WRITER: บรี โรสติค ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: นุชจรี ปันคำ
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร
มีช่วงหนึ่งที่ฉันคิดว่าฉันมีความพร้อมสำหรับทุกอย่าง
ในความคิดของฉัน ฉันคิดว่าฉันเป็นบุคคลต้นแบบที่ใครๆ ก็อยากจะเป็นแบบฉัน ฉันเรียนเก่งและได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนต่อในมหาลัยอันดับต้นๆ หลายแห่ง ฉันเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่ใครๆ ก็รู้จักและกำลังคบหากับนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะหยุดฉันจากการประสบความสำเร็จและการสร้างการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ฉันอยากจะเป็น
แต่ติดอยู่ปัญหาหนึ่งคือ สิ่งที่ฉันต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ คือตัวฉัน ฉันอยากจะผอมกว่านี้ สวยกว่านี้ ฉลาดกว่านี้ และเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ เหมือนอย่างกับพวกดาราดังในทีวี หลังเรียนจบฉันอยากทำงานในวงการบันเทิง ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะคิดว่าฉันนั้นมีชีวิตที่เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างแล้วก็ตาม แต่ฉันต้องการมีมากขึ้นอีก ฉันอยากจะดูดีขึ้น สวยขึ้น เหมือนพวกผู้หญิงที่อยู่รอบๆ ตัวฉันที่อยากจะผอม สูง หรือสวยขึ้น ฉันได้ตกหลุมพรางนั้นเสียแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อฉันเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย แทนที่ฉันจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียว และดูดีขึ้น ทุกอย่างเป็นไปในทางตรงกันข้าม ฉันรู้สึกเบื่อง่าย ความสัมพันธ์ของฉันกับเพื่อนๆ รวมถึงผลการเรียนก็ค่อยๆ แย่ลง ฉันรู้สึกไม่มีความมั่นคงในชีวิตเอาเสียเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ ฉันหาคำตอบไม่ได้เลย และฉันก็ต่อสู้ดิ้นรนกับความรู้สึกนี้อยู่หลายเดือน
ในที่สุดมันกลับกลายเป็นว่าฉันท้อง มันเกิดขึ้นได้ยังไงเหรอ ฉันรู้ แต่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกลงมาจากจุดที่ฉันเคยอยู่สูงขนาดนั้นได้ ฉันเคยเป็นแบบอย่างให้กับหญิงสาวหลายคน เคยเป็นผู้ฝึกสอนให้เชียร์ลีดเดอร์ เคยเป็นอาสาสมัครในพันธกิจอนุชน และตอนนี้ฉันตั้งท้องได้สามสัปดาห์ ฉันรู้สึกอับอายกับการเข้าสู่อายุ 18 ปีของฉัน
ทุกสิ่งที่ฉันได้วางแผนไว้ว่าจะประสบความสำเร็จก็ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ฉันจะทำอย่างไร? ครอบครัวของฉันจะคิดอย่างไร? แฟนของฉันจะตอบสนองฉันอย่างไร? แม่ของฉันล่ะ? ฉันเคยให้ความสำคัญอย่างมากกับการหักห้ามใจในเรื่องเพศและการรักษาความบริสุทธิ์ ฉันมักจะพูดเสมอว่า “ยอมปฏิเสธในวันนี้ เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในวันหน้า” ฉันต้องบอกแม่ ฉันทำผิดพลาดต่อแม่ ฉันทำให้แม่ผิดหวัง ไม่เพียงแค่แม่ แต่ฉันยังทำผิดพลาดต่อพระเจ้าด้วย ในตอนนั้นหัวใจของฉันเริ่มเต้นรัวเมื่อรู้ถึงความหมายของการตั้งครรภ์ ที่ต้องเลี้ยงลูกให้เติบโตโดยลำพัง
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันรู้สึกไม่พร้อมเอาเสียเลย ฉันคิดถึงสิ่งจำเป็นต่างๆ สำหรับลูกที่จะเกิดมาเร็วๆ นี้ และคิดถึงตัวเอง ฉันตระหนักถึงความเห็นแก่ตัวที่ฉันเคยมีและการหมกมุ่นอยู่กับรูปร่างภายนอกและสิ่งต่างๆ ของโลก
ในวันอาทิตย์วันหนึ่งขณะที่ฉันไปโบสถ์กับแม่ ฉันรู้สึกถึงความผิดบาปกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ที่จริงแล้วแค่การที่ฉันนั่งอยู่ภายในตัวอาคารโบสถ์มันก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดแล้ว มีผู้คนมากมายที่นั่น แต่ฉันกลับรู้สึกโดดเดี่ยว ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยตัวเอง ฉันต้องการพระเจ้า แต่ฉันกลับคิดว่าพระเจ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบาปของฉัน หรือกับตัวฉัน
มีบางสิ่งเกิดขึ้นในเย็นวันนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เข้ามาและปลอบประโลมฉัน และฉันก็มอบทุกสิ่งให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ ฉันมอบถวายชีวิตแด่พระองค์ รวมไปถึงชีวิตของลูกของฉันด้วย ฉันทูลอ้อนวอนกับพระองค์ที่จะไม่ละทิ้งฉันและที่จะนำฉันให้ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้ด้วยดี คืนนั้นฉันปล่อยวางทุกสิ่งและฝากไว้กับพระเจ้าพร้อมกับเริ่มต้นที่จะติดตามพระองค์อย่างแท้จริง
ฉันไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายหลังจากการอธิษฐานคืนนั้น แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้น ฉันเริ่มอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐาน ความคิดของฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ฉันไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเองเท่านั้นแต่ยังให้ความสำคัญกับลูก คู่หมั้น และพระเจ้าอีกด้วย
ปัจจุบันลูกชายของฉันมีอายุ 8 ปี เขาเข้าร่วมกิจกรรมที่คริสตจักร เรียนรู้และเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีผู้เชื่อเหมือนอย่างฉันและสามีของฉัน ฉันเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มรับใช้ในคริสตจักรและรับใช้เต็มเวลาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจถึงความรู้ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตในพระคัมภีร์ ฉันเองจึงได้มีโอกาสพูดคุย แบ่งปัน และรับใช้ให้กับผู้เชื่อทั้งหลาย
ในช่วงการเดินทางของฉันกับพระเจ้าทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าพระองค์ทรงทราบว่าเราทุกคนสามารถทำสิ่งที่ผิดพลาดได้ แต่เพราะพระองค์ทรงรักเรามากจึงได้ประทานพระบุตรเพื่อไถ่บาปและชำระเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงชี้แนะ สั่งสอน และนำชีวิตเราด้วยความรัก
สิ่งที่เราควรปฏิบัติคือทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ฉันใช้เวลาชั่วขณะหนึ่งเพื่อตระหนักว่าการตั้งครรภ์ของฉันไม่ใช่แค่การให้กำเนิดลูก แต่มันเป็นการเกิดใหม่ของชีวิตฉันอีกด้วย
พระเจ้าทรงอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในชีวิตฉันและนำฉันกลับไปหาพระองค์ ดังนั้นแทนที่ฉันจะวิ่งไล่ตามวัตถุสิ่งของและความสุขที่ผิวเผิน ตอนนี้ฉันวิ่งไล่ตามพระเจ้า รับใช้พระองค์ และรักคนอื่น แทนที่ฉันจะเต้นรำอยู่ในความหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ปรากฏอยู่ในมิวสิควิดีโอ ฉันขอเต้นรำเพื่อนมัสการพระเจ้า แทนที่ฉันจะคอยกังวลเรื่องความสวยงามภายนอก ฉันขอใช้เวลาเสริมสร้างจิตวิญญาณกับพระเจ้าดีกว่า
ฉันจะไม่บอกว่าการเดินทางของฉันนั้นไม่มีอุปสรรคหรือไม่มีความท้าทาย การเปลี่ยนแปลงจากหญิงสาววัยรุ่นที่เห็นแก่ตัวกลายมาเป็นผู้หญิงที่เสียสละที่ผ่านความยากลำบากมา ฉันสูญเสียมิตรภาพและโอกาส เป็นคุณแม่ในช่วงวัยรุ่น จากนั้นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ต่อด้วยการแต่งงาน จากนั้นก็ทำงานเต็มเวลาอย่างการเข้าร่วมพันธกิจและการเริ่มมีสังคมใหม่นั้นเป็นสิ่งที่ยาก แต่ฉันจะไม่ขอเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นแล้ว
ฉันเชื่อว่าบางครั้งพระเจ้าอนุญาตให้เราทำผิดพลาดเพื่อที่เราจะได้เข้าหาพระองค์ พระองค์จะไม่ทิ้งเรา แต่พระองค์ทรงเสริมกำลังเราในช่วงเวลาที่อ่อนแอและประทานสันติสุขแทนที่ความเศร้าโศกของเรา “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (โรม 8:28) ความผิดพลาดสามารถนำเราให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าและทำให้เราเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น ถ้าเรายอมจำนนต่อพระองค์ พระเจ้าทรงใช้ความผิดพลาดของฉันเพื่อสำแดงให้ฉันเห็นถึงวัตถุประสงค์ในชีวิตของฉันที่จะรับใช้และรักประชากรของพระองค์
เมื่อฉันได้มองย้อนกลับไปในชีวิตของฉัน ฉันสามารถพูดได้เลยว่า ฉันไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ฉันต้องการ แต่ฉันได้รับการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องเปลี่ยน ฉันยินดีที่พระเจ้าเป็นคำตอบสุดท้ายในชีวิตฉัน
YOU MAY ALSO LIKE
กังวลจนไม่หลับไม่นอน
WRITER: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนเราก็มีอาการนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ พอเช้าตื่นมาก็ไม่สดชื่น อารมณ์ไม่ดี การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่เป็นครั้งคราว แต่สําหรับบางคนอาจเจอปัญหานี้เป็นประจำ...
ทำไมเราถึงไม่กล้าปฏิเสธ
WRITER: ซาร่า โซ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สุมิตรา ชามรามดาบานEDITOR: ปวีณา นิลบุตร “ถ้าใช่ก็จงบอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็จงบอกว่าไม่ใช่” (ยากอบ 5:12) ขณะที่ฉันเขียนข้อความนี้ ฉันเพิ่งจะพูดว่า "ไม่" ที่จะฟังความขัดข้องใจของแม่เรื่องคนสนิทในครอบครัว...
พระเจ้าช่วยฉันผ่านประสบการณ์เลวร้าย (ถูกล่วงละเมิดทางเพศ)
WRITER: แคทเธอรีน ฟลินน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Mustard Seed TeamEDITOR: Mustard Seed Team ในปี 2003 ฉันอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษตอนที่ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนร่วมห้องของฉัน...