fbpx

เมื่อชีวิตจริงไม่ได้ตื่นเต้นเท่าที่จินตนาการไว้

วันที่ 3 | พระธรรมประจำวัน

ข้าพเจ้ารำพึงว่า “มาเถอะ มาลองสนุกสนานกันดู จงสนุกให้เต็มที่” แต่ดูเถิด เรื่องนี้ก็อนิจจังเช่นกัน 
ข้าพเจ้าพูดถึงการหัวเราะว่า “บ้าๆ บอๆ” และกล่าวถึงความสนุกสนานว่า “มีประโยชน์อะไร?” 
ข้าพเจ้าใคร่ครวญดูว่าจะทำอย่างไร กายจึงคึกคักด้วยเหล้าองุ่น แต่ใจยังคงแนะนำข้าพเจ้าด้วยสติปัญญา พร้อมกับยึดความเขลาไว้ด้วย จนกระทั่งข้าพเจ้าเห็นได้ว่า มีสิ่งดีอะไรที่มนุษย์จะทำได้ภายใต้ท้องฟ้าตลอดชั่วอายุไม่กี่วันของเขา 
ข้าพเจ้ากระทำการใหญ่โต ข้าพเจ้าได้สร้างเรือนหลายหลัง และทำสวนองุ่นหลายแปลง 
ข้าพเจ้าทำสวนผลไม้และสวนหย่อนใจหลายแห่ง ปลูกไม้ผลทุกชนิดไว้ในสวนเหล่านั้น 
ข้าพเจ้าสร้างสระน้ำหลายสระสำหรับตัวเอง เพื่อจะใช้น้ำในสระนั้นรดหมู่ไม้ที่กำลังงอกงาม 
ข้าพเจ้าซื้อทาสชายหญิงไว้ และมีทาสเกิดขึ้นในบ้านของข้าพเจ้า นอกจากนั้นข้าพเจ้ามีฝูงโคฝูงแพะแกะมากกว่าทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก่อนข้าพเจ้า 
ข้าพเจ้าสะสมเงินทองไว้ด้วย และสะสมทรัพย์สมบัติอันควรคู่กับกษัตริย์และควรคู่กับเมืองทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีนักร้องชายหญิง และมีความสนุกสนานทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งชอบใจมนุษย์ 
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเป็นใหญ่และยิ่งใหญ่กว่าทุกคนที่เคยอยู่มาก่อนข้าพเจ้าในเยรูซาเล็ม และสติปัญญาของข้าพเจ้ายังคงอยู่กับข้าพเจ้าด้วย 
10 ทุกสิ่งที่นัยน์ตาของข้าพเจ้าอยากเห็น ข้าพเจ้าก็ไม่ปิดบัง ข้าพเจ้ามิได้ห้ามใจจากความสนุกสนานทุกอย่าง เพราะใจข้าพเจ้าพบความเพลิดเพลินจากการตรากตรำทั้งหมดของข้าพเจ้า และนี่เป็นรางวัลจากการตรากตรำของข้าพเจ้า 
11 แล้วข้าพเจ้าหันมาดูทุกสิ่งที่มือข้าพเจ้าทำ และผลของการตรากตรำที่ข้าพเจ้าทำลงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย และดูเถิด ทุกอย่างก็อนิจจังคือ กินลมกินแล้ง และไม่มีประโยชน์อะไรภายใต้ดวงอาทิตย์

ผมชอบฟังดนตรีสดมากๆ การที่ได้อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่เมตรจากวงที่เราชื่นชอบ และได้ร้องเพลงโปรดตามไปด้วยอย่างสุดเสียงเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก ดังนั้นเมื่อวงดนตรีที่ผมชอบมาทัวร์คอนเสิร์ตที่เมลเบิร์นเมืองเกิดของผม ผมจึงรีบซื้อตั๋วไว้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ช่วงเวลาจากวันที่ผมซื้อตั๋วห่างจากวันที่จัดคอนเสิร์ตหกเดือน ดังนั้นความตื่นเต้นจึงเพิ่มขึ้นและความคาดหวังก็พุ่งไปอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อวันนั้นใกล้เข้ามา ผมก็มักจะจินตนาการถึงเพลงโปรดของผมที่เล่นแบบสดๆ และนึกถึงว่าบรรยากาศในงานคงมันส์ระเบิด เวลาที่ผู้คนตอบสนองเพลงที่ฟัง

ในที่สุด เมื่อวันคอนเสิร์ตมาถึง ความตื่นเต้นก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดขณะที่เราเดินเข้าประตูของลานดนตรีซิดนีย์ไมเยอร์ ตอนนั้นสภาพแวดล้อมสมบูรณ์แบบมาก ลานคอนเสิร์ตกลางแจ้ง สภาพอากาศปลอดโปร่ง เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า อยู่ท่ามกลางคนดูนับหมื่นที่กำลังรอชมคอนเสิร์ต 

แต่ว่าความตื่นเต้นทั้งหมดก็แทบจะหายไปภายในไม่กี่นาทีแรกหลังคอนเสิร์ตเริ่มขึ้น แสงสีเสียงทุกอย่างจัดเต็ม แต่มันไม่มีอะไรที่ทำให้ผมประทับใจได้เลย คอนเสิร์ตที่ผมรอคอยมา 6 เดือนไม่ได้ดีขนาดนั้น

ประสบการณ์นี้ทำให้ผมคิดได้ว่า เป็นเรื่องง่ายเหลือเกินที่เราจะหันไปหาสิ่งต่างๆ ในชีวิตนี้ เช่น ความบันเทิง ความร่ำรวย หรือความสำเร็จ เพียงเพื่อจะพบว่าเราต้องผิดหวังอย่างเจ็บปวด เมื่อมันไม่ได้ดีเท่ากับที่เราคาดหวังไว้ นี่เป็นใจความสำคัญที่ผู้เขียนได้บอกไว้ในปัญญาจารย์ 2 :1-11

