคนที่มาภายหลังก็ไม่เปรมปรีดิ์ในตัวคนหนุ่มนั้น นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง

การขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเคยเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันกลัวไปสารพัด

ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเย่อหยิ่งที่ฉันต้องการให้คนอื่นเห็นว่าฉันเก่งแค่ไหน (ดูสิ ฉันทำเองหมดเลยนะ) หรือเพราะความกลัวจะเป็นภาระของคนอื่นก็ตาม ฉันมักหาเหตุผลให้ตัวเองต่างๆ นานา เพื่อจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ผลก็คือฉันทำงานหนักเกินไปและรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า

แต่ตามที่ปัญญาจารย์บอกไว้ในพระธรรมปัญญาจารย์ 4:9 ว่า “สองคนดีกว่าคนเดียว” เราสามารถทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จได้เร็วขึ้น เมื่อคนสองคน (หรือมากกว่านั้น) ถกแขนเสื้อขึ้นและลงมือช่วยกันทำงาน

ฉันได้เรียนรู้เรื่องนี้จากประสบการณ์ที่ไม่ดีนักในงานเก่าของฉัน ฉันมักต้องโหลดแบนเนอร์โฆษณาขึ้นหน้าเว็บต่างๆ ครั้งละเกือบร้อยหน้า โดยเฉพาะเวลาที่ออกแค็ตตาล็อกใหม่ ฉันมักปวดหัวจนแทบจะระเบิดและเกิดความหวั่นวิตกว่าฉันจะโหลดได้ไม่ทันเวลา แต่ฉันก็ยังดันทุรังทำต่อไป เพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่าฉันมีความสามารถมากแค่ไหน โดยทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว

กระบวนการอันน่าเบื่อนี้กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก เมื่อเพื่อนร่วมงานที่ฉันไว้ใจเข้ามาช่วยทำ สิ่งที่ฉันเคยใช้เวลาทำทั้งวัน (หรือบางทีก็สองวันเต็มๆ) สามารถทำเสร็จได้ภายในครึ่งวันเท่านั้น ไม่เพียงแต่ฉันทำงานเสร็จตรงตามเวลา การทำงานร่วมกับเพื่อนทำให้เราได้มีความผูกพันกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่การทักทายกันตามมารยาทว่า “สบายดีมั้ย” 

ลองคิดดูว่าถ้าฉันยังลุยทำคนเดียวต่อไปจะเป็นยังไง! การมีเพื่อนมาช่วยลดความกดดันและช่วยตรวจทานว่าลิงค์กับแบนเนอร์ถูกโหลดและเอาไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง ช่วยฉันให้พ้นจากความอับอายที่อาจเกิดขึ้นได้จากงานที่ผิดพลาด เพียงเพราะฉันหยิ่งเกินไปที่จะขอความช่วยเหลือ แทนที่จะกลายเป็นบุคคลผู้น่าสงสารที่ “ไม่มีใครพยุงให้ลุกขึ้น” ฉันก็มีเพื่อนที่พร้อมจะพยุงฉันให้ลุกขึ้นหากฉันสะดุดล้ม หรืออาจช่วยให้ฉันไม่ล้มเลยด้วยซ้ำ (ข้อ 10)

ในโลกที่บางครั้งการพึ่งพาคนอื่นก็ถูกมองว่าเป็นความอ่อนแอ ฉันรู้สึกขอบคุณถ้อยคำของปัญญาจารย์ที่ช่วยให้เห็นว่า ถ้าเราเดินหน้าทำไปด้วยตัวคนเดียว เมื่อมีปัญหามากมายเกิดขึ้น เราอาจรับมือไม่ไหว (ข้อ 12) แต่ถ้าเรามีเพื่อนสักคนหรือหลายคนมายืนเคียงข้างเรา อย่างน้อยเรามีโอกาสที่จะร่วมกันจัดการปัญหานั้นได้ เพราะว่า “เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้” (ข้อ 12)

ฉันได้โอกาสสดๆ ร้อนๆ ที่จะเข้าใจบทเรียนเหล่านี้ เมื่อฉันต้องย้ายไปรับงานใหม่ที่ต่างประเทศ ช่วง 2-3 เดือนแรกของการปรับตัวให้คุ้นเคยกับบ้านใหม่ ซึ่งก็คือออสเตรเลีย เป็นเรื่องหนักหนามาก ฉันต้องพึ่งพาบรรดาเพื่อนร่วมงานและคนรู้จักในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่การไปรับไปส่งระหว่างบ้านและที่ทำงานทุกวัน การขับรถพาไปพบดีลเลอร์ต่างๆ เพื่อหาซื้อรถ และการไปตระเวนดูเพื่อหาบ้านเช่าด้วย

ฉันรู้สึกประทับใจมากเกินบรรยายที่บรรดาเพื่อนใหม่ของฉันพร้อมจะช่วยเหลือฉันในทุกเรื่อง แม้ว่าเราเพิ่งรู้จักกันก็ตาม สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อฉันด้วยความโอบอ้อมอารี เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมองหาโอกาสที่จะช่วยเหลือคนอื่นที่อาจตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กัน หรือเสนอตัวเข้าไปช่วยคนที่อาจไม่กล้าขอความช่วยเหลือ เพื่อที่ฉันจะได้แบ่งเบาภาระของพวกเขาด้วยเช่นกัน

การขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทุกครั้งฉันกลับสัมผัสถึงความชื่นชมยินดีที่มีโอกาสร่วมทำงานกับคนอื่น ฉันเห็นความสัตย์ซื่อของพระเจ้าในชีวิตผ่านการทรงประทานเพื่อนๆ ที่อยู่รอบตัว ผู้ที่มาแบ่งเบาภาระของฉัน

– โดย มิเชล ออง ประเทศนิวซีแลนด์

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1. ครั้งล่าสุดที่คุณต้องพึ่งพาเพื่อนสักคน (หรือกลุ่มเพื่อน) ในการทำงานให้สำเร็จคือเมื่อไหร่? มันทำให้งานของคุณง่ายหรือยากขึ้น? เพราะอะไร?

2. อะไรคืออุปสรรคในการขอความช่วยเหลือของคุณ? พระธรรมตอนนี้ช่วยหนุนใจให้คุณขอความช่วยเหลือมากขึ้นได้อย่างไร?

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

มิเชลชอบความคิดเรื่องการเป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะใช้เวลาฝึกฝนเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง เธอชอบฟังเรื่องราวการช่วยกู้ของพระเจ้า และเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อพระเจ้าทรงพบคนเหล่านั้นในจุดต่ำสุดในชีวิตของพวกเขา

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This