ผู้เขียนพยายามค้นหาว่า เราควรใช้เวลาอันน้อยนิดที่มีอยู่บนโลกนี้อย่างไร (ข้อ 3) โดยที่เขาไม่ปิดบัง “ทุกสิ่งที่นัยน์ตาของ [เขา] อยากเห็น” และเขาก็มิได้ห้าม “ใจจากความสนุกสนานทุกอย่าง” (ข้อ 10) เขาสร้างเรือนให้ตัวเองหลายหลัง ทำสวนองุ่นหลายแปลง (ข้อ 4) สะสมเงินทองไว้ด้วย (ข้อ 8) แม้กระทั่งเป็นใหญ่และยิ่งใหญ่กว่าทุกคนในเยรูซาเล็ม (ข้อ 9)

แต่ไม่มีสิ่งใดเลยที่ทำให้เขารู้สึกได้รับความสุขและการเติมเต็มที่แท้จริง

เมื่อเราดูรายการของสิ่งที่ผู้เขียนกล่าวมา จะเห็นได้ชัดเจนว่ามันคือสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่เรามักต้องการเพื่อยกระดับขึ้น เช่น การงานของเรา (ข้อ 4) ความร่ำรวย (ข้อ 7-8) และสถานะของเรา (ข้อ 9) สามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่โลกใช้บ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวได้อย่างแรง ซึ่งพยายามดึงเราออกจากแผนการหรือพระประสงค์ที่พระคริสต์ทรงมีสำหรับเรา

เราอาจคิดว่าถ้าเราเพียงแต่ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือเก็บเงินได้ถึงจำนวนหนึ่ง หรือถ้าเรากลายเป็นที่ยอมรับนับถือในวงสังคมของเรา เราก็จะมีความสุข แต่ผู้เขียนได้ทำการค้นคว้าหาคำตอบมาให้เราแล้ว และบอกเราว่า เมื่อเขาพิจารณาถึงสิ่งที่เขากระทำได้สำเร็จ เขาก็พบว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุ้มค่า นั่นคือ “ไม่มีประโยชน์อะไรภายใต้ดวงอาทิตย์” (ข้อ 11)

แทนที่จะทำเช่นนั้น ในข้อ 24-26 ผู้เขียนได้เตือนใจให้เราเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆ และประสบการณ์ที่เรามีในชีวิตนี้ ในฐานะที่เป็นของขวัญจากพระเจ้า ของขวัญเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถนำความพึงพอใจมาให้เรา โดยผ่านความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระองค์เท่านั้น

ผมต้องคอยเตือนตัวเองหากผมเริ่มแสวงหาของขวัญเหล่านี้โดยไม่ให้พระองค์ผู้เป็นเจ้าของเข้ามามีส่วนร่วมในการแสวงหา

ผมได้เห็นแล้วว่า ช่วงเวลาที่ผมมีความพึงพอใจและความชื่นชมยินดีมากที่สุดคือ เมื่อผมจดจ่ออยู่กับการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าก่อน แทนการแสวงหาความตื่นเต้นจากคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งต่อไป หรือจากเช็คเงินก้อนโตใบต่อไป แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ถูกทดลองให้แสวงหาการดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง หรือถูกดึงดูดด้วยสิ่งต่างๆ ของโลกนี้เพื่อให้ไขว้เขวไป แต่สิ่งนี้ทำให้ผมมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอและรู้สึกขอบพระคุณในสิ่งที่พระเจ้าประทานให้

– โดย แอรอน ดิ ปลาซิโด ประเทศออสเตรเลีย

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ

1. เคยมีบ้างไหมที่คุณพยายามแสวงหาบางสิ่งในชีวิต (เช่น ความบันเทิง หน้าที่การงาน การมีอิทธิพลกับบางคนผ่านความสัมพันธ์) โดยคาดหวังว่าคุณจะได้รับบางสิ่งเช่นเดียวกันกับที่คุณจะได้รับจากการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ซึ่งแท้จริงแล้วมีเพียงความสัมพันธ์กับพระเจ้าเท่านั้นที่ให้ได้ ทำไมสิ่งนั้นถึงทำให้คุณผิดหวัง?

2. มีสักสิ่งหนึ่งในชีวิตของคุณหรือไม่ ที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงมัน เพื่อที่คุณจะได้ใช้เวลากับพระเยซูมากขึ้น และแสวงหาความพึงพอใจในพระองค์ แทนที่จะแสวงหาความสุขชั่วคราว?

ตอบสนองด้วยบทเพลง

เกี่ยวกับผู้เขียน

แอรอนยอมรับว่าเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสตาร์วอร์ส และคลั่งไคล้แฟรงค์ โอเชี่ยน แต่ภาระใจในชีวิตเขาคือการเขียนและพูดถึงความสำคัญของพระวจนะของพระเจ้าที่มีต่อคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน

ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI

MUSTARD SEED

Scripture quotations taken from The Holy Bible, Thai Standard Version 2011 ®

Privacy Policy

MUSTARD SEED is a part of
Our Daily Bread Ministries.

ABOUT US

We are a platform for Christian young people to ask questions about life and discover their true purpose. We are a community with different talents but the same desire to make sense of God’s life-changing word in our everyday lives.

® 2019 MUSTARD SEED . ALL RIGHTS RESERVED.

CONNECT WITH US

          

OUR OTHER LANGUAGES SITES
YMI (English)
WarungSaTeKaMu (Bahasa Indonesia)
雅⽶米 (Simplified Chinese)

Share